ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยืนตัวตรงและนิ่งสงบ
ภายใต้ความสงบนี้ มีความอึดอัดอดกลั้นและความกดดันที่ไร้รูปร่างปกคลุมลงมา
แม้ว่าเป็นตงฟางหลีก็ยังตกใจกับความกดดันนี้
“ตงฟางหลี หม่อมฉันเคยบอกแล้วว่าไม่ควรผิดพลาดซ้ำเกินสามครั้ง มิว่าท่านจะใช้มือข้างใดตบหม่อมฉัน หม่อมฉันจะทำลายมือข้างนั้นของท่านเสีย” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว “หม่อมฉันพูดสิ่งใดทำสิ่งนั้น”
ตงฟางหลีมองรอยยิ้มของนาง พลันรู้สึกอึดอัดหัวใจอีกครั้ง
เป็นรอยยิ้มนั้นอีกแล้ว!
รอยยิ้มที่เห็นได้ชัดว่าเย็นชาเหลือแสน ทว่าเจิดจรัสยิ่งนัก
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินเข้ามาหาเขา “หม่อมฉันต้องแก้ไขเสียหน่อย แต่ไหนแต่ไรหม่อมฉันไม่เคยทำหูทวนลมต่อคำพูดของท่านอ๋องเลยเพคะ ตรงกันข้าม เป็นท่านอ๋องต่างหากที่ทำหูทวนลมต่อคำพูดของหม่อมฉัน”
มุมปากยังคงมีเลือดไหลออกมา ในลำคอเต็มไปด้วยรสชาติของสนิม
ทว่านางกลับดูไม่สนใจ ใช้มืออันสั่นเทาเช็ดเลือดบนมุมปาก ก่อนจะเอาแขนเสื้อมาปกปิดมือ
รอยยิ้มบนใบหน้าที่ถูกตบจนเสียรูปกลับสดใสยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ตงฟางหลีขมวดคิ้ว
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังคงยิ้มอยู่ตลอด รอยยิ้มนั้นเป็นเฉกเช่นเมื่อคืน เห็นได้ชัดว่ามันประกายแวววาวมาก แต่ก็เหมือนกับเมฆสีดำกำลังเคลื่อนคล้อยมาปกคลุมบนศีรษะ สั่นสะท้านถึงก้นบึ้งหัวใจ
สงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด แต่ดูราวกับมีฟ้าร้องคำรามก้อง
ระเบิดหัวใจที่อึดอัดของเขา
“ตงฟางหลี ท่านจดจำสิ่งที่หม่อมฉันพูดได้หรือไม่เพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยขึ้น “เมื่อวานหลังจากที่ท่านเตือนหม่อมฉันให้อยู่ห่างจากรักแรกมิอาจลืมเลือนของท่าน หม่อมฉันก็เตือนท่านด้วยว่าถ้าไม่ยั่วยุข้า ข้าก็จะไม่เป็นฝ่ายก่อเรื่อง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน