ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน นิยาย บท 68

“บอกมาเถิด ผู้ใดติดสินบนท่านกัน?” เสียงของฉินเหยี่ยนเย่ว์ดังไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

“ไม่ ไม่มีผู้ใดติดสินบนกระหม่อม” หมอหลวงหลินอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลง “กระหม่อมไร้ความสามารถ เป็นกระหม่อมเองที่ด่วนสรุปว่าองค์ชายสิบถูกยาพิษเพียงเพราะสีหน้าดูคล้ำหมอง”

“มิมีผู้ใดติดสินบนท่านหรือ?”

“ไม่มีผู้ใดพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลินตัวสั่น

เขาผ่อนลมหายใจหนัก ในฤดูกาลที่หยดน้ำก็กลายเป็นน้ำแข็ง กระนั้นเม็ดเหงื่อของเขายังคงหยดลงมาไม่ขาดสาย

“เฮ้อ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก้มหน้าลงมองใบหน้าของหมอหลวงหลินซึ่งบิดเบี้ยวด้วยความหวาดกลัว “องค์ชายสิบฟื้นขึ้นมาแล้ว หากอยากสอบสวนมิใช่เรื่องยาก หมอหลวงหลิน สารภาพแล้วโทษหนักจะเป็นเบา”

“ความผิดฐานลอบสังหารองค์ชายคืออะไร ท่านน่าจะกระจ่างชัดกระมัง”

“กระหม่อมไม่ได้รับสินบนเลยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงหลินก้มหน้าลงจนเกือบจะถึงหิมะ

เสียงของพระชายาท่านอ๋องเจ็ดเบามาก ทว่ายามที่ได้ยินกระทบในหู กลับรู้สึกเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจจากปรโลกเสียมากกว่า

ความรู้สึกหวาดกลัวที่ไร้ร่องรอยดั่งภูผาขนาดใหญ่ที่กดลงบนหัวใจ และเหมือนกับคลื่นลมซัดถาโถมกระหน่ำไม่หยุด ความรู้สึกตื่นตระหนกที่ไม่สามารถบรรยายได้แผ่กระจายไปทั่วร่างกายสั่นเทา ขาอ่อนสองข้างสั่นไหว ใบหน้ากลายเป็นสีเทา

“ไม่มีผู้ใดติดสินบนท่าน เช่นนั้นท่านจึงจงใจมองเขาตายไปโดยที่ไม่ช่วยอะไรเลย?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำแขนเสื้อ “ท่านรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมเยี่ยงนี้เทียบเท่ากับการลอบสังหารองค์ชาย คือการประหารเก้าชั่วโคตร”

เมื่อหมองหลวงหลินเห็นว่าไม่สามารถซ่อนมันได้อีกต่อไป จึงหมอบตัวลงกับพื้นและโขกหัวอย่างแรง

“กระหม่อมสมควรตาย กระหม่อมมีความผิดสมควรตาย” เขาพูดอย่างสั่นเทา “กระหม่อมเห็นสีหน้าม่วงคล้ำขององค์ชายสิบ ราวกับถูกยาพิษ แต่ชีพจรกลับมิใช่ถูกยาพิษ”

“ยามนั้นองค์ชายสิบเริ่มสูดหายใจเข้าแล้วแต่หายใจออกไม่ได้ เกรงจะช่วยชีวิตไม่ได้แล้ว เวลานั้นกระหม่อมยังไม่ได้ทราบสาเหตุของอาการป่วยขององค์ชายสิบเป็นที่แน่นอน เพื่อป้องกันตนเองจึงผลักว่าเป็นสาเหตุจากการถูกยาพิษพ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อมมีความผิดสมควรตาย ทักษะแพทย์ของกระหม่อมย่ำแย่ แต่กระหม่อมไม่ได้ลอบสังหารองค์ชายสิบอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ทอดถอนใจ

สิ่งที่หมอหลวงหลินพูดน่าจะเป็นเรื่องจริง เขาไม่ได้รับสินบน แต่หลบเลี่ยงความรับผิดชอบ

หากเป็นเช่นนี้จะจัดการได้ง่ายกว่า