“หากเกิดเรื่องที่คาดคิดไม่ถึงขึ้นกับลู่เอ๋อร์ ข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะอธิบายให้พ่อแม่นางฟังเยี่ยงไร”
ร่างสูงใหญ่กำยำของอ๋องหลูหยางสั่นเทา ขอบตาแดงก่ำ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี จึงปลอบใจเสียงอ่อนด้วยคำพูดไม่กี่คำ
รถม้าถูกขับออกมาเป็นเวลานานแล้ว และในที่สุดก็หยุดอยู่หน้าจวนอ๋องเจ็ด
“ถึงแล้ว” อ๋องหลูหยางยกมือขึ้น “เมื่อครู่ทำให้เจ้าเห็นเรื่องขบขันแล้ว ชั่วระยะเวลาหนึ่งช่างมีอารมณ์มากมายนัก ข้าได้พูดมากมายเช่นนี้ให้พระชายาอ๋องเจ็ดฟัง จริง ๆ แล้ว…”
“อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ อยากจะขอบใจพระชายาอ๋องเจ็ดมาก ๆ บุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้ ข้ามิมีวันลืม”
“ท่านอ๋องหลูหยาง ท่านเกรงใจกันเกินไปแล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโน้มตัวไปชิดริมหูขององค์หญิงเย่ว์ลู่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “องค์หญิงเย่ว์ลู่ ความตายมิใช่วิธีแก้ปัญหา หากท่านตาย ก็รังแต่จะทำให้ท่านปู่ของท่านเจ็บปวดหัวใจเท่านั้น”
“ถ้าท่านตายก็จะสมความปรารถนาของอีกฝ่าย เป็นเช่นนี้แล้ว การตายของท่านจะไม่มีค่าอะไรเลย ญาติสนิทเจ็บปวด ศัตรูมีความสุข ท่านยินดีหรือ? คิดให้ดีเสียหน่อยเถิด หากคิดตกแล้ว ให้ส่งคนมาหาข้าที่จวนอ๋องเจ็ด”
หลังจากพูดจบ นางก็กระโดดลงจากรถและยืนมองส่งรถม้าออกไปก่อนจะกลับจวนอ๋องเจ็ด
ยามนี้ ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว
วันทั้งวันจบลง ฉินเหยี่ยนเย่ว์หมดเรี่ยวแรง ย่างก้าวก็สะเปะสะปะเล็กน้อย
นางพยายามกลับไปยังเรือนโยวหลาน ทันทีที่เข้าประตู กลับต้องตกใจกับทัศนียภาพในลานบ้าน
หม้อจานชามกะละมังในครัวเล็ก ๆ ถูกโยนทิ้งกระจัดกระจายอยู่ในลานบ้าน
กองหิมะในลานบ้านยังไม่ได้ถูกเก็บกวาด ทว่าถูกคนเหยียบย่ำจนยุ่งเหยิง ภายใต้แสงสลัวมันช่างเละเทะเหลือทน
“เฟ่ยชุ่ย เกิดอะไรขึ้น?” หน้าผากของฉินเหยี่ยนเย่ว์เต้นตุบ ๆ
นางไม่ยักจำได้ว่าที่บ้านเลี้ยงสุนัขพันธุ์ฮัสกี้ไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นบ้านจะถูกรื้อค้นได้อย่างไร?
“พระชายา ท่านกลับมาแล้ว” เฟ่ยชุ่ยเดินเข้ามาต้อนรับนางด้วยตาแดงด่ำ “มีหญิงผู้หนึ่งบุกเข้ามา บอกว่าเป็นสาวใช้ในเรือนของเราเพคะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน