“ตู้เหิง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังตู้เหิงด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ก่อนหน้านี้เจ้าเกลียดข้า คิดว่าเป็นข้าที่บีบบังคับให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าตัดเส้นเอ็นข้อมือใช่หรือไม่?”
ตู้เหิงเยาะหยัน นางยังมีหน้ามากล่าวอีกหรือ?
“ข้าคิดว่าพวกเจ้าควรจะขอบคุณข้า” นางกล่าวเสียงอ่อน “แม้ว่าตงฟางหลีจะได้รับบาดเจ็บ แต่ ข้อมือสามารถรักษาได้ หากไม่มีเรื่องในวันนี้ ข้าก็จะไม่พบบาดแผลนี้ และขาของเขาก็จะใช้การไม่ได้ในเวลาไม่ถึงเจ็ดวัน ถึงตอนนั้น ก็จะไร้ซึ่งยารักษา เป็นคนพิการไปตลอดชีวิต”
ตู้เหิงได้ยินประโยคนี้แล้ว ใจสั่นเบา ๆ
ขาของท่านอ๋อง ร้ายแรงถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
“เจ้าไม่เชื่อก็สุดแท้แต่เจ้า” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ไม่ได้คาดหวังให้เขามาเชื่อ
นี่ ก็คือสวรรค์ลิขิตที่กล่าวไว้กระมัง
หลังจากที่นางทำความสะอาดบาดแผลเสร็จแล้ว ก็ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อล้างอีกสองสามรอบ หาสมุนไพรที่สามารถใช้ได้นำมาบดเป็นผง และพันแผลใหม่อีกครั้ง
“เปลี่ยนยาวันละหนึ่งครั้ง หากอีกเจ็ดวันแผลตกสะเก็ดได้อีกครั้ง ก็ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว”
นางถอนหายใจ
เมื่อหาสาเหตุของอาการไข้สูงเจอ ต่อไปก็แค่รอให้อุณภูมิร่างกายของเขาคงที่ก็ไม่เป็นอันใดแล้ว
ทว่า บาดแผลนั้นแปลกอยู่เล็กน้อย
หากเป็นสมุนไพรที่คุ้นชิน นางจะต้องได้กลิ่นอย่างแน่นอน แต่ อยู่กับตงฟางหลีมานานถึงเพียงนี้ กลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย
สิ่งเดียวที่สามารถอธิบายได้คือ สมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้อยู่ในความรู้ของนาง
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้ว รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อยอย่างน่าประหลาด
นางไม่เข้าใจสมุนไพรที่เป็นเอกลักษณ์ของโลกใบนี้มากนัก เมื่อลู่ซิวไม่อยู่ จึงจำเป็นจะต้องหาคนที่น่าเชื่อถือทั้งยังมีทักษะการแพทย์สูงส่งมาเฝ้าตงฟางหลีสักคน เพื่อเลี่ยงอาการป่วยให้ยืดนานออกไป
หมอหลวงหลิน!
ฉินเหยี่ยนเย่ว์นึกถึงคนที่เหมาะสมที่สุดขึ้นมา คาดไม่ถึงว่าตาเฒ่าคนนั้นจะมีประโยชน์ได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
“ตู้เหิง รอให้อาการป่วยของตงฟางหลีคงที่แล้ว ให้เจ้าเข้าวังไปหาหมอหลวงหลินเสีย เขาเป็นชายชราผอมแห้งคนหนึ่ง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน