ตู้เหิงที่ได้ยินคำพูดที่ไร้ยางอายของฉินเหยี่ยนเย่ว์นั้น ก็ชะงักราวกับกลายเป็นหินไป ณ ตรงนั้น ไม่รู้ว่าควรจะแสดงสีหน้าออกไปอย่างไรดีไปชั่วขณะ
“พูดไม่อายปาก” ผ่านไปเนิ่นนาน เขาก็เอ่ยด้วยใบหน้าแดงซ่าน
“ข้าพูดไม่รู้จักอายปาก? แม้ว่าตงฟงหลีจะไม่ชอบข้า รังเกลียดข้า ข้าก็ยังเป็นพระชายาของเขา ว่ากันตามหลักแล้ว ข้าทำอะไรลงไปบ้างก็ไม่ถือว่ามากเกินไป” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ตอบโต้ “แต่เจ้าเถอะ เห็นได้ชัดว่าเจ้าเป็นคนเชิญข้ามา แต่ยังจับผิดเสียทุกอย่าง เจ้าเกิดปีเม่นหรือ?”
“ตู้เหิง หากเจ้าสามารถรักษาเขาได้ก็มาทำเอง หากเจ้าทำไม่ได้ก็หุบปากเสียแล้วดูให้ดี ๆ หากเจ้าต้องการให้ตงฟางหลีหายดี ก็เก็บความคิดของเจ้าไป อย่ามาขัดขวางข้า”
“บุรุษเพศย่อมมีนิสัยใจคอกว้างขวางและกล้าทำกล้ารับ เจ้าเข้าใจหลักที่ว่าจะใช้คนก็อย่าระแวง หากจะระแวงก็อย่าใช้เขาหรือไม่? หากเจ้ายังไม่รู้จักชั่วดี เช่นนั้นข้าจะไปเอง แล้วให้เจ้ามารักษา”
สีหน้าของตู้เหิงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เนื่องจากถูกขัดจนพูดไม่ออก
หลังจากที่เขาถูกตำหนิไปหนึ่งยก ก็นิ่งเงียบลง และไม่เอื้อนเอ่ยใด ๆ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าคำพูดแรงไปเล็กน้อย น้ำเสียงที่กล่าวจึงอ่อนลง “ข้ากระหายน้ำ เจ้าปอกแอปเปิ้ลให้ข้าสักหน่อย ถือเสียว่าเป็นการขออภัยของเจ้า”
ตู้เหิงหน้าผากกระตุกหลายครั้ง ทว่าไม่อาจปฏิเสธได้ จึงนั่งปอกแอปเปิ้ลอย่างเงียบ ๆ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์นวดหว่างคิ้ว
องครักษ์สุนัขผู้ซื่อสัตย์หยุดแล้ว ความสนใจทั้งหมดของนางก็พุ่งไปที่ร่างของตงฟางหลี
แม้ว่าตงฟางหลีจะหมดสติ แต่ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด หัวคิ้วน่ามองขมวดแน่น จากความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
สีหน้าขาวซีดราวกระดาษ ร่างกายกลับร้อนระอุ
อุณหภูมิร่างกายยังคงอยู่ในระดับสูง
นางจึงเอาน้ำแข็งวางลงบนผ้าขนหนูทันที ก่อนจะคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ สังเกตชีพจรของเขาตลอดเวลา
ชีพจรปั่นปั่วน ประเดี๋ยวก็เต้นเร็ว ประเดี๋ยวก็เต้นช้า
ฉินเหยี่ยนเย่ว์กังวลเป็นอย่างมาก
ตามหลักของพยาธิวิทยาแล้ว ตงฟางหลีไม่ควรจะมีไข้สูงอีก ทว่า สถานการณ์ของเขาในยามนี้อันตรายเสียยิ่งกว่าที่ผ่านมา

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน