“ชดใช้หนี้กระมัง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยื่นเทียบยาที่เขียนเสร็จแล้วให้กับตู้เหิง “ผลลัพธ์บนศาลาเมื่อวานนี้ มิใช่สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าเพียง...”
นางสัมผัสแก้มของตนเองเบา ๆ
ตำแหน่งที่โดนตงฟางหลีตบยังคงบวมและมีอาการปวด
“ช่างเถิด เรื่องเกิดขึ้นไปแล้ว เอ่ยถึงก็มิมีความหมายอันใด” นางหลุบตาลง เมื่อนึกถึงทุกอย่างที่ตงฟางหลีทำเพื่อซูเตี่ยนฉิง อารมณ์ที่อธิบายได้ยากนั้นก็พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
“ตู้เหิง ข้ามีเรื่องจักถามเจ้า”
“ตงฟางหลีมีนิสัยเย็นชามาแต่กำเนิด ทั้งยังซ่อนนิสัยแท้จริงเอาไว้ตลอด เขาควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี มิเคยเปิดเผยให้ผู้ใดรับรู้ได้โดยง่าย เหตุใดเมื่อเป็นเรื่องของซูเตี่ยนฉิงถึงได้เผยอารมณ์ออกมาเสียอย่างง่ายดายนัก?”
ตู้เหิงแววตาเป็นประกาย
เขามองตัวหนังสือบิด ๆ เบี้ยว ๆ บนเทียบยา แล้วเงียบไปเป็นเวลานานก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “ท่านอ๋องถูกบีบให้แต่งกับท่านโดยไร้ทางเลือก จึงรู้สึกผิดต่อแม่นางซูพ่ะย่ะค่ะ”
“เขากับหญิงผู้นั้นเปลี่ยนจากข้าวสารเป็นข้าวสุกกันแล้ว?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ขมวดคิ้ว
“มิใช่เช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ” ตู้เหิงกล่าวต่อ “ตอนที่ท่านอ๋องยังทรงพระเยาว์ พระสนมอวิ๋นถูกคนให้ร้าย ถูกขับไล่ให้ไปอยู่ที่ตำหนักเย็น ท่านอ๋องที่อยู่ในวังจึงโดนข่มเหงรังแกเป็นประจำพ่ะย่ะค่ะ”
“อยู่มาฤดูหนาวปีหนึ่ง มีคนผลักท่านอ๋องจนตกลงไปในแม่น้ำที่แข็งตัวจนกลายเป็นน้ำแข็ง อีกทั้งตรงนั้นยังไม่มีคนผ่านไปผ่านมา ท่านอ๋องดิ้นรนจนหมดแรง ขณะที่มองตนเองกำลังจะจมน้ำหรืออาจจะแข็งตาย แม่นางซูก็เข้ามาช่วยท่านอ๋องขึ้นมาจากแม่น้ำพ่ะย่ะค่ะ”
“แม่นางซู? นางอายุน้อยกว่าตงฟางหลีหลายมิใช่หรือ? จะไปช่วยเขาไว้ได้อย่างไร? ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยถาม
“วรยุทธ์ของท่านอ๋องแข็งแกร่งมาก นับว่าโดดเด่นเหนือคนอื่นพ่ะย่ะค่ะ มีเพียงอย่างเดียวที่ท่านอ๋องกลัวคือน้ำพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจึงเดาว่า อาจจะเป็นแม่นางซูดึงท่านอ๋องมาจนถึงริมฝั่ง” ตู้เหิงกล่าว
“ตงฟางหลีกลัวน้ำ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เลิกคิ้ว ราวกับนางได้ยินเรื่องน่าเหลือเชื่อ
ตู้เหิงขมับกระตุก
เหตุใดเขาถึงได้เลอะเลือนจนเปิดเผยจุดอ่อนของท่านอ๋องได้นะ?
“เหตุใดเขาถึงกลัวน้ำ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แววตาเป็นประกายวาบ “หากเจ้าไม่พูด ข้าจักไปถามเขาด้วยตนเอง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน