"ข้าไม่ได้หิวแต่ร่างกายต้องการอาหารตั้งแต่เมื่อวานยังไม่มีสิ่งใดตกลงท้อง"
"เช่นนั้นองค์หญิงพักอีกหน่อยข้าจะให้คนตั้งโต๊ะอาหารที่นี่"
เขาไม่เยาะเย้ยนางกลับตอบรับความต้องการอย่างว่องไว นางจึงนับว่าเขามีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่บ้าง หาได้ป่าเถื่อนเกินไปอย่างที่นางคิด
ปกติแล้วนางไม่เคยคุ้นชินกับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบมานานเช่นหยางเอ้อหลาง
เมื่อพบกันเช่นนี้นอกจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่ล่อลวงนางแล้วท่าทางของเขาในเวลานี้ก็ล่อลวงนางเช่นกัน
องค์หญิงสิบสามได้แต่ถอนหายใจออกมา
ของสวยงามเช่นหยางเอ้อหลางคงได้แต่ใช้ตามองแตะต้องไม่ได้เป็นอันขาดหาไม่แล้วคงมีภัยมาถึงตัวเป็นแน่
พี่หญิงใหญ่ของนางร้ายกาจเพียงใดนางย่อมรู้ดี คิดได้ดังนั้นนางจึงเอ่ยออกมาด้วยวาจาเป็นทางการกับเขายิ่ง
"ขอบคุณท่านแม่ทัพ"
"เป็นเรื่องสมควรที่ต้องดูแลแขก"
หยางเอ้อหลางถือนางเป็นแขกไปแล้ว ระหว่างเขาและนางเรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้เขารู้ดีว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงการรับนางเข้าจวนได้
แต่สตรีผู้นี้ดูเหมือนว่าจะไม่เข้าใจสิ่งใดเลยสักอย่างเดียว
แต่หยางเอ้อหลางไม่รีบร้อนอย่างไรเขาจะค่อยๆ อธิบายให้นางเข้าใจในภายหลัง จากการที่นางแอบวาดภาพเขามากมายเช่นนั้นเขาจึงคิดเข้าข้างตนเองว่านางคงมีใจให้ตนอยู่บ้าง คงไม่ปฏิเสธการมาเป็นภรรยาของเขาเป็นแน่
บัดนี้ในเรือนรับรองโต๊ะอาหารถูกตั้งขึ้นพร้อมทั้งอ๋องฉางอันได้รับอนุญาติให้พบองค์หญิงสิบสามแล้ว อากาศวันนี้นับว่าดียิ่ง แสงอบอุ่นของดวงตะวันสาดแสงลงมาเสื้อคลุมของฉางอ๋องถูกปลดออกและคลุมมายังร่างขององค์หญิงแทน ผู้เป็นน้องสาวมองอ๋องฉางอันอย่างขอบคุณ
องค์หญิงสิบสามและหยางเอ้อหลางร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยกันเป็นครั้งแรกโดยมีฉางอ๋องนั่งอยู่ด้านข้างคอยคีบกับข้าวให้น้องสาวด้วยความห่วงใย
อาหารของจวนแม่ทัพหยางนับว่าเลิศล้ำถูกปากองค์หญิงสิบสาม นางหิวจนรู้สึกไร้เรี่ยวแรงอีกทั้งเมื่อคืนนอกจากจะใช้พลังของกระพรวนผู้พิทักษ์ช่วยตนเองจากบาดแผลของธนูแล้วนางยังใช้พลังของมันช่วยหยางเอ้อหลางขึ้นจากน้ำอีกด้วย การกระทำเช่นนั้นทำให้พลังปราณในร่างของนางหายไปหลายส่วนนางจึงเหนื่อยล้าและหลับเป็นตายมาได้ทั้งวัน
จู่ๆ หยางเอ้อหลางก็หยุดพูด เขาเห็นร่างกายของนางแล้วเขาจึงถือนางคือสตรีของเขาตามธรรมเนียมของต้าชิงที่พึงรักษา
"เห็นสิ่งใด ท่านเห็นสิ่งใด"
เป็นองค์หญิงสิบสามที่คาดคั้นความจริงนางรู้อยู่แล้วว่าตอนคืนร่างนางต้องเปลือยเปล่า เหตุใดคนเถื่อนนี้จึงได้กล้าเอ่ยถึงเรื่องละอายเช่นนี้ต่อหน้าสตรีที่มีฐานะเป็นถึงองค์หญิงเช่นนาง
"องค์หญิงท่านคิดให้ดีเมื่อคืนเจ้ากับข้าอยู่ด้วยกันเพียงลำพังทั้งคืนในตอนเช้ามีผู้คนจำนวนมากมาพบพยานรู้เห็นมากมายเช่นนั้นอย่างไรเสียก็หลีกเลี่ยงไม่ได้"
เขาเอ่ยขึ้นตอบนางด้วยสีหน้าเรียบเฉย อีกทั้งไม่ตอบคำถามนางที่ถาม เรื่องบางเรื่องสมควรเก็บไว้ในใจอย่างแท้จริง เอ่ยออกมารังแต่จะทำให้นางเสียหายมากขึ้นอีกทั้งคงอับอายผู้คนไปอีกนาน
"พี่ใหญ่"
น้ำเสียงขององค์หญิงสิบสามที่เอ่ยออกมาและแววตาเศร้าสร้อยนั้น แน่นอนว่าคือการขอความช่วยเหลือ อ๋องฉางอันในทีแรกโกรธเคืองฝ่าบาทที่ตัดสินใจยกสิบสามของเขาให้หยางเอ้อหลาง แต่เมื่อใคร่ครวญอย่างดีเรื่องแต่งงานก็เป็นเรื่องจำใจ การจะรักษาชื่อเสียงให้สิบสามนั้นมีเพียงวิธีเดียว เพราะเขารักนางจึงไม่อาจให้ผู้ใดดูหมิ่นนางลับหลังได้ เมื่อไตร่ตรองจนรอบคอบด้วยการตั้งสติให้ดี อีกทั้งฟังเหตุผลของหยางเอ้อหลางที่กล่าวออกมานั้นล้วนถูกต้อง อ๋องฉางอันกลับมีความคิดที่จะให้น้องสาวแต่งงาน เขาผู้เป็นพี่ชายช่วยนางได้เท่านี้จริงๆ
"น้องหญิงครานี้เจ้าต้องแต่งแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25
ได้อ่านถึงตอนที่ 66 แระคะ...มีอัพเดทเพิ่มเติมอีกมั้ยคะ..อยากอ่านต่อค่ะ...
สนุกมากกค่ะ...มีอัพเดทตอนต่อไปหรือป่าวคะ...ขอบคุณค่ะ...