จู่ๆ เมื่อคิดได้ว่าเขานอนกับนางทั้งคืนพลันกล่าวออกมาเช่นนั้นด้วยความตกใจแม้ว่านางจะไม่รู้สึกว่าร่างกายผิดปกติแต่ประการใดแต่นางไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับเรื่องพวกนี้
ในนิทานที่เคยอ่านมาพอถึงฉากนี้ส่วนใหญ่หนังสือล้วนตัดภาพไปที่แสงเทียนดับลง ตื่นมาพวกเขาก็ร่วมหอกันเรียบร้อย ความรู้เรื่องนี้องค์หญิงสิบสามจึงอ่อนด้อยนัก
แต่ในเมื่อเขากับนางนอนด้วยกันมาทั้งคืนอีกทั้งแสงเทียนก็ดับดั่งในนิทานแล้ว ตื่นขึ้นมาก็คือร่วมหอลงกันแล้วเป็นแน่
หยางเอ้อหลางสำลักก่อนจะไอแค่กๆ ออกมา
"ข้ามิใช่คนฉวยโอกาสเช่นนั้นหากคิดจะทำสิ่งใดกับผู้ใด คนผู้นั้นต้องยินยอมเสียก่อน"
"ท่านพูดจริงหรือ ยังไม่ได้ล่วงเกินข้าใช่หรือไม่"
องหญิงสิบสามยกมือกอดอกอย่างปกป้องตนเอง เขายังกอดนางแน่นแม้อยากขยับกายก็ลำบากยิ่ง หยางเอ้อหลางผู้นี้ยิ่งนางขัดขืนเขายิ่งชอบเอาชนะในใจจึงคิดไตร่ตรองปล่อยให้เขากอดดีกว่าให้เขากระทำการอย่างอื่นโดยที่นางไม่ยินยอม
"ข้าหาใช่คนชอบโกหก"
เขาเอ่ยเบาๆ พลางยิ้มหล่อเหลา ในเวลาเช้าที่ไร้แสงตะวันเช่นนี้เหตุใดรอยยิ้มของคนผู้นี้ถึงได้สว่างไสวแสบตาเช่นนี้ องค์หญิงสิบสามชะงักงันอีกทั้งสายตายังจับจ้องอยู่ที่รอยยิ้มร้ายกาจนั้น
โอ้ ไม่นะ นางจะมาตกหลุมเขาเพียงเพราะเขาหน้าตาดีไม่ได้ คิดเช่นนั้นจึงกระแอมไล่ความคิดเลวร้ายของตนเองให้พ้น นางต้องเป็นตัวของตัวเองมากกว่านี้
“นับว่าท่านยังมีดีอยู่บ้าง” ในที่สุดนางก็เอ่ยขึ้นมาอย่างยากลำบาก
“แต่บัดนี้ท่านนับว่าเป็นภรรยาของข้าแล้ว ดังนั้น.."
“ดังนั้นอะไร” นางถามทันควัน
พลันต้องตกใจเมื่อจู่ๆ คนผู้นั้นก็จุมพิตริมฝีปากนางแผ่วเบาจนนางไม่อาจคิดว่าเขารังแกตนได้ องค์หญิงสิบสามจำต้องตกตะลึงอีกครั้ง กับกิริยาอ่อนโยนนี้
องค์หญิงสิบสามเงยหน้าจ้องเขาตาไม่กะพริบรู้สึกตื่นตระหนกอีกทั้งรู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจ เขายังมีหน้ามาบอกว่าตนเองหาใช่คนฉวยโอกาสอีก
นางยกมือขึ้นทุบอกเขาไปหลายครั้งดูเหมือนว่าคนผู้นั้นจะมีรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เขากุมมือของนางที่กำมัดแน่นไม่ให้ตีเขาเอาไว้แล้วกอดร่างนุ่มนิ่มให้แนบชิด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25
ได้อ่านถึงตอนที่ 66 แระคะ...มีอัพเดทเพิ่มเติมอีกมั้ยคะ..อยากอ่านต่อค่ะ...
สนุกมากกค่ะ...มีอัพเดทตอนต่อไปหรือป่าวคะ...ขอบคุณค่ะ...