ณ สนามบินนานาชาติ เมืองหลินไห่
สนามบินที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนและไม่เคยหลับใหลแห่งนี้ มาวันนี้กลับเงียบสงบ ไม่มีแม้กระทั่งผู้โดยสารเลยสักคนเดียว
มีเพียงทหารในเครื่องแบบลายพรางกว่าพันนายพร้อมด้วยอาวุธครบมือ กำลังตั้งตารอคอยใครบางคนอยู่
“พื้นที่แรก เคลียร์!”
“พื้นที่สอง เคลียร์!”
“...”
หลังจากได้ยินเสียงรายงานแล้ว ‘กูหลัง’ พันเอกในชุดเครื่องแบบที่มีดาวสามดวงประดับอยู่บนบ่าก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“พื้นที่สนามบินถูกเคลียร์เรียบร้อยแล้วครับท่าน เรียนเชิญท่านแม่ทัพสวรรค์ลงจากเครื่องบินได้เลยครับ”
เยี่ยอู๋เต้าดับซิการ์ในมือ แล้วจึงก็ค่อยๆ ก้าวลงจากเครื่องบินส่วนตัว
เสื้อคลุมขนสัตว์ที่เขาสวมอยู่ส่งเสียงกรอบแกรบท่ามกลางลมหนาว สีหน้าของเขานิ่งเฉยแต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลัง
พลานุภาพของเขาทำให้ต่างหายใจไม่ทั่วท้องกัน
สายตาของทหารนับพันนายจ้องมองเขาด้วยความชื่นชม
นี่คือตำนานที่มีชีวิต นี่คือศรัทธาของพวกเขา
กูหลังรีบก้าวเข้าไปต้อนรับ “ยินดีต้อนรับแม่ทัพสวรรค์ผู้ทรงเกียรติกลับบ้าน!”
เยี่ยอู๋เต้าพยักหน้าอย่างเฉยเมย
กูหลังเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ทัพสวรรค์ ครอบครัวของท่านส่งคนมาขอพบ เวลานี้พวกเขากำลังรออยู่ที่ห้องรับรองครับ”
“ดูเหมือนพวกเขาจะร้องขอให้ท่านกลับสู่ตระกูล”
เยี่ยอู๋เต้าหยุดเดินและมองไปทางห้องรับรอง
คนในชุดสูทและรองเท้าหนังกำลังยืนเรียงรายและชะเง้อมองด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ
เมื่อสายตาปะทะกัน กลุ่มคนในชุดสูทและรองเท้าหนังสั่นสะท้านและเผลอทรุดตัวคุกเข่าลงโดยไม่รู้ตัว ในดวงตาปรากฏซึ่งแววตาอ้อนวอน
หากคนทั่วไปได้เห็นภาพนี้เข้าคงจะตกใจไม่น้อย
ตระกูลเยี่ยมหาเศรษฐีผู้มีทั้งอิทธิพลและอำนาจแห่งจิงตูถึงกับคุกเข่าให้เขา!
เยี่ยอู๋เต้า“ฮึ” เขาส่งเสียงเยาะอย่างเย็นชา ปล่อยตัวเองจมไปในห้วงความคิด
สิบห้าปีก่อน เดิมเขาเป็นคุณชายตระกูลเยี่ยแห่งจิงตู แต่กลับถูกผู้นำตระกูลบังคับให้รับโทษจำคุกแทนพี่ชายฝาแฝด
คนทั้งตระกูล ไม่มีใครสักคนที่ช่วยพูดแทนเขา!
แม้กระทั่งพ่อและแม่ของเขาเองก็ตาม!
ห้าปีต่อมา หลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ เขาเข้ารับราชการทหาร
และด้วยเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปี เขาได้กลายเป็นผู้บัญชาการสามเหล่าทัพที่ไร้ผู้ทัดเทียม เป็นเทพสงครามอันดับหนึ่งในโลกา!
ครั้งหนึ่ง เขาต้องทนทุกข์กับความหนาวเหน็บของโลกใบนี้ แต่ตระกูลเยี่ยกลับไม่เคยแยแสเขาเลยสักนิด!
บัดนี้ เมื่อเขามีอำนาจคับฟ้าและเงินทองล้นมือ ตระกูลเยี่ยจึงนึกถึงเขาขึ้นมาได้
น่าขบขันที่สุด!
สีหน้าเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเยี่ยอู๋เต้า เขาตอบกลับอย่างเย็นชา
“ไปบอกพวกเขาว่า สิบห้าปีก่อน นับตั้งแต่วินาทีที่ตระกูลเยี่ยให้ผมรับโทษแทนพี่ชาย เยี่ยอู๋เต้าได้ตายจากพวกเขาไปแล้ว”
“เยี่ยอู๋เต้าในเวลานี้ ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ เกี่ยวข้องกับตระกูลเยี่ยแห่งจิงตู”
“ต่อไปอย่ามากวนใจผมอีก ไม่อย่างนั้นจะเกิดการนองเลือดแน่!”
“กูหลัง คุณช่วยจัดการให้ผมที อย่าให้กระทบกับการไปรับเจ้าสาวของผมล่ะ”
กูหลังรีบพยักหน้า “รับทราบ!”
เยี่ยอู๋เต้าเดินขึ้นรถเจ้าบ่าวที่จอดอยู่ข้างๆ
เขาจับเจ้าแม่กวนอิมหยกที่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่ห้อยอยู่บนหน้าอก ความขุ่นเคืองได้มลายหายกว่าครึ่ง
ในใจอดจะคิดถึงที่มาของเจ้าแม่กวนอิมหยกที่มีเพียงครึ่งเดียวนี้ไม่ได้
หลังจากออกจากเรือนจำเมื่อสิบปีก่อน ไม่มีใครจากตระกูลเยี่ยมารับเขา แม้กระทั่งคำถามสารทุกข์สุกดิบก็ไม่มีเลย
ทุกคนลืมเขาไปหมดแล้ว
เขาไม่มีเงินติดตัวสักแดงเดียวและเร่ร่อนอยู่ข้างถนน ท่ามกลางความอดอยากและหิวโหย เขาอยากจะจบสิ้นทุกสิ่งอย่างลง
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย หญิงสาวตัวน้อยคนหนึ่งได้ผ่านเข้ามา เธอมอบเสื้อกันหนาวและเจ้าแม่กวนอิมหยกที่มีเพียงครึ่งหนึ่งให้เขา
“เสื้อกันหนาวตัวนี้จะปกป้องคุณจากความหนาวเย็น ส่วนเจ้าแม่กวนอิมหยกครึ่งอันนี้จะนำความโชคดีมาให้คุณ...การมีชีวิตอยู่ก็หมายถึงความหวัง”
เธอเป็นผู้จุดประกายความหวังให้เยี่ยอู๋เต้าอีกครั้ง
ทำให้เยี่ยอู๋เต้ามีความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ที่จะเป็นคนเหนือคน
เขาจึงลุกขึ้นและเดินเข้าสู่เส้นทางสายทหาร
ผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน อีกทั้งความสิ้นหวังนานัปการ ในใจของเขามักจะผุดภาพความทรงจำที่โอบอ้อมและสวยงามครั้งนั้นเสมอ
เธอคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจให้เขามีชีวิตรอดมาได้และเป็นแรงผลักดันในการต่อสู้!
หลังจากอยู่ในกองทัพได้เพียงห้าปี เขาได้กลายเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ประจวบกับประเทศกำลังเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ เยี่ยอู๋เต้าได้รับคำสั่งให้นำกองกำลังหนึ่งพันนายไปสงบศึกที่พรมแดนของประเทศทั้งเก้า และบังคับให้เก้าประเทศลงนามในสนธิสัญญาเก้าประเทศ
โดยในระยะเวลาห้าปีนี้ เยี่ยอู๋เต้าถูกสั่งให้เก็บตัว และห้ามไม่ให้แตะต้องทรัพย์สมบัติและอำนาจของเขา เพื่อแลกกับการแข่งขันอย่างเป็นธรรมของเก้าแคว้นแห่งอาณาจักรต้าซย่า
นับแต่นั้นมา ชื่อของแม่ทัพสวรรค์ก็เลือนหายไป
เหลือเพียงเยี่ยอู๋เต้า คนธรรมดาสามัญคนหนึ่ง เขากลับมาที่เมืองหลินไห่และตามหาเฉินหย่าจือหญิงสาวที่เคยมอบหยกครึ่งอันให้เขาจนพบ จากนั้นเขาก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อตามจีบเธอ
หลังจากทุ่มเทถึงห้าปี ในที่สุดก็สำเร็จ
วันนี้เป็นวันมงคลที่เขาจะแต่งงานกับเฉินหย่าจือ
และเป็นวันที่สนธิสัญญาเก้าประเทศกำลังจะสิ้นสุดลง
เมื่อวานเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่เขาออกจากหลินไห่เพื่อไปยังสหประชาชาติเพื่อยุติสนธิสัญญาเก้าประเทศ
และวันนี้เขารีบร้อนกลับมาให้ทันงานแต่งงาน
หลังเที่ยงคืนของวันนี้ อิทธิพลและความมั่งคั่งจะกลับคืนมาสู่เขาอีกครั้ง
กูหลังส่งรายชื่อให้เยี่ยอู๋เต้า “ท่านแม่ทัพสวรรค์ พิธีเฉลิมฉลองการกลับคืนสู่ตำแหน่งของท่านจะจัดขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า”
“นี่คือรายชื่อแขกที่จะเข้าร่วม เชิญท่านพิจารณา”
เยี่ยอู๋เต้าดูรายชื่อแล้วพูดว่า “ส่งบัตรเชิญสามใบไปให้เฉินหย่าจือ คู่หมั้นของผมด้วย”
“อีกสามวัน ผมจะให้เธอได้รู้ว่า สามีของเธอคือขุนพลหนุ่มผู้มีอำนาจล้นฟ้า ไม่ใช่คนธรรมดาๆ อย่างที่เธอเห็น!”
……
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพที่รัก
โปรยแล้วหายเลย งท้อออ...
รออยู่นะค่ะ 🙏...