เข้าสู่ระบบผ่าน

ท่านแม่ทัพที่รัก นิยาย บท 2

ห้าปีแล้ว เป็นเวลาถึงห้าปีที่เขาไปรักเฉินหย่าจือ!

และในช่วงห้าปีที่ผ่านมานี้ เขายังได้เห็นผู้มีบุญคุณตัวจริงถูกเฉินหย่าจือรังแกอยู่หลายครั้งหลายครา

โชคชะตาช่างเล่นตลก!

เมื่อเขาได้สติ สวีหลิงเอ๋อร์กำลังเดินออกจากห้องด้วยความผิดหวัง

เธอถูกเฉินหย่าจือดูหมิ่นและขับไล่ต่อหน้าคนอื่น อารมณ์ของเธอก็คงจะไม่ได้ดีไปกว่าเยี่ยอู๋เต้ามากนัก

เยี่ยอู๋เต้ารีบรั้งเธอไว้ “หลิงเอ๋อร์ เดี๋ยวก่อน”

เฉินหย่าจือโพล่งออกมาทันที “ไอ้เลว ปล่อยเธอไปซะ”

“ถ้านายกล้ารั้งเธอไว้ นายก็ไปให้พ้นหน้าฉันด้วยเลย!”

เยี่ยอู๋เต้ายิ้มเยาะ “ให้ผมไปแล้วคุณจะต้องเสียใจ”

เฉินหย่าจือ “เสียใจหรือ คนที่จะเสียใจก็คือนายต่างหาก”

“รอให้ฉันได้เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองการกลับคืนสู่ตำแหน่งของแม่ทัพสวรรค์ก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นก็จะมีตระกูลร่ำรวยมาตามตื๊อฉัน ส่วนนายน่ะหรือ ต่อให้มาคุกเข่าอ้อนวอนขอร้อง ก็ไม่มีสิทธิ์หรอกย่ะ”

เดิมที เฉินหย่าจือคิดว่าหากยกเอาเรื่องพิธีเฉลิมฉลองขึ้นมาพูดแล้ว เยี่ยอู๋เต้าคงต้องมาคุกเข่าขอร้องเธอ

ที่ไหนได้ เยี่ยอู๋เต้ากลับวิ่งไปคุกเข่าต่อหน้าสวีหลิงเอ๋อร์ “หลิงเอ๋อร์ คุณยินดีจะแต่งงานกับผมไหม”

อะไรนะ!

ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกตะลึง สีหน้าเต็มไปด้วยรู้สึกเหลือเชื่อ!

ในวันแต่งงาน เยี่ยอู๋เต้าเลือกทิ้งว่าที่เจ้าสาว และหันไปขอเพื่อนเจ้าสาวแต่งงานแทน!

แถมยังเป็นเวลาที่เจ้าสาวได้รับบัตรเชิญจากแม่ทัพสวรรค์อีกด้วย!

เหลวไหล เหลวไหลสิ้นดี

สวีหลิงเอ๋อร์เข้าใจว่าเธอได้ยินผิดไป

แต่เยี่ยอู๋เต้าพูดขึ้นอย่างจริงจังอีกครั้ง “หลิงเอ๋อร์ แต่งงานกับผมนะ”

“ผมขอสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าผมจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก”

“มีเกียรติและมั่งคั่งไปทั้งชีวิต”

เฉินหย่าจือโกรธจนแทบคลั่ง “เยี่ยอู๋เต้า ไอ้สารเลว”

“ถ้าตอนนี้นายโขกศีรษะขอโทษฉัน ไม่แน่ว่าฉันจะให้อภัยนายก็ได้”

“อย่าลืมสิ นายติดคุกมาตั้งห้าปี ตอนนี้ฉันยอมให้โอกาส ถือว่าเป็นบุญเก่าของนาย!”

“ไสหัวไป!” เยี่ยอู๋เต้าตะคอกใส่

ชีวิตในคุกห้าปีคือแผลในใจของเขา แต่ในเวลานี้ เฉินหย่าจือกลับหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เหมือนสาดเกลือลงบนแผลของเขา!

ไม่ได้ไว้หน้าเขาเลยสักนิด!

“เวรเอ้ย” เฉินหย่าจือกัดฟันกรอด “พวกเราจบกัน! รอฉันได้เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองก่อนเถอะ นายเตรียมตัวตายได้เลย!”

ในใจของเธอ เยี่ยอู๋เต้าก็แค่สุนัขขี้ประจบตัวหนึ่งเท่านั้น สุนัขที่คู่ควรกับการคุกเข่าวิงวอนเธอเท่านั้น!

เขามีสิทธิ์อะไรมาด่าเธอ!

สวีหลิงเอ๋อร์มุ่นคิ้วพลางครุ่นคิด

เธอนึกถึงงานแต่งงานของเธอ นึกถึงคู่หมั้นที่เจ้าชู้ของเธอ...

สักพัก เธอเงยหน้าขึ้น รับช่อดอกไม้ แล้วพูดอย่างมุ่งมั่น

“ฉันยินดีค่ะ!”

เยี่ยอู๋เต้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในขณะที่ครอบครัวของเฉินหย่าจือแทบคลั่ง

“แพศยา ไร้ยางอาย หน้าไม่อาย แกอ่อยผู้ชายต่อหน้าคนเยอะแยะเลยหรือนี่ ฉันจะตบแกให้ตายเลย...”

เพียะ!

เสียงฝ่ามือดังขึ้น

ทว่า เป็นเยี่ยอู๋เต้าที่ตบเฉินหย่าจือ

หัวใจของสวีหลิงเอ๋อร์เต้นโครมคราม

เมื่อก่อนเยี่ยอู๋เต้าดีกับเฉินหย่าจือขนาดไหน เธอเห็นกับตาทั้งหมด

แต่ตอนนี้ เพื่อเธอแล้ว เขาถึงขั้นตบเฉินหย่าจือ...

จู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจของเธอ

แต่เวลานี้ เฉินหย่าจือสติแตกไปแล้ว

ไอ้สุนัขขี้ประจบตัวนี้ทำร้ายเธอเพื่อผู้หญิงคนอื่น เขามีสิทธิ์อะไรกัน!

เยี่ยอู๋เต้าพูดอย่างเย็นชา “นับแต่นี้ต่อไป สวีหลิงเอ๋อร์คือภรรยาของผม”“ใครที่รังแกเธอ ผมจะฆ่ามันทั้งโคตร… หากยังไม่สาแก่ใจ ผมจะขุดสุสานบรรพชนของมันออกมาด้วย!”

ห้าปีแห่งความอดทน เทพสงครามก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง

กลิ่นอายสังหารที่แผ่ออกมาทำให้ครอบครัวของเฉินหย่าจือไม่กล้าหายใจ

จู่ๆ เฉินหย่าจือก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดแผกไป

ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายคนที่เธอรู้จักมาถึงห้าปี!

“หลิงเอ๋อร์ ไปกันเถอะ” เยี่ยอู๋เต้าจูงมือของสวีหลิงเอ๋อร์อย่างอ่อนโยน

เฉินหย่าจือกัดฟันกรอด “สวีหลิงเอ๋อร์ เธอลองกล้าออกไปดูสิ!”

“อย่าลืมนะ เธอก็เป็นแค่ปรสิตที่ต้องพึ่งพาครอบครัวของฉัน”

“ฉันทำให้เธอล้มละลายตอนนี้ได้เลยนะ เชื่อไหมล่ะ”

สวีหลิงเอ๋อร์หยุดชะงัก เธอทำอะไรต่อไม่ถูก เพราะรู้ดีว่า

เฉินหย่าจือทำได้อย่างที่พูด

ยิ่งตอนนี้เมื่อเธอได้รับบัตรเชิญนั่นแล้ว

เยี่ยอู๋เต้าพูดปลอบใจเธอ “หลิงเอ๋อร์ ไปเถอะ…”

“ต่อให้ฟ้าถล่มทลายลงมา ผมก็จะช่วยคุณแบกรับไว้เอง”

หัวใจของสวีหลิงเอ๋อร์เต้นระรัวอีกครั้ง

แล้วทั้งสองก็เดินจากไป

เฉินหย่าจือแผดเสียงอย่างเจ็บปวด “นังแพศยากับสุนัขขี้ประจบ! ขอให้อยู่กันไปชั่วฟ้าดินสลายเลย”

“ฉันจะทำให้พวกแกต้องขอร้องฉัน มาคุกเข่าตรงหน้าฉันเหมือนสุนัข”

เพียงแต่ว่า ตระกูลฟังเป็นตระกูลที่กินรวบทั้งเรื่องในและนอกกฎหมาย ไม่ว่าจะด้วยอำนาจหรือเงินทอง ล้วนแล้วแต่สามารถบดขยี้คนธรรมดาอย่างเยี่ยอู๋เต้าได้

เขาจะเอาอะไรไปสู้

แค่หัวใจที่เลือดร้อนจะไปสู้อะไรกับความโหดร้ายที่เป็นของจริงได้

ท้ายที่สุด เขาอาจจะถูกตระกูลฟังทำลายจนป่นปี้ก็ได้

“กลับบ้านกันก่อนเถอะ” ใบหน้าของสวีหลิงเอ๋อร์เต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม “รอให้คุณผ่านด่านพ่อแม่ฉันก่อนค่อยว่ากัน”

ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

......

มีแขกเหรื่อมากมายที่บ้านของสวีหลิงเอ๋อร์ในวันนี้

ต้นเดือนหน้า สวีหลิงเอ๋อร์จะแต่งเข้าตระกูลฟังแล้ว ลุงใหญ่และลุงรองพาครอบครัวของทั้งสองบ้านมาแสดงความยินดี

“น้องสาม ครั้งนี้ที่หลิงเอ๋อร์สามารถแต่งงานกับตระกูลฟังได้ เป็นบุญของตระกูลสวีของเราจริงๆ”

“ตระกูลฟังเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในเมืองหลินไห่ แค่เขาแบ่งมาให้เรานิดๆ หน่อยๆ ก็พอพวกเราตระกูลสวีมีกินมีใช้แล้ว”

“บางที่ตระกูลสวีของพวกเราจะได้อาศัยโอกาสนี้ก้าวขึ้นไปสู่ตระกูลอันดับสองกับเขาบ้าง”

สวีต้าไห่และหลี่อวี้หวน พ่อแม่ของสวีหลิงเอ๋อร์นั่งอยู่ตำแหน่งหัวโต๊ะ สีหน้าแดงระรื่น

คำชมจากทุกคนทำให้ทั้งคู่รู้สึกภาคภูมิใจ

สวีต้าไห่เอ่ยขึ้นว่า “พี่ใหญ่ พี่รอง พวกพี่คงยังไม่รู้ล่ะสิว่าตระกูลฟังใช้เส้นสายเอาบัตรเชิญของท่านแม่ทัพสวรรค์มาได้”

“ถึงตอนนั้น อิทธิพลของตระกูลฟังจะต้องเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงตระกูลอันดับสอง

หรอก ไม่แน่ว่าพวกเราจะถูกดึงไปสู่ตระกูลอันดับต้นๆ ได้ด้วย!”

อะไรนะ บัตรเชิญจากแม่ทัพสวรรค์!

ทุกคนต่างอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ตอนนี้ความสุขของทุกคนพุ่งสู่จุดสุดยอดแล้ว

ลุงใหญ่พูดขึ้นอีกว่า “น้องสาม ได้ข่าวว่าช่วงนี้นายกำลังลงสมัครตำแหน่งหัวหน้าแผนกของโรงพยาบาล สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

สวีต้าไห่ตอบว่า “จากคุณสมบัติของผม เดิมทีตำแหน่งนี้แทบจะไม่มีหวัง”

“แต่ฟังจงซิ่นลูกเขยของผมบอกว่าจะช่วย ถ้าตระกูลฟังยอมยื่นมือ ตำแหน่งนี้ก็มั่นใจได้”

คำพูดนี้ แฝงไปด้วยคำยกยอและความพึงพอใจที่มีต่อฟังจงซิ่นผู้เป็นลูกเขยในอนาคต

ทุกคนต่างพากันชื่นชมฟังจงซิ่น

และในเวลานี้เอง จู่ๆ ลุงรองก็กระโดดเหยงและชูโทรศัพท์มือถือในมือขึ้น พลางตะโกนออกมา “แย่แล้ว หลิงเอ๋อร์เกิดเรื่องแล้ว!”

หัวใจของสวีต้าไห่กระตุกอย่างรุนแรง “เกิดอะไรขึ้น ขอผมดูหน่อย เร็วเข้า”

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

บนหน้าจอโทรศัพท์ กำลังแสดงข่าวประเด็นร้อน

‘วันงานมงคลสมรส เยี่ยอู๋เต้าละทิ้งเจ้าสาว และหันมาขอสวีหลิงเอ๋อร์ผู้เป็นเพื่อนเจ้าสาวแต่งงานแทน...’

ทันใดนั้น สวีต้าไห่รู้สึกว่าโลกหมุน เลือดวิ่งเข้าสู่หัวใจอย่างรวดเร็ว เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือด และล้มลงบนโซฟา

“ลูกเวร...น่าโมโห...ที่สุด!”

คนในตระกูลสวีต่างตื่นตระหนก “เร็วเข้า รีบไปโรงพยาบาล โรคหัวใจของเขากำเริบแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพที่รัก