ท่านแม่ทัพที่รัก นิยาย บท 13

“หึ แค่ตำแหน่งในสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ข้าไม่แคร์หรอกโว้ย”

“บอกพวกแกเลยนะ ข้าน่ะเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ในหลินไห่ สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลตู้”

“ทำให้พวกแกทั้งตระกูลสวีตายน่ะ ง่ายเหมือนเล่นของเล่น”

ทุกคนในตระกูลสวีต่างหวาดกลัว

ต่อหน้าตระกูลสูงศักดิ์อย่างตระกูลตู้ ตระกูลสวีไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะคุกเข่าขอความเมตตา

ทำอย่างไรดี จะทำอย่างไรดี?

ในที่สุดก็เป็นลุงใหญ่ที่ได้สติขึ้นมาก่อนใคร

เขารีบยื่นบุหรี่ให้สวีต้าไห่ และจุดบุหรี่ให้ด้วยตัวเอง

“ต้าไห่ ฉันเป็นพี่ชายแท้ๆ ของแกนะ แก...แกคงจะไม่คิดไม่ช่วยเหลือนะ”

“เมื่อกี้นี้พี่พูดเกินไปหน่อย แกอย่าใส่ใจเลยนะ”

คนอื่นๆ ก็พากันได้สติและเข้ามาห้อมล้อมสวีต้าไห่และหลี่อวี้หวนทันที

“พี่ต้าไห่ คุณได้ลูกเขยมังกรเชียวนะ เป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูลสวีของเราจริงๆ”

“เมื่อตะกี้ที่พวกเราพูด...คิดเสียว่าพวกเราตดทิ้งตดขว้างก็แล้วกัน คิดขึ้นมาทีไร ก็รู้สึกไม่สบายใจเลย”

“หันเฟิงอะไรนั่น เทียบไม่ได้กับลูกเขาบ้านพี่เลย แม้แต่คนถือรองเท้า ก็ยังไม่คู่ควรเลย”

“น้องชาย น้องสะใภ้ เยี่ยอู๋เต้าเด็กคนนี้เจ้าอารมณ์ไปสักหน่อย แต่คนหนุ่มสาวมีอารมณ์บ้างก็เป็นเรื่องดี เขาบอกว่าไม่สนใจพวกเรา พวกน้องๆ ช่วยเกลี้ยกล่อมเขาหน่อยนะ”

จู่ๆ สวีต้าไห่และหลี่อวี้หวนได้รับความสำคัญอย่างไม่คาดฝัน

คนทั้งคู่ถูกบรรดาญาติๆ เหล่านี้ดูแคลนมาตลอด แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกบูชาราวกับเป็นพระพุทธองค์ พวกเขารู้สึกไม่สามารถปรับตัวได้ชั่วขณะหนึ่ง

ทั้งสองคนหน้าแดงอิ่มเอิบจนไม่รู้จะใส่ใจใครก่อนดี

พวกเขาตอบคำถามเป็นครั้งคราว กับบางคนก็ยิ้มให้

เงยหน้าขึ้นได้กับเขาสักที แต่มันก็เท่านั้นแหละ!

เวลานี้คนที่น่าสงสารที่สุดกลับกลายเป็นหันเฟิง

ตกลงมาจากที่สูงก็โดนคนรุมประณาม ความรู้สึกนี้...มันเจ็บปวด

เขาขอร้องสวีลี่ลี่ให้ให้อภัยเขา แต่สวีลี่ลี่กลับเตะเขาลงไปที่พื้น

เดิมทีสวีลี่ลี่หวังว่าจะใช้หันเฟิงกดหัวสวีหลิงเอ๋อร์

แต่ตอนนี้ดีแล้ว ไม่ต้องพูดว่าจะไปเปรียบอะไรกับเยี่ยอู๋เต้าเลย เขายังผลักตนเองและบิดาไปรับคมมีดแทน!

มันน่าโมโหจริงๆ!

หลังงานเลี้ยงเสร็จสิ้นลง สวีต้าไห่ปฏิเสธคำเชิญของลุงใหญ่ที่จะขับรถไปส่งเขา เขาเดินกลับบ้านด้วยกันกับหลี่อวี้หวน

ระหว่างทาง หลี่อวี้หวนก็สะอื้นไห้ขึ้นมาเฉยๆ

สวีต้าไห่ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที “ที่รัก คุณเป็นอะไรไป”

หลี่อวี้หวนพูดด้วยความน้อยใจเต็มอก “ฉันแต่งงานกับคุณมาสามสิบปี แล้วฉันก็ถูกญาติๆ ของคุณรังแกมาถึงสามสิบปีด้วยเหมือนกัน”

“แต่เยี่ยอู๋เต้าเพิ่งจะมาบ้านเราได้ไม่กี่วัน เขาช่วยกู้หน้าให้ฉันหลายครั้งแล้ว...คุณนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ ยังสู้ไอ้ขี้คุกคนหนึ่งไม่ได้”

สีหน้าของสวีต้าไห่เต็มไปด้วยความรู้สึกขอโทษ “ที่รัก ผมขอโทษนะ หลายปีมานี้ทำให้คุณต้องมากล้ำกลืนไปกับผมด้วย”

หลี่อวี้หวนพูดขึ้นอีก “คุณว่าเยี่ยอู๋เต้าเป็นคนธรรมดาจริงๆ หรือ คนธรรมดาจะทำให้หลิวต้าเชียนตกใจกลัวได้ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”

“หรือว่า...เยี่ยอู๋เต้าจะเป็นผู้สูงศักดิ์ที่ปิดบังตัวตนอยู่

สวีต้าไห่ยิ้มอย่างขมขื่น “ที่รัก คุณน่าจะอ่านนิยายไร้สาระพวกนั้นให้น้อยลงหน่อยนะ ของแบบนี้มีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละ มันจะเกิดขึ้นจริงได้ยังไง”

“ถ้าเขาเป็นผู้สูงศักดิ์ที่ปิดบังตัวตนอยู่ จะทนอยู่กับเฉินหย่าจือให้คนเขาดูถูกถึงห้าปีเต็มๆ เลยหรือ”

“ขนาดวันแต่งงาน ยังเอาสินสอดสามแสนออกมาไม่ได้ด้วยซ้ำ”

หลี่อวี้หวนครุ่นคิด “แล้วคุณจะอธิบายเรื่องที่หลิวต้าเชียนกลัวเขายังไงดี!”

“ใช่แล้ว ผมนึกออกเรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้เยี่ยอู๋เต้าเคยดึงออเดอร์หลักร้อยล้านมาจากตระกูลเสิ่น”

“แล้วมหาเศรษฐีเมืองหลินไห่อย่างตระกูลเสิ่นจะมาร่วมมือกับโรงงานขนาดเล็กของหลิงเอ๋อร์ได้ยังไงกัน”

“คุณว่า เป็นไปได้ไหมที่เยี่ยอู๋เต้าจะรู้จักคนในตระกูลเสิ่น แล้วแอบอ้างตระกูลเสิ่นข่มหลิวต้าเชียนให้กลัว”

จู่ๆ สวีต้าไห่ก็ตบหัวตัวเองหนึ่งที “ใช่แล้ว ผมนึกขึ้นมาได้แล้ว ผู้นำตระกูลเสิ่นเคยติดคุกอยู่หลายปี”

“เยี่ยอู๋เต้าก็เคยติดคุกเหมือนกัน เวลาและสถานที่ก็สอดคล้องกับที่ผู้นำตระกูลเสิ่นอยู่ในคุก”

“เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะเคยได้รู้จักผู้นำของตระกูลเสิ่นตอนอยู่ในคุกก็ได้”

ดวงตาของหลี่อวี้หวนเปล่งประกาย “อันนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก”

“พิธีเฉลิมฉลองการกลับคืนสู่ตำแหน่งของแม่ทัพสวรรค์ ตระกูลเสิ่นก็เป็นหนึ่งในผู้จัดงาน ถ้าเยี่ยอู๋เต้ารู้จักกับผู้นำตระกูลเสิ่นจริงๆ ไม่แน่ว่าอาจจะหาบัตรเชิญให้พวกเราสักสองสามใบให้พวกเราไปร่วมงานด้วย”

“ถ้าเราสองตายายตระกูลสวีสามารถเข้าร่วมงานพิธีได้ละก็...พวกเราจะได้โบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว!”

“หึ พวกครอบครัวของเฉินหย่าจือชอบเอาเรื่องนี้มาโอ้อวดใส่เราดีนักใช่ไหม รอให้เราได้เข้าไปก่อนเถอะ ดูสิว่าพวกหล่อนจะเอาอะไรมาโอ้อวดเราอีก”

สวีต้าไห่เองก็ตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว “ใช่ๆ พวกเรากลับบ้านไปถามเยี่ยอู๋เต้าดีกว่า”

หลี่อวี้หวน “โทรหาหลิงเอ๋อร์ก่อน ให้หลิงเอ๋อร์พาเยี่ยอู๋เต้ากลับมาที่บ้าน”

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา สวีหลิงเอ๋อร์อาศัยอยู่ในโรงงานเหล็กกับเยี่ยอู๋เต้ามาโดยตลอด

ครอบครัวของสวีหลิงเอ๋อร์อยู่ในชุมชนเดียวกันกับครอบครัวของเฉินหย่าจือ แต่คนละทิศ

แต่ก่อน ทั้งสองครอบครัวไปมาหาสู่กันบ่อยๆ แต่ตั้งแต่มีเยี่ยอู๋เต้าปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองจึงเลิกรากันไปโดยสมบูรณ์

ตอนที่ถูกล็อก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านแม่ทัพที่รัก