กล่องไม้มีการออกแบบที่เรียบง่ายและดูไม่มีราคาอะไร น้ำหนักของมันเบาบางไม่เหมือนดั่งไม้พะยูงหรือไม้จันทน์เกรดสูง
แต่ทว่าเสียงที่ดังขี้นกลับมาจากกล่องไม้ใบนั้น จนทำให้ทุกคนต่างก็ต้องตกตะลึงจนขนบนผิวหนังลุก
เจฟฟ์มีใบหน้าที่โกรธแค้น
ถึงแม้ว่าเขาจะฉลาดและเจ้าเล่ห์มากเพียงใด แต่มันก็ยังมีข้อจำกัดสำหรับเขา เมื่อเขามีความคิดในเรื่องของการเล่นกับความรู้สึกและจิตใจมากกว่า ในขณะที่เทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นไม่ใช่จุดแข็งของเขา เพราะเขาเรียนรู้มันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อาจกล่าวได้ว่าถึงแม้ว่าเจฟฟ์จะมีแนวคิดขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่เขาก็ยังปฏิเสธที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เขาไม่คุ้นเคยโดยไม่รู้ตัว
เขามักจะอยู่อย่างสันโดษบนเกาะของเขา ในขณะที่โลกภายนอกไม่เคยตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเขาเลย แล้วนับประสาอะไรที่เขาจะสามารถรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้
เจฟฟ์ไม่ทันได้เตรียมตัว
เสียงใครบางคนภายในกล่องไม้ยังคงดังขึ้นต่อไป
“ในเมื่อคุณเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ ไม่สนใจการเป็นหุ้นส่วนกับเรา แล้วทำไมเราทั้งคู่ไม่ลองทิ้งไพ่ลงบนโต๊ะดูล่ะ”
เจฟฟ์กัดฟันแน่น
เขาหันกลับมาและเอียงศีรษะไปทางหลุยส์
หลุยส์รับรู้ได้ถึงสิ่งที่เจฟฟ์ต้องการ เขาหยิบกล่องใบนั้นขึ้นมาและเปิดออกดู จากนั้นเขาก็เริ่มตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
เจฟฟ์อาจไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับหลุยส์
ในไม่ช้า เขาก็พบสิ่งเล็ก ๆ ขนาดเท่ากับรูเข็ม
หลุยส์ดึงมันออกจากกล่องและศึกษาดูอย่างระมัดระวังในมือของเขา
ในระหว่างการตรวจสอบ เขาได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นจากมือของเขา
“อย่ามัวแต่มอง ผมจะบอกให้ก็ได้ว่านี่คือกล้องสอดแนมรุ่นล่าสุดที่เพื่อนของผมพัฒนาขึ้นมา มันมีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น ไม่เพียงแต่ผมจะได้ยินเสียงและการสนทนาของคุณเท่านั้น แต่ผมยังเห็นหน้าคุณอีกด้วย”
ถึงแม้ว่าชิม่อนจะรู้ตัวว่าเขาถูกหลอกใช้ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย
หลุยส์ทั้งโมโหและอับอาย “เกรกอรี เกรแฮม นายกล้าดียังไงหลอกฉัน? นายคงเบื่อที่จะใช้ชีวิตแล้วใช่ไหม?!”
เกรกอรีเย้ยหยันด้วยเสียงที่เย็นชา “คุณอย่าพูดเหมือนกับว่าคุณไม่ได้หักหลังพวกเรา ช่างน่าเสียดายที่พวกเรารู้ทันคุณ”
"นาย!"
หลุยส์สำลักคำพูดของเหล่านั้น
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเกรกอรีจะมีลิ้นที่เฉียบคมได้มากเช่นนี้
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เจฟฟ์ก็สูดหายใจเข้ายาว
ในฐานะที่เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตบนโลกใบนี้มานานนับพันปี เขาจึงมีความสงบเป็นพิเศษ
เขาจ้องมองไปยังวัตถุสีดำเล็ก ๆ ที่เกือบจะมองไม่เห็น เจฟฟ์กล่าวอย่างเย็นชาว่า “นายต้องการอะไร?”
“ส่งลูกปัดเงินมาให้ผม แล้วผมจะมอบหยกอาถรรพ์ของจริงให้”
เจฟฟ์ยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคุณรู้ความลับของลูกปัดเงินแล้ว หากเป็นเช่นนั้นผมก็จะต้องบอกความจริงว่าผมไม่สามารถให้สิ่งนั้นแก่คุณได้ และต่อให้ผมจะมอบมันให้กับพวกคุณ พวกคุณก็คงจะอยู่ต่อไปได้อีกไม่นาน เลิกคิดไปได้เลย”
เกรกอรีไม่สะทกสะท้าน
"โอ้ ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรจะเลิกคิดที่จะได้ครอบครองหยกอาถรรพ์ชิ้นนี้ด้วยเช่นกัน”
เจฟฟ์ที่ยังคงสงบนิ่งก่อนนี้แทบจะไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
“เกรกอรี เกรแฮม! คุณไม่กลัวผู้หญิงที่คุณรักจะต้องตายเพราะสิ่งนี้หรอกเหรอ?”
“แน่นอนว่าผมกลัว” เกรกอรีตอบโดยไม่ลังเล “เพราะเหตุนั้น ผมถึงตกลงร่วมมือกับคุณในการตามหาหยกอาถรรพ์ให้กับคุณและยินดีที่จะทำตามคำสั่งของคุณ และนั่นหมายความว่าคุณเองก็จะต้องร่วมมือกับผมอย่างจริงใจ ผมเสียสละตัวเองเพื่อที่วีจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ในตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะร่วมมือและไม่ต้องการช่วยวีของผม เมื่อเราทุกคนต้องตาย แล้วทำไมผมถึงไม่เลือกความตายที่ง่ายกว่านี้ล่ะ? อย่างน้อยเราก็คงจะไม่เบื่อเมื่อมีคุณเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ที่ลงนรกไปพร้อมพวกเรา”
เจฟฟ์กำหมัดแน่น
เกรกอรีกำลังคุกคามเขา
เกรกอรีไม่เพียงแต่จะข่มขู่เขาด้วยยกอาถรรพ์เท่านั้น แต่เขายังพูดถึงเรื่องความตายของเจฟฟ์อีกด้วย
เกรกอรีบอกว่าเขาจะไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ถ้าหากวิกกี้จะต้องพบจุดจบจริง ๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก