ทันทีที่เนลล์ตั้งคำถามนั้นขึ้นมา ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึง
เห็นได้ชัดว่าปัญหาดังกล่าว พวกเขาไม่เคยคิดถึงมันเลยเช่นกัน
เกรกอรีขมวดคิ้วแน่น
“ได้ฟังเธอพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็อดสงสัยถึงแรงจูงใจของ เจฟฟ์ ฟลินเดอร์ ไม่ได้เลยเหมือนกัน แต่หลังจากที่ได้สังเกตเขามาระยะหนึ่ง ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าแผนการสุดท้ายของเขามันคืออะไรกันแน่”
วิกกี้ก็ขมวดคิ้วตาม
“พอพูดถึงเรื่องนี้แล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องเดียวหรอกที่แปลก ฉันยังมีเรื่องอื่นที่รบกวนจิตใจอยู่ด้วยเหมือนกัน”
เนลล์ถามว่า “เรื่องอะไรเหรอ?”
“เกรกอรีกับฉันได้ไปพบกับเจฟฟ์เป็นการส่วนตัวมา ตามหลักแล้ว ถ้าคนอย่างเขามีพรสวรรค์และมีอำนาจมากถึงขนาดนั้น เขาคงจะไม่อยู่นิ่งเฉยและใจเย็นได้ในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา แต่ว่าเขากลับควบคุมครอบครัวฟรินเดอน์ไว้ทั้งหมด แม้แต่หลุยส์ก็ยังอ่อนน้อมถ่อมตนเหมือนทาสเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันจะต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นแน่ ๆ”
หลังจากได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนต่างก็พากันครุ่นคิด
หลุยส์ ฟลินเดอร์ เป็นคนแบบไหนกันแน่นะ?
เขาสามารถรักษาตำแหน่งของเขา ในฐานะผู้อาวุโสของตระกูล ท่ามกลางการแข่งขันได้ แสดงว่าเขาจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
ถึงอย่างนั้น ผู้ชายที่ไม่ธรรมดาคนนี้ก็อายุใกล้จะหกสิบปีแล้ว ทำไมเขาถึงเต็มใจยอมจำนนต่อชายหนุ่มที่อายุเพียงแค่สามสิบปี จนกลายเป็นหุ่นเชิดของเขาด้วย?
ทุกคนต่างก็เงียบ
ในที่สุดเลียมก็พูดขึ้นมา
“คน ๆ นี้คงจะไม่ธรรมดาจริง ๆ เขาสามารถทำให้หลุยส์เชื่อฟังเขาได้ หรือจริง ๆ แล้วเขาอาจจะมีอิทธิพลเหนือคนอื่นก็ได้”
แต่ทว่ากิดเดียนกลับไม่เห็นด้วยกับเขา
“เป็นไปไม่ได้หรอก หลุยส์อาจดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่เขาก็ไม่เหมือนกับคนอื่น ตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวของตระกูลฟรินเดอร์นั้น เป็นที่น่าดึงดูดใจมาก คงไม่น่าจะเป็นไปได้ ที่เขาจะยอมสละสิทธิ์ในฐานะของหัวหน้าของครอบครัวเพื่อบางสิ่งบางอย่าง ยกเว้นแต่ว่า มันจะมีความเป็นไปได้แค่เพียงอย่างเดียว”
คนทั้งโต๊ะพากันมองมาที่เขา “เป็นไปได้ว่าอะไรล่ะ?”
“ถ้าเขาไม่ทำตามที่เจฟฟ์สั่ง เขาจะตาย”
กลุ่มคนต่างพากันตกตะลึง
เกรกอรีขมวดคิ้วขึ้นมา พลางพูดว่า “ลูกปัดสีทองอยู่กับเจฟฟ์เหรอ? สมาชิกในครอบครัวฟรินเดอร์จะตาย ถ้าหากว่าพวกเขาไม่ได้กินยานั้นใช่ไหม? นี่เป็นเหตุผลที่หลุยส์ยอมเชื่อฟังเขาอย่างงั้นเหรอ?”
กิดเดียนส่ายหน้า
"ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ ตามหลักแล้ว ครอบครัวฟรินเดอร์ก็อยู่มานานหลายปีแล้ว และลูกปัดสีทอง ก็เปรียบเหมือนกับเป็นชีวิตของพวกเขา มันจึงไม่ควรถูกใครคนใดคนหนึ่งควบคุมง่าย ๆ”
รอยย่นบนใบหน้าได้ปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของเขา
“เราจำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติม และค้นหาจุดอ่อนของเจฟฟ์มาให้ได้ หากเราไม่ศึกษาภูมิหลังของเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วละก็ เราก็จะต้องตามหลังเขาอยู่แบบนี้ไปตลอด”
เกรกอรีพยักหน้า เขาเห็นด้วยกับคำพูดของกิดเดียน
“ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง แล้วถ้าฉันได้ข้อมูลอะไรมา ฉันจะมาบอกพวกเธอ”
คนที่เหลือต่างก็พากันพยักหน้า
พวกเขานั่งพูดคุยกันต่ออยู่ตรงนั่นสักพัก หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ พวกเขาก็ต่างพากันแยกย้ายกลับไป
แน่นอนว่ากิดเดียนและเนลล์ ต้องกลับไปพร้อมกับเจเน็ตและเลียมที่บ้านกริฟฟิน
เนื่องจากงานเลี้ยงวันเกิดจะถูกจัดขึ้นในค่ำคืนนี้ มันจึงไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่ หากวิกกี้ และเกรกอรีที่จะไปที่นั่นในตอนนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงจะไปที่นั้นในตอนกลางคืนแทน
ณ เวลาสองทุ่ม
งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นตามแบบแผนทุกอย่างที่ได้วางเอาไว้
เนื่องจากว่างานเลี้ยงในครั้งนี้ ถูกจัดขึ้นมาอย่างเป็นทางการ เนลล์และกิดเดียนจึงสวมชุดที่ดูสง่างาม เช่นเดียวกับพวกเด็ก ๆ ที่เปลี่ยนเป็นชุดที่ดูดีไม่แพ้กัน
ลิชซี่สวมชุดตัวโปรดของเธอ ขณะที่วีมอนด์น้อยสวมชุดทักซิโด้ตัวจิ๋วที่ช่วยเติมเต็มใบหน้าที่อวบอิ่มของเขา จนทำให้เขาดูน่ารักขึ้นมากกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก