“ใช่ แต่คงเป็นโรงน้ำแข็งจริง ๆ ไม่ได้ ที่ฉันหมายถึงคือที่ไหนสักแห่งที่มีอากาศเย็นพอ ๆ กับโรงน้ำแข็ง อย่างเช่นห้องใต้ดินที่อากาศเย็น”
ฌอนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเขาจะส่ายหน้า
“นายทำให้ฉันจนปัญญา ฉันสร้างห้องใต้ดินเอาไว้ที่นี่ เพียงแต่ว่ามันไม่เย็นน่ะสิ นายต้องเข้าใจด้วยนะว่าเราอยู่ในทะเลทราย การที่จะหาสถานที่ที่มีอากาศเย็นในทะเลทรายมันเป็นไปไม่ได้”
สเปนเซอร์ขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีเมื่อเขาได้ฟังคำตอบของฌอน
“แล้วตอนนี้เราควรจะทำอย่างไรกันดี? ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม พืชชนิดนี้จะไม่สามารถเติบโตได้”
กิดเดียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม “จำเป็นจะต้องปลูกในสถานที่แบบนั้นด้วยเหรอครับ?”
“ใช่”
กิดเดียนครุ่นคิดก่อนจะเสนอขึ้น “ถ้าอย่างนั้นทำไมเราไม่เปลี่ยนสถานที่ล่ะครับ? กลับไปยังบ้านเกิดของผม ที่นั่นมีวิลล่าอยู่หลังหนึ่งมีสภาพภูมิประเทศที่คล้ายกันมาก”
“บ้านเกิดอย่างนั้นเหรอ?”
จู่ ๆ สีหน้าของสเปนเซอร์ก็เปลี่ยนไปจากนั้นเขาจึงส่ายหน้า
“ไม่ ผมจะไม่ไปที่นั่น”
กิดเดียนไม่เข้าใจ
เนลล์จึงเอ่ยถามขึ้น “ทำไมถึงไม่ไปล่ะคะ?”
สเปนเซอร์ดูอารมณ์เสีย ฌอนเหมือนจะหวนคิดถึงเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงแนะนำขึ้น “เรื่องกลับไปบ้านเกิดของกิดเดียนคงเป็นไปไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ไหม? นายเอาต้นเหรียญทองติดตัวไปด้วย เมื่อนายทำการวิจัยสำเร็จแล้ว นายค่อยนำต้นเหรียญทองกลับมาให้เรา”
ดวงตาของสเปนเซอร์เป็นประกาย
“ได้สิ”
แต่ทว่า ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็ชะงักนิ่งก่อนจะหันกลับมามองเนลล์และกิดเดียน
“แล้วคุณล่ะเชื่อใจผมไหม? ต่างก็ทราบกันดีว่าต้นเหรียญทองเป็นต้นไม้ที่ล้ำค่า ชนิดที่ประเมินค่าไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าคุณได้มาอย่างไร แต่ผมกล้าพูดได้เลยว่าต้นไม้ชนิดนี้แทบจะไม่มีเหลืออยู่บนโลกนี้แล้ว หากผมเอาไปแล้วไม่นำกลับมาคืน คุณจะต้องประสบกับการสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้”
เนลล์ลองไตร่ตรองดูพลางระบายยิ้มออกมา “ไม่ต้องกังวลไปหรอกค่ะ เพราะเราได้ตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากคุณไปแล้ว เราต้องเชื่อใจคุณค่ะ คุณโนแลน”
สเปนเซอร์เผยยิ้มด้วยความยินดี
“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลง ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะพยายามให้ถึงที่สุด และเมื่อมีข่าวอะไรก็ตามฉันจะคอยแจ้งให้พวกคุณทราบ”
“ได้”
เมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก
สเปนเซอร์เป็นคนมีความสามารถ เมื่อเขาลองได้ตกปากรับคำไปแล้ว เขาได้ตัดสินใจทำโดยปราศจากซึ่งความลังเลใจ
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงส่งคนมาเก็บต้นไม้ไปแทนที่เขาจะอยู่ค้างคืน หลังจากนั้นเขาจึงขึ้นเครื่องบินเที่ยวดึกไปยังเมืองที่เขาอาศัยอยู่
.ในคืนเดียวกันนั้นเอง เนลล์โทรหาวิกกี้แล้วเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง
วิคกี้ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพราะเธอเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเนลล์
พวกเขาไม่ใช่คนเรื่องมาก แม้ชีวิตของวิกกี้จะแขวนอยู่บนเส้นด้ายก็ตาม และปัญหานี้ต้องได้รับการจัดการอย่างเร่งด่วน พวกเขาต้องเลือกเชื่อใจใครสักคนเมื่อต้องการความช่วยเหลือจากเขา
นอกจากนั้น การที่สเปนเซอร์นำต้นมันนี่บีดไปด้วยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
วิกกี้และเกรกอรี่ได้ชิ้นส่วนของหยกอาถรรพ์มาแล้ว อีกไม่นานนัก พวกเขาคงจะได้ชิ้นที่สองมา
จากที่เธอบอก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูนนานทางตอนใต้พลิกกลับมาดีเกินคาด พวกเขาได้ทำการตกลงกับอีกฝ่าย และใช้เงินจำนวนมหาศาลเพื่อซื้อชิ้นส่วนหยก การเจรจาซื้อขายเสร็จสิ้นในคืนนั้น
สำหรับเกรกอรี่และวิกกี้ สิ่งใดก็ตามที่ใช้เงินแก้ปัญหาได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ท้าทายเท่าไรนัก
เนลล์ที่ได้ฟังพยักหน้ารับ เธอรู้สึกโล่งอก
หลังจากนั้นเธอจึงคุยกับวิคกี้เรื่องเจฟฟ์ ฟลินเดอร์
จนกระทั่งวันนี้ เนลล์ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเจฟฟ์ถึงจงใจเข้าหาพวกเขา
เธอไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน
วิกกี้เองก็ตกใจเหมือนกันหลังจากที่ได้ฟังเนลล์เล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก