ในอดีตที่ผ่านมา กิดเดียนกลัวมาตลอดว่าเนลล์จะทำตัวห่างเหินจากเขา เพียงเพราะการปิดบังความลับของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ในที่สุด การที่เป็นแบบนี้จึงทำให้กิดเดียนสบายใจ
แม้ว่าเขาจะสบายใจแล้วก็ตาม แต่ก็ยังต้องการคำอธิบาย
เมื่อถึงยามค่ำคืนอันเงียบสงบ เขาดึงเนลล์เข้ามาหา และอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปีนั้นให้เนลล์ฟังอย่างตรงไปตรงมา
เพราะฉะนั้น กิดเดียนจึงไม่ใช่แค่นักธุรกิจธรรมดามาตั้งแต่ต้น
ก่อนหน้านี้เขาเคยไปศึกษาที่ต่างประเทศ แต่ทุกคนรู้เพียงว่าเขาไปศึกษาการบริหารธุรกิจ ทั้งที่ความจริงแล้ว กิดเดียนแอบไปเข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหาร
ขณะที่เขาอยู่ที่นั่น ท่านนายพลได้เห็นถึงความสามารถในตัวเขา จึงเลือกเขาเป็นสายลับ
ด้วยเหตุนี้ กิดเดียนจึงถือว่าเป็นลูกศิษย์ของท่านนายพล เนื่องจากเขาได้สร้างผลงาน ท่านนายพลจึงส่งต่อตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการให้กับกิดเดียนหลังจากที่เกษียณอายุ
ท่านนายพลยังมอบภารกิจจับกุมเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ ให้กับกิดเดียนอีกด้วย
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา การต่อสู้ระหว่างกิดเดียนกับเจฟฟ์จึงได้เริ่มต้นขึ้น
เนลล์ลองคิดไตร่ตรองดูแล้ว และเข้าใจได้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่กิดเดียนกับเธอจะได้พบกันเป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดถึงเหตุผลที่ว่าทำไมทั้งคู่ถึงได้พบกัน นั่นไม่ใช่เพราะเขาพบเธอระหว่างที่เขาตามล่าเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ หรอกเหรอ?
เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รวมถึงรายละเอียดสำคัญบางอย่างไม่อาจอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ จึงต้องถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับ
เพราะเรื่องนี้ถูกเก็บไว้เป็นความลับ ตัวตนที่แท้จริงของกิดเดียนจึงถูกเก็บไว้เป็นความลับด้วยเช่นกัน
แม้แต่องค์กรเอ็กซ์ ซึ่งเป็นองค์กรที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ก็ไม่สามารถให้คนอื่นรู้ได้
แค่สังเกตก็รู้ว่ากิดเดียนแบกรับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เอาไว้เพียงลำพังในวันที่โดดเดี่ยว
ไม่มีใครที่เข้าใจ และไม่มีใครที่เขาพอจะระบายสิ่งที่อัดอั้นนี้ได้
ไม่ว่าเขาจะต้องพบเจอกับปัญหาอะไร กิดเดียนแบกรับทุกสิ่งทุกอย่างไว้เพียงลำพัง ไม่ว่าจะเหนื่อยสักแค่ไหน หรือยากลำบากสักเท่าไร เขาก็ไม่ปริปากบ่น
จู่ ๆ เนลล์ก็ไม่โกรธเขาเลย แต่เธอกลับรู้สึกสงสารเขา
เธอรู้ว่าช่วงเวลานั้นเป็นเรื่องยากสำหรับกิดเดียนที่จะผ่านไปให้ได้ แต่เห็นแก่ความปลอดภัยของประชาชน เขาจึงต้องยืนหยัดให้ได้
หลังจากเวลาผ่านไปนานเกือบสิบปี ในที่สุดเขาก็จับเจฟฟ์ ฟลินเดอร์ได้
เพราะนั่นเป็นเรื่องยากสำหรับกิดเดียน แล้วเนลล์ยังคู่ควรกับการเป็นภรรยาของเขาอยู่อีกไหม ถ้าเธอยังมัวแต่โทษเขาอยู่?
เนลล์ไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป เธอจึงกอดกิดเดียนเอาไว้ทันที
“พอแล้วค่ะ หยุดพูดได้แล้วนะ”
กิดเดียนโอบไหล่เธอเข้ามา แล้วกอดเธออย่างอ่อนโยน
เขาถอนหายใจออกมา แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกซึ้ง “ขอโทษนะเนลล์ ผมไม่ควรปิดบังคุณ”
เนลล์ทำเพียงส่ายหน้า แล้วตอบกลับหลังจากนั้นไม่นาน “ฉันไม่โทษคุณหรอกค่ะ ฉันรู้ว่าคุณมีเหตุผล แต่ถึงอย่างนั้น ในเมื่อตอนนี้เจฟฟ์ตายไปแล้ว นั่นหมายถึงคุณไม่ต้องเสี่ยงอันตรายอีกแล้วใช่ไหมคะ?”
เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ แล้วมองใบหน้าของเขา กิดเดียนยิ้ม ขณะที่เอื้อมมือขึ้นมาแตะจมูกของเธออย่างแผ่วเบา
“จะง่ายขนาดนั้นได้ยังไงล่ะครับ? อันตรายจะคงอยู่ในโลกใบนี้ตลอดไป เมื่ออันตรายอย่างหนึ่งสิ้นสุดลง อันตรายอื่นก็จะบังเกิดขึ้น มันจะหายไปได้ง่าย ๆ เพียงแค่ผมบอกว่ามันไม่มีอีกแล้วได้ยังไงล่ะครับ?”
กิดเดียนทำให้เนลล์รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาทันที เขาก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นเธอเป็นกังวล
จากนั้นเขาจึงพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่คุณไม่ต้องกังวลไปนะ ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้คุณปลอดภัย อย่าลืมสิครับ ว่าเรายังต้องอยู่ด้วยกันจนกว่าความตายจะพรากเราจากกัน”
เนลล์หัวเราะขึ้นมาเสียง “หึ” เธอรู้สึกทั้งซาบซึ้งและเศร้าในเวลาเดียวกัน
เธอจับมือกิดเดียนเอาไว้ แล้วพูดขึ้นด้วยความซึ้งใจ “คุณต้องไม่เป็นอะไรนะคะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ฉันจะ...”
“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับผม คุณจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปนะ ไม่ต้องคิดมาก และห้ามทำอะไรโง่ ๆ เข้าใจไหมครับ?”
จู่ ๆ น้ำเสียงของกิดเดียนก็เปลี่ยนเป็นจริงจังและเข้มงวด ซึ่งทำให้เนลล์รู้สึกคัดจมูกแล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอาบแก้มของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก