ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 130

เนลล์กระแอมในลำคอและยิ้มอย่างขอโทษ “เป็นฉันที่แย่เองค่ะ ช่วงนี้ฉันค่อนข้างยุ่ง...”

“หึ!” ในอีกด้านหนึ่งชายหนุ่มเย้ยหยัน

เนลล์ได้ยินคำเย้ยหยันและรู้ว่าข้ออ้างของเธอไม่ได้ผล

หญิงสาวจึงเปลี่ยนเรื่องแทน “อ่า...ฉันวางแผนว่าจะกลับวันนี้ค่ะ ฉันกำลังจะออกไปตอนคุณโทรมา!”

น้ำเสียงของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน “แค่กำลังจะออกมาเหรอ?”

“ชะ...ใช่!”

“อืม...ดี ถ้าผมไม่เจอคุณที่บ้านภายในครึ่งชั่วโมง คุณจะต้องยอมรับผลที่ตามมา”

จากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์ไป

เนลล์รู้สึกหม่นลงเมื่อจ้องมองไปที่หน้าจอสีดำของโทรศัพท์

ผู้ชายคนนี้... จำเป็นต้องเจ้ากี้เจ้าการถึงขนาดนี้เลยเหรอ!

ครึ่งชั่วโมงเหรอ? ทางที่เร็วที่สุดที่จะไปถึงสวนลีย์ภายใน 20 นาที คือขับรถ นั่นคงไม่ได้หมายความว่าเธอต้องออกไปในทันทีหรือ?

เธอมองไปที่กองภูเขาที่ล้วนแต่เป็นงานที่ยังไม่เสร็จที่กองอยู่ตรงหน้าของเธอ…

เธอนวดหว่างคิ้วของเธอด้วยความเหนื่อยล้าและถอนหายใจ

ลืมมันไป! เธอจะจัดการกับมันในวันพรุ่งนี้!

คิดได้เช่นนั้น เธอปิดคอมพิวเตอร์ เก็บของของเธอและลุกขึ้นยืน

มันคงไม่เป็นไรถ้าเธอยังคงนั่งอยู่ วันนี้เธอนั่งที่นั่นตลอดทั้งบ่าย และแม้แต่อาหารเย็นเธอยังก็ยังกินอยู่ที่โต๊ะของเธอ

ดังนั้นทันทีที่เธอลุกขึ้นทั้งหลังของเธอรู้สึกตึงและเจ็บ

เนลล์ขมวดคิ้วและนวดหลังของเธอแล้วเดินออกไปพร้อมกับกระเป๋าของเธอ

ตั้งแต่บริษัทค่อนข้างยุ่ง หลาย ๆ คนจึงอยู่เพื่อทำงานล่วงเวลา แม้ว่าจะเป็นเวลากว่าสามทุ่มแล้ว แต่สำนักงานก็ยังคงสว่างไสวและทุกคนกำลังนั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทำงานอย่างขะมักเขม้น

เนลล์เดินออกจากสิ่งที่เห็นอยู่นี่และรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาบ้าง

พวกเขาไม่ได้แตกต่างไปจากเธอ บริษัทนี้เป็นธุรกิจของเธอแต่สำหรับหรับพวกเขามันเป็นเพียงงานของพวกเขาเท่านั้น

เนลล์ปรบมือของเธอ ทุกคนถูกดึงดูดด้วยเสียงปรบมือและเงยหน้าขึ้นมอง

“ฟังทางนี้หน่อยค่ะ พวกคุณทุกคนยุ่งมากมาหลายวันแล้ว ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมานานแล้ว ดังนั้นกลับไปพักผ่อนกันดีกว่านะคะ คุณสามารถกลับมาทำงานที่ยังไม่เสร็จได้ในวันพรุ่งนี้!”

เสียงเชียร์ดังขึ้นในออฟฟิศ

“ใช่แล้ว! ในที่สุดพวกเราก็ได้เลิกงานกันแล้ว!”

เนลล์หัวเราะและออกมาในที่สุด

เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดีที่เธอกลับถึงสวนลีย์

เธอลงจากรถและมองไปรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกผิดเล็กน้อย และรีบย่องเข้าไปในห้องนั่งเล่น เมื่อเธอสังเกตเห็นว่าผู้ชายคนนั้นไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ

ป้าจอยซ์เข้ามาจากด้านนอก และเห็นเนลล์ขณะที่เธอยืนอยู่ที่ประตูเพื่อเปลี่ยนรองเท้า เธอจึงอุทานออกมาว่า “คุณผู้หญิงกลับมาแล้ว!”

เนลล์ยิ้มเจื่อน ๆ “ใช่ค่ะ เอ่อ...กิดเดียนอยู่บ้านไหมคะ?”

“เขาอยู่ชั้นบนในห้องสมุดค่ะ”

จู่ ๆ ป้าจอยซ์ก็มีท่าทางลังเลก่อนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้เพื่อกระซิบกระซาบอย่างมีความลับ “คุณต้องระวังหน่อยเมื่อขึ้นไปถึงหลังจากนี้ ฉันเห็นว่าคุณลีย์อารมณ์ไม่ค่อยดีในวันนี้ เขาถึงกับมีอารมณ์ฉุนเฉียวที่บ้านในตอนเย็นวันนี้ และไม่ได้กินอาหารเย็นมากนัก”

เนลล์รู้สึกแปลกใจ

เท่าที่เธอรู้ แม้ว่ากิดเดียนจะเป็นคนอารมณ์ร้าย แต่เขาแทบจะไม่แสดงความฉุนเฉียวออกมา นับประสาอะไรกับคนรับใช้ของครอบครัว

เขาได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดีและเป็นคนที่มีความยับยั้งชั่งใจเป็นอย่างมาก และด้วยสถานะและรัศมีในตัวของเขา ใคร ๆ ต่างไม่กล้าที่จะรบกวนเขาง่ายๆ

เพราะฉะนั้นทุกคนจึงระมัดระวังเมื่อเผชิญหน้ากับเขา และเขาก็ไม่เคยก้าวร้าวกับคนรับใช้ของเขาเลยเหมือนกัน

วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันเขานะ?

เนลล์สับสน แต่ป้าจอยซ์ก็พูดขึ้น “ฉันเกรงว่าคืนนี้เขาจะหิวเลยอุ่นโจ๊กทะเลของโปรดของเขาเอาไว้ในครัว มันเป็นอาหารเบา ๆ ถ้าหากว่าคุณผู้หญิงเห็นว่าอารมณ์ดีขึ้นแล้ว ได้โปรดเตือนให้เขาลงมาและทานอาหาร! เขาทำงานหนักขนาดนั้นและไม่ได้ทานอาหารเย็นได้อย่างไรกัน?”

เนลล์พยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะบอกเขาให้นะคะ”

จากนั้นเธอเปลี่ยนรองเท้าของเธอและเดินเข้าไปด้านใน

ที่ชั้นบนห้องนอนที่ว่างเปล่า เนลล์สยายผมที่มัดเอาไว้ทั้งวันและนวดหนังศีรษะเพื่อคลายความตึงเครียด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านและมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุด ห้องสมุดมีแสงสลัวอบอุ่นจากโคมไฟตั้งพื้นสีส้ม

ร่างสูงทอดกายอยู่ใกล้กับหน้าต่างแบบฝรั่งเศส ในขณะนั้นเอง ชายหนุ่มที่กำลังเอนหลังทอดกายเรียวขายาวยกขึ้นไขว่ห้างพลางพลิกหน้าหนังสือในมืออย่างแผ่วเบา

ร่างของเขาปรากฏชัดเจนและสง่างาม โคมไฟที่ส่องแสงสว่างอยู่เหนือศีรษะของเขาและสร้างแสงเงากระทบลงมุมบนใบหน้าของเขา ทำให้ใบหน้ามีมิตินั้นดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก

เนลล์เดินเข้ามาเบา ๆ

เสียงฝีเท้าของเธอแผ่วเบา แต่อย่างไรเสียในขณะที่เธอกำลังจะเดินไปที่ด้านหลังของเขา เธอก็ถูกพบเข้า

“ในที่สุดคุณก็กลับมาแล้วเหรอ?”

เนลล์นิ่งอึ้ง เธอมองไปรอบ ๆ และไม่เห็นอะไรสะเทือนตอบกลับมาเหมือนกระจก

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้จ้องมองมาที่ด้านหลัง เธอจงใจก้าวเดินอย่างแผ่วเบาและเสียงฝีเท้าของเธอไม่มีเสียงบนพรมนุ่ม ๆ แล้วเขาจับเธอได้อย่างไร?

เดิมทีเธออยากแกล้งเขาให้ตกใจสักเล็กน้อยแต่กลับถูกเขาจับได้คาหนังคาเขาแทน หญิงสาวเริ่มจะรู้สึกอายขึ้นมาบ้างแล้ว

เธอลูบจมูกของเธอและหัวเราะเจื่อน ๆ

“ค่ะ... ไม่ใช่คุณเหรอที่บอกให้ฉันกลับมา?”

กิดเดียนหันกลับมา

ภายใต้แสงไฟนั้น ใบหน้าของชายหนุ่มราวกับหยก ใบหน้าของเขาคมเข้ม และดวงตาสีดำเรียบนิ่งราวกับหินของเขา ราวกับว่าพวกเขาจะถูกละลายหายไปในความมืดมิดที่ไม่มีสิ้นสุด

เนลล์รู้สึกแปลก ๆ อย่างอธิบายไม่ได้กับรูปลักษณ์ของเขาและเสียความมั่นใจไปพอสมควร

เนลล์หลุบตาลงด้วยความรู้สึกผิดและยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับเด็กที่กระทำความผิด

เวลาผ่านไปไม่นานหลังจากนั้นชายหนุ่มก็พูดขึ้นในที่สุด

“มานี่สิ”

เนลล์สะดุ้งและมองไปที่เขาด้วยความไม่เข้าใจ ทว่าก็เชื่อฟังและเดินเข้าไปหา

เมื่อเธอเดินเข้าไปหา ข้อมือของเธอถูกคว้าเอาไว้ เธออุทานด้วยความตกใจและถูกดึงให้นั่งลงบนตักของชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะมีเวลาตอบโต้

“อะ...อะไร คุณกำลังจะทำอะไร?”

ด้วยสถานะที่คลุมเครือนั้นจิตใต้สำนึกของเธอต้องการที่จะต่อต้าน

ทันใดนั้นเอง เอวบางของเธอก็ถูกชายหนุ่มโอบกอดเอาไว้ คนที่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “อย่าขยับ!”

เนลล์ตัวแข็งและไม่กล้าขยับอีกต่อไป

กินเดียนมองใบหน้าของเธอใกล้ ๆ ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและงดงามแต่มองดูเหนื่อยล้าเล็กน้อยเนื่องจากต้องทำงานติดต่อกันหลายวัน

ดวงตาคู่สวยมองดูไม่สดใสและเปล่งประกายเหมือนที่เคยเป็นอีกต่อไป และมีเส้นสีแดงเล็กน้อยปรากฏขึ้นจาง ๆ นอกจากนั้นยังมีรอยช้ำน้อย ๆ ที่ใต้ดวงตาของเธออีกด้วย

เนลล์เริ่มรู้สึกอึดอัดที่เขาจ้องมองและขยับอย่างเชื่องช้า “คุณ... กำลังมองอะไรของคุณ?”

กิดเดียนพูดขึ้นอย่างเรียบนิ่ง “ในฐานะสามีของคุณ ผมสนับสนุนอาชีพของคุณเพราะมันเป็นสิ่งที่คุณชอบ แต่ผมไม่ต้องการร่างกายของคุณไร้ซึ่งจิตวิญญาณและความฝัน”

“อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะปล่อยให้คุณละเลยไม่ดูแลร่างกายและพักผ่อน คุณนายลีย์สามารถมีความฝัน แต่ผมไม่ต้องการภรรยาที่ทำงานเป็นหุ่นยนต์ เข้าใจไหมครับ?”

เขายกมือขึ้นจับปลายคางของเธอ เพื่อให้เธอหันหน้ามามองเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก