ในตอนนั้น ทีมงานทั้งหมด
ลูซี่ห้อยอยู่ตรงนั้นประมาณราว ๆ สิบนาทีกว่าแล้ว
ลีวายกับคาริน่า กำลังช่วยกันคิดหาวิธีต่าง ๆ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถช่วยเธอได้
เนื่อจากวันนี้มีการถ่ายทำที่ภูเขาเพียงฉากเดียวเท่านั้น จำนวนคนที่มาทำงานจึงไม่มากเท่าที่ควร มีสิ่งจำเป็นแค่อุปกรณ์จัดแสงและช่างภาพ ก็มีเพียงแค่ลีวาย นักแสดงบางส่วนและช่างแต่งหน้า
เหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ทำให้ทุกคนตกใจ
ลีวายตะโกนใส่คนที่คอยดูแลอุปกรณ์จัดแสงเพียงไม่กี่คน “คุณบอกว่า คุณได้เช็คมันแล้วไง นี่คือสิ่งที่คุณเรียกว่าเช็คเหรอ นี่คือสิ่งที่คุณทำใช่ไหม?”
ทีมงานยังคงรู้สึกผิด “ผู้กำกับ นั่นไม่ใช่สะพานที่เรานำมา นั่นมันอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว ทุกคนเดินได้ปกติ เราก็ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อลูซี่เดินบนนั้นมันถึงได้หัก”
ลีวายโกรธมาก เขาโกรธเดือดดาลจนลืมตัว
เขาหันไปมองหาผู้ช่วยของเขา “เจอใครบ้างไหม?”
ผู้ช่วยของเขาส่ายหัวอย่างช้า ๆ “ผู้กำกับ ภูเขาอยู่ไกลมากและฝนกำลังตก กว่ารถเครนจะมาถึงใช้เวลาพอสมควร”
ลีวายเริ่มกระวนกระวายใจ “แล้วพวกสตั๊นท์แมนล่ะ บอกพวกเขาให้พาคนที่ฝึกการแสดงมาเพื่อพาเธอออกมา”
ผู้ช่วยกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
“การถ่ายทำทั้งหมดในวันนี้นั้นสำหรับละครวรรณคดี ดังนั้นพวกเขาจึงแค่แวะมาเยี่ยม เพราะว่าเราเดินทางกันแบบสบาย ๆ ทีมงานที่คอยช่วยเหลือ จึงไม่ได้นำสายรัดพกมาด้วย พวกเรา….”
“พอ!”
อยู่ ๆ คาริน่า ก็ตะโกนออกมา ตาของเธอแดงก่ำไปด้วยความโกรธ แล้วจ้องมองไปยังทีมงานที่ปฏิเสธความรับผิดชอบแล้วโยนความรับผิดชอบไปที่อีกคน เธอพูดด้วยความโกรธว่า “พวกคุณยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม พี่ลูซี่ห้อยอยู่ที่นั่นมานานกว่าสิบนาทีแล้ว เธอจะสามารถทนได้นานแค่ไหนกัน ในขณะที่ในตกแบบนี้ พวกคุณช่วยกันหาทางแล้วช่วยหาใครสักคนมาช่วยเธอขึ้นมาก่อนไหม”
ผู้ช่วยมองไปที่เธอแต่ไม่ได้พูดอะไร
คาริน่าพูดต่อ “ถ้ามันไม่มีเครื่องลาก เชือกมันก็ใช้ได้เหมือนกัน จะไม่มีใครสักคนผูกเชือกไว้บนร่างกายแล้วลง
ไปหรือไง พวกคุณไม่มีใครเป็นผู้ชายที่ใจกล้าก้าวไปข้างหน้าบ้างเหรอ”
ไม่มีใครพูดอะไรออกสักคำ ไม่มีใครที่จะกล้ามองหน้าเธอ ทุกคนต่างหลบสายตาเธอที่เต็มไปด้วยความสงสัย
คาริน่ารู้สึกว่าหัวใจของเธอเศร้ามาก เมื่อเธอได้เห็นสิ่งเหล่านี้
ในตอนนั้นเอง ที่ใครบางคนเริ่มกระซิบกัน “ฝนมันตกหนักขนาดนี้และหินมันก็ต้องลื่น ใครเขาจะกล้าลงไปข้างล่างทั้ง ๆ ที่ไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน นี่คือการถามให้ไปตายใช่ไหม”
ก่อนที่เขาจะได้พูกจบประโยค ใครบางคนก็กระทุ้งไปที่แขนของเขา เพื่อที่จะให้เขาหุบปาก
ลีวายมองดูอย่างไม่ใจ แต่ในตอนนี้เป็นเวลาที่ไม่เหมาสม ที่จะให้ใครสักคนลงไปด้านล่าง
เขาสั่งให้ผู้ช่วยของเขากับเสียงที่ต่ำ "เรียกทีมงานทุกคนทันที และขอให้พวกเขาส่งใครสักคนพร้อมกับอุปกรณ์ในการช่วยเหลือเธอ นอกจากนี้แจ้งตำรวจ เพื่อว่าพวกเขาจะมีวิธีที่รวดเร็วและอำนวยความสะดวกมากขึ้นใกล้ ๆ นั้นเพื่อช่วยเธอ "
ผู้ช่วยเห็นด้วย และรีบไปทำมันในทันที
คาริน่าเห็นสิ่งนี้และเข้าใจไปว่าลูซี่จะยังไม่ได้รับข่วยเหลืออีกสักพัก
ถึงแม้ว่าจะแจ้งไปยังทีมงานกับตำรวจแล้ว มันก็ใช้เวลาอย่างน้อยประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อขึ้นไปบนภูเขา ใครจะรู้ว่าลูซี่จะสามารถห้อยอยู่ที่นั่นได้นานแค่ไหน
ความกลัวและความกังวลปะปนกัน จนทำให้คาริน่าเริ่มร้องไห้ออกมา
เมื่อลีวายหันไปรอบ ๆ เจอเธอกำลังร้องไห้ เขาก็อดไม่ได้ที่รู้สึกรำคาญมากขึ้นไปอีก
“เอาล่ะ หยุดร้องไห้ เธอยังไม่เป็นอะไร คุณจะร้องไห้ไปเพื่ออะไรกัน”
ลีวายยังมีความกังวลเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ
เขาเดินไปที่ขอบหน้าผาและมองลงไป ด้านล่างนั้นลึกมากจนเขามองไม่เห็นลูซี่เลย
“ลูซี่ แคทซ์ คุณเป็นยังไงบ้าง ได้ยินเสียงผมไหม”
หลังจากผ่านไปสักพัก ก็มีเสียงจาง ๆ ขึ้นมาจากด้านล่าง
“ได้ยินค่ะ”
แม้ว่าเสียงนั่นจะดูหมดแรง แต่มันก็เรียกความมั่นใจให้กับทุกคน
ทุกคนกระวนกระวายใจอย่างมาก ลีวายพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว "ไม่ต้องกังวล ผมส่งคนไปเพื่อไปเอาอุปกรณ์ที่จำเป็นมาช่วยเหลือคุณ คุณสามารถจับมันได้นานแค่ไหน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก