จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจของเขาขึ้นมาอย่างกระทันหัน
ดูเหมือนว่าความทรงจำที่ถูกลืมเลือนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งในขณะนี้ สายลมยามค่ำคืนได้พัดเข้ามาเปิดประตูแห่งความทรงจำและอดีตอันขมขื่นของเขาขึ้นมา
วันที่ 23 เดือนตุลาคม ปี 2562
ในค่ำคืนหนึ่งเมื่อสี่ปีที่แล้ว มีคน ๆ หนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนที่กำลังตกหนัก คน ๆ นั้นบอกกับเขาเอาไว้ว่าอีกสี่ปีข้างหน้าเธอจะปรากฏตัวออกมา
และเธอจะมาหาเขา
แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยผ่านมาสี่ปีแล้ว แต่เขาก็ยังคงนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอยู่ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา
เขานึกถึงดวงตาที่สุดแสนจะเย็นชาของหญิงสาว และใบหน้าที่แน่วแน่ท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำตกลงมา
ร่างเล็กของเธอบางราวกับกระดาษที่สามารถละลายออกไปท่ามกลางสายฝนได้ทุกเมื่อ แต่ดวงตาคู่นั้นของเธอกลับสงบและแน่วแน่ราวกับเหล็กกล้าผู้ไม่ย่อท้อต่อสิ่งใด ราวกับเสือดาวที่กำลังคืบคลานรอโอกาสเข้าไปขย้ำเหยือให้ถึงตาย!
เกรกอรีหลับตาลงและนึกถึงภาพเหล่านั้นที่เคยเกิดขึ้นอย่างละเอียด
สักครู่เขาก็หัวเราะออกมา
เขาไม่รู้ว่าเขากำลังหัวเราะหญิงสาวคนนั้นหรือกำลังหัวเราะตัวเองกันแน่
หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้นมา เกรกอรีหันกลับเข้ามาในห้องและเดินออกไปโดยไม่รีรอ
ในขณะเดียวกันนั้น
ณ เรือนจำหญิงที่ห่างออกไปสามร้อยกิโลเมตร
ในห้องขังที่หนาวเย็นและอับชื้น มีร่างผอมบางนั่งเงียบ ๆ อยู่บนเตียง
เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อย ผมสั้นที่ยาวถึงหูปิดครึ่งแก้มของเธอเอาไว้ มีแสงสลัวส่องลงมาจากด้านบนของศีรษะเล็กน้อย จึงไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของเธอได้ชัดเจนนัก แต่คางที่งดงามของเธอสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
เสียงอันเยือกเย็นของผู้คุมขังมาจากภายนอก “95201 มีคนโทรมาหาเธอ!”
เธอเงยหน้าขึ้นมา เผยให้เห็นถึงสีหน้าที่ละเอียดอ่อนแต่ไม่แสแยต่อสิ่งใดของเธอ
ดวงตาของผู้คุมเรือนจำชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะลุกขึ้นออกจากเตียง
ประตูเหล็กของห้องขังปิดลงไล่ตามหลังเธอ เธอเอื้อมมือออกไปและปล่อยให้ผู้คุมใส่กุญแจมือ ก่อนจะเดินไปที่ห้องไปรษณีย์ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง
แถวของโทรศัพท์แบบมีสายถูกวางอยู่บนโต๊ะในห้องจดหมาย เธอเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ถูกรับสายไว้แล้วมาแนบไว้ข้างหู
"ว่าไง"
เสียงของผู้รับสายมีความหยาบเล็กน้อย แต่ก็ฟังดูเซ็กซี่ดี
เสียงใส ๆ ของหญิงสาวดังออกมาราวกับนกขมิ้นสีเหลืองในฤดูใบไม้ผลิ ที่เต็มไปด้วยความสุข "พี่คะ! พี่จะได้ออกจากที่นั้นในวันพรุ่งนี้แล้ว ให้ฉันไปรับพี่ได้ไหม?”
เสียงนั้นคือเสียงของ เจนนี่ เทย์เลอร์ น้องสาวต่างมารดาของเธอนั้นเอง
วิกกี้ โทมัสตกตะลึง ร่างกายของเธอไร้การตอบสนองไปชั่วขณะ
นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่ได้ยินเสียงนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว หรือบางทีเธออาจจะไม่เคยคาดหวังว่าจะมีใครมารับเธอหลังจากที่ติดอยู่ในคุกถึงสี่ปี เธอเคยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สูญเสียอำนาจและอิทธิพลของเธอไป จนทำให้ทุกคนต้องการที่จะทำร้ายเธอ
ประมาณครึ่งนาทีต่อมา เธอพยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดว่า “ได้สิ”
เสียงที่อยู่ปลายสายยังคงพูดเจื้อยแจ้วต่อไป และฟังดูมีความสุขมากขึ้นเพราะว่าคำตอบตกลงของวิกกี้ “พี่คะ พี่รู้หรือเปล่าว่าลูกชายของลุงอับรามที่เคยรังแกพี่เขาจมน้ำตายในอุบัติเหตุเมื่อปีที่แล้ว อย่างที่ฉันเคยบอก เขาสมควรโดนแบบนี้แล้วล่ะ! ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว ถึงเวลาตายของเขาแล้ว!”
วิกกี้ครุ่นคิดอยู่ประมาณห้าถึงหกวินาที ก่อนที่จะจำได้ว่าใครคือลูกชายของลุงอับรามตามที่น้องสาวต่างมารดาได้บอก
เขาเป็นเพื่อนบ้านของพ่อเลี้ยงของเธอ ในอดีตเขามักจะพยายามเข้าใกล้เธอเสมอ คงเป็นเพราะใบหน้าที่สวยของเธอตั้งแต่ยังเด็ก
เด็กชายคนนั้นมีอายุมากกว่าเธอแค่เพียงสองปีเท่านั้น
เมื่อตอนที่พวกเขายังเป็นเด็ก พวกเขาเคยใจร้อนและซุ่มซ่าม เขามักจะไล่ตามเธอและไม่ยอมเลิกราง่าย ๆ แม้ว่าเธอจะเยือกเย็นและเล่นตัวเก่งมากก็ตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก