ในห้องนั่งเล่นที่อาคารรับรองหลัก
เกรกอรีที่กำลังนั้งรออยู่ตรงนั้นแต่งตัวจัดเต็มเลยทีเดียว
ปกติจะไม่ค่อยเห็นเขาใส่ชุดสีขาวสบายตาแบบนี้สักเท่าไหร่ เหมือนว่าความขาวนั้นได้ชะล้างความหมองคล้ำของเขาออกไป จึงทำให้เขาดูสดใสและหล่อเหลาขึ้นมาในทันตา มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้กลับมาเป็นเด็กนักเรียนมหาวิทยาลัยอีกครั้ง
ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กับเขาเป็นชายท่าทางมูมมามคนหนึ่งที่กำลังทิ้งตัวพิงโซฟาด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ ในขณะที่ในมือของเขากำลังถือองุ่นพวงหนึ่งพลางยัดใส่ปากทีละชิ้น
“นี่นายจะบ้าไปแล้วเหรอเกรกอรี? ไม่ใช่ว่านายเคยบอกไว้เหรอว่านายไม่เคยรอผู้หญิงคนไหน? ใครคือสาวงามที่ทำให้นายต้องมานั้งรออยู่แบบนี้กัน?”
ความจริงแล้วเขาตื่นนอนตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ดังนั้นเขาคิดว่าเขาควรจะรอต่อไปอีกสักหน่อย
เกรกอรีกำลังอ่านข่าวบนไอแพดของเขา พลางเหลือบตามองขึ้นไปที่มัสซิโม โนแลน
ผิวของเขาซีดเผือด ราวกับก้อนน้ำแข็งที่มีอายุมานับร้อยล้านปี
“นายจะกลับเลยก็ได้นะถ้าลำคานมากละก็”
สีหน้าของมัสซิโมเปลี่ยนไปด้วยความน่ากลัว เขารีบพูดแย้งขึ้นมาว่า “เฮ้ อย่าใส่ใจเลย ฉันก็แค่พูดล้อเล่นเอง”
เมื่อพูดจบ เขาก็เอนร่างกายลงนอนกับโซฟาด้วยความผ่อนคลายต่อไป เขาหัวเราะในขณะที่พูดว่า “ฉันรอได้น่า ฉันว่างอยู่แล้ว ฉันแค่อยากจะรู้ว่าใครคือคนที่ทำให้เกรกอรีพี่ชายสามของฉันกำลังรออยู่ ก็แค่นั้นเอง”
เกรกอรีเหลือบตามองไปที่เขาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาอย่างนุ่มนวลดังก้องเข้ามาจากด้านนอก
มัสซิโมเลิกคิ้วขึ้นพลางกระโดดลงมาจากโซฟาพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ “โย่ เจ้าของบ้านอยู่ที่นี่”
ประตูห้องนั่งเล่นถูกเปิดออกกว้างเมื่อร่างเพรียวบางกำลังเดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน
วิกกี้สวมชุดลำลองอย่างเรียบง่าย เธอสวมแจ็กเก็ตตัวสีเทาอ่อนและกางเกงจ็อกเกอร์ ข้างใต้กางเกงจ็อกเกอร์นั้นมีขาเรียวยาวคู่หนึ่งซ่อนไว้อยู่ ผมสั้นของเธอถูกหวีให้เป็นเส้นตรงและเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีปอยผมพาดอยู่ด้านหน้าสองสามเส้น ดวงตาของเธอฉายแววของความสดชื่นซึ่งส่องประกายเฉิดฉายได้อย่างชัดเจน
มัสซิโมรู้สึกประหลาดใจมากที่ได้เห็นเธอ
ในฐานะที่เขาเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเกรกอรี จึงไม่แปลกใจเลยที่เขาจะรู้จักกับวิกกี้
เขายังรู้อีกด้วยว่าพวกเขาได้มีความลึกซึ้งร่วมกัน และรวมไปถึงความคับแค้นใจเอาไว้มากมาย
เกือบจะทุกคนที่ได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องของพวกเขา เพราะว่าในตอนนั้นพวกเขาทั้งสองคนผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้นมาก
แต่เกรกอรีก็ยังเป็นคนชั่วร้ายมากพอที่จะส่งเธอเข้าไปในคุก
เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาทั้งสองคนจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกันด้วยความสงบสุขแบบนี้?
พวกเขาคืนดีกันแล้ว หรือแค่มาเพื่อยุติความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้น?
มัสซิโมมองดูพวกเขาทั้งสองคนด้วยความสับสน
วิกกี้และเกรกอรีดูจะมีความใจกว้างต่อกันและกัน แต่อีกในทางหนึ่งขณะที่วิกกี้กำลังเดินเข้ามา เธอก็ได้ชำเลืองมองไปที่มัสซิโมอย่างรวดเร็ว เธอเลิกคิ้วขึ้นและเอ่ยถามว่า “มีแค่เราแค่นี้เหรอ?”
ตอนนี้บนใบหน้าของมัสซิโมมีสีหน้าที่แปลกไปจากเดิม
เกรกอรีสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อนจะวางไอแพดลง เขายืนขึ้นพลางปรับเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เดี๋ยวจะมีคนอื่นมาอีก”
หลังจากสิ้นสุดคำพูดของเขา เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังก้องมาจากประตูทางเข้า
“พระเจ้า ดูอากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจของวันนี้สิ! ฉันว่าคุณควรจะออกไปเดินเล่นกับฉันสักหน่อยนะคะเกรกอรี”
ยูเลียนา ลินซ์ เดินเข้ามาพร้อมกับเสียงนั้น เธอสวมเสื้อผ้าจากคอลเลคชั่นแบรนหรูอย่างโอต์กูตูร์ของชาแนล
สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือการแต่งหน้าที่มีความละเอียดอ่อนของเธอ ดวงตาคมเข้ม และฟันที่เรียงสวยของเธอ ผมของเธอเป็นลอนตกลงมาเหนือไหล่ของเธออย่างเป็นธรรมชาติ สะโพกของเธอโยกไปมาจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งเมื่อเธอก้าวเดิน จึงทำให้เธอนั้นดูมีเสน่ห์มากจนทำให้ผู้ที่ได้มองเกิดความหลงใหลตั้งแต่แรกเห็น
มัสซิโมถึงกับตกตะลึงในความสวยของเธอในทันที
เขาได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้นกำลังหัวเราะเยาะเขา แต่ตอนนี้เขาสูญเสียการตอบสนองไปแล้ว
แน่นอนว่าคนที่หัวเราะออกมานั้นคือวิกกี้นั้นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก