อันธพาลที่แบกวิกกี้ โทมัสเอาไว้หน้ามืดในทันที จากนั้นร่างกายของเขาก็เดินกะเผลกไปทั่ว
วิกกี้ก็ถูกโยนลงบนพื้น
อย่างไรก็ตาม เธอยังคงได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อเธอล้มลงกับพื้น เธอจึงไม่สามารถประคองตัวเองให้มันคงได้ เธอจึงกลิ้งลงบันไดด้วยเสียงกระทบอันดัง
เมื่อกลิ้งลงมา วิกกี้ทำได้เพียงปกป้องศีรษะของเธอเท่านั้น เธอรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเธอแตกสลายไปทั่วทั้งตัว
อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่กล้าที่จะอยู่ตรงนั้นต่อแม้แต่วินาทีเดียวถึงแม้ว่ามันจะทรมานมากก็ตาม เธอฝืนทนต่อความเจ็บปวดที่แสนสาหัสเพื่อลุกขึ้น และวิ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
แม้ว่ากลุ่มคนเหล่านั้นจะต่อสู้กัน แต่พวกเขาก็ยังจับตาดูเธออยู่
เมื่อพวกเขาเห็นว่าเธอกำลังหลบหนี พวกเขาเหล่านั้นก็เตะคนที่อยู่ข้างหน้าออกไปและรีบไล่ตามเธอไปทันที
ณ จุดนั้น วิกกี้ใช้พลังงานทั้งหมดของเธอเพื่อการหลบหนี
ถึงแม้ว่าเธอจะเก่งศิลปะการป้องกันตัว แต่ในตอนนี้เธออาการสาหัสหลังจากที่เธอประสบอุบัติเหตุรถชน และยังตกลงไปในแม่น้ำอีก
ความเจ็บปวดที่หน้าอกและหน้าท้องของวิกกี้เป็นเครื่องบ่งชี้ได้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บภายในและการต่อต้านของเธอ ณจุดนั้นราวกับว่าพลังใจที่บริสุทธิ์ได้ถูกปลดปล่อยออกมา
เธอไม่แน่ใจว่าเธอจะทนอยู่ได้นานแค่ไหน
สองคนข้างหลังเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
พวกเขาตั้งใจที่จะจับเธอทั้ง ๆ ที่กลุ่มคนเหล่านั้นยังคงไล่ตามพวกเขามา
หัวใจของวิกกี้เย็นเยียบลง เธอแอบหยิบกริชที่ซ่อนอยู่ที่เอวของเธอออกมา โชคดีที่พวกอันธพาลไม่ได้ตรวจค้นร่างกายของเธอหลังจากที่พวกเขานำตัวเธอมา
ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอนำติดตัวมายังคงอยู่กับเธอที่นั่น
เธอสัมผัสกริชและรู้สึกสงบขึ้นเล็กน้อย
เมื่อวิกกี้รู้สึกว่ามีแรงลมพัดผ่านมาจากด้านหลัง เธอจึงหันหลังกลับและเหวี่ยงอาวุธใส่ทั้งสองคนโดยไม่ลังแล
ทันใดนั้นเอง การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
มีใครบางคนช่วยเธอเอาไว้ คน ๆ นั้นรีบออกมาจากพุ่มไม้และขวางทางสองคนนั้นเอาไว้
หลังของบุคคลนั้นหันให้เธอและการเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เขาเตะพวกเขาทีละคนและร่างของพวกเขาก็กลิ้งลงบันไดที่สูงชันไป เขาล้มคนสองคนที่อยู่ข้างหน้าของเขาได้อย่างรวดเร็ว
วิกกี้ตกตะลึงเล็กน้อยกับสิ่งที่เธอเห็น
วินาทีต่อมา เมื่อเธอเห็นชายคนนั้นหันมาและจับมือเธอ เธอก็ยกมือขึ้นและพยายามฟาดฟันเขาด้วยกริชของเธอ แม้ว่าเธอจะต้องตาย เธอก็จะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองตกไปอยู่ในมือของคนอื่นได้
อย่างไรก็ตาม บุคคลนั้นรวดเร็วและว่องไวเกินไป ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบโต้ ข้อมือของเธอก็อยู่ในกำมือของบุคคลนั้นแล้ว
เธอตกใจกลัว และรู้ว่าเธอไม่ได้รวดเร็วเหมือนปกติเนื่องจากอาการบาดเจ็บของเธอ
ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยกขาขึ้นมาเพื่อเตะชายคนนั้น
ชายคนนั้นสกัดกั้นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอ ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันที่แดดแรงมากจนเธอรู้สึกเวียนหัวและสับสน เธอไม่สามารถแยกแยะภาพที่อยู่ตรงหน้าของเธอได้เลย
วิกกี้มองเห็นไม่ชัดแม้แต่ใบหน้าของบุคคลนั้น เธอยังคงดิ้นรนต่อต้าน เพียงไม่นานเธอก็ถูกอีกฝ่ายหนึ่งปราบให้สงบลง
จากนั้นเธอก็กระแทกหัวของเธอเข้าไปที่ร่างของ ชายคนนั้นด้วยกำลัง ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงที่ต่ำและคุ้นเคย
“พอได้แล้ววิกกี้ นี่ฉันเอง!”
วิกกี้ตกตะลึง
ร่างกายของเธอแข็งทื่อ
เธอตกใจและมองขึ้นไปที่ชายร่างสูงด้วยท่าทางเย็นชาที่อยู่ข้างหน้าเธอ แสงแดดสาดส่องเข้ามาจากช่องว่างระหว่างใบไม้ที่อยู่เหนือศีรษะจนทำให้ดวงตาของเธออ่อนล้า แต่เธอก็ยังได้เห็นโครงร่างและลักษณะทั่วไปของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ
“เกรกอรี เกรแฮม?”
'นายมาทำอะไรที่นี่?'
วิกกี้ไม่ได้ถามคำถามที่สอง
มีเพียงความมืดเข้ามาในดวงตาของเธอ เธอไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีกต่อไป จากนั้นเธอก็หมดสติไป
เกรกอรีพาเธอตรงกลับไปที่คฤหาสน์ทันที
และคนที่ถูกพาตัวกลับไปที่คฤหาสน์ด้วยก็คือ อันธพาลที่ลักพาตัวเธอไป
ในตอนแรกคนกลุ่มนั้นมีกันหกคน สองคนตายลงที่บนภูเขา ส่วนที่เหลือจึงถูกนำตัวกลับมาโดยอยู่ภายใต้คำสั่งของเกรกอรี และในตอนนี้พวกเขาก็ถูกกักขังเอาไว้กับคนที่ได้รับมอบให้จับตาดูพวกเขา พวกเขาแค่รอให้เกรกอรีสอบปากคำเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก