ในหน้าที่อาชีพการงานของเธอ เทคนิคนี้ถือว่าช่วยวิกกี้ โทมัส ได้เป็นอย่างดี
แม้แต่พวกอาวุธลับที่เธอได้เรียนรู้ในภายหลังก็ล้วนมาจากอาวุธชิ้นนี้ทั้งนั้น
ในขณะที่เธอกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ดวงตาของเธอก็มืดลงเล็กน้อย
ความรู้สึกแปลก ๆ ได้ผ่านเข้ามาในหัวใจของเธอ
แอนเดรียเห็นว่าวิกกี้กำลังเล่นปาเป้าอย่างตั้งอกตั้งใจ และอมยิ้มไปด้วย
“คุณโทมัสคะ คุณปาลูกดอกได้แม่นมากเลยค่ะ”
วิกกี้ยิ้มออกมาเล็กน้อย พลางหยิบลูกดอกขึ้นมาหนึ่งอันแล้วยื่นมันให้กับเธอ
"เธออยากลองเล่นดูบ้างไหมล่ะ?"
แอนเดรียจ้องไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ
“ฉันเหรอคะ ไม่ค่ะ ไม่ดีกว่า”
เธอโบกมือปฎิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ฉันปาไม่เข้าเป้าหรอกค่ะ”
วิกกี้มองเธอแล้วหัวเราะออกมา
“ถ้าหากว่าเธอไม่ลองละเธอจะรู้ได้ยังไง”
เมื่อเธอได้ยินคำพูดของวิกกี้ แอนเดรียก็ขยับตัวเล็กน้อย
เธอรู้สึกลังเลใจ แต่ว่าในที่สุดเธอก็หยิบลูกดอกขึ้นมาอย่างไม่รอช้า
"ถ้าอย่างนั้น...ฉันจะลองปาดูค่ะ แต่ถ้าเกิดว่ามันพลาดเป้าขึ้นมา คุณก็อย่าหัวเราะเยาะฉันนะคะ!"
วิกกี้พยักหน้ารับพร้อมกับสร้างความมั่นใจกับเธอ
"เอาเลย ปามันออกไปเลย! ฉันจะไม่หัวเราะเยาะเธอหรอก"
แอนเดรียเดินไปอยู่ตรงจุดที่วิกกี้ยืน สายตาของเธอเล็งไปที่กระดานที่แขวนอยู่บนผนังฝั่งตรงข้าม แล้วปาลูกดอกออกไป
แล้วก็เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ไม่มีผิด เธอพลาดเป้า
ไม่ใช่เพียงแค่พลาดเป้าเท่านั้น แต่มันดันลอยออกไปไกลจากกระดาน จนแทบจะไปโดนหน้าต่างที่อยู่ข้าง ๆ เลยด้วยช้ำ
แอนเดรียรู้สึกเขินอาย และผิดหวังเล็กน้อยเมื่อเห็นแบบนี้
“ฉันเห็นคุณดูผ่อนคลายมากเลยนะคะ ตอนที่ปามันออกไป แต่ว่าทำไมฉันกลับพลาดเป้าไปได้ไกลขนาดนี้”
วิกกี้ยิ้มพร้อมกับอธิบายให้เธอฟังว่า “สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัว มือและตาของเธอจะต้องอยู่ในทิศทางเดียวกัน พร้อมกับแกร็งข้อมือของเธอออกเล็กน้อย เธออยากจะลองดูอีกสักครั้งไหมล่ะ?”
คราวนี้แอนเดรียส่ายหัวของเธออย่างแรง
“ไม่ค่ะ ไม่ ไม่เอาแล้วค่ะ ฉันไม่คิดว่าฉันจะสามารถปาโดนเป้าได้ แม้ว่าฉันจะลองอีกสักสองหรือสามครั้ง ฉันไม่เคยฝึกฝนสิ่งนี้มาก่อน และก็ไม่รู้จักวิธีเล่นด้วย คุณเล่นของคุณต่อเถอะค่ะ”
เมื่อวิกกี้เห็นอย่างนั้นแล้วเธอจึงเลิกคะยั้นคะยอแอนเดรีย เธอหยิบลูกดอกอีกอันหนึ่งสำหรับตัวเองขึ้นมาแล้วปามันออกไป
ในมือของเธอ ลูกดอกอันเล็ก ๆ เหล่านั้นดูราวกับว่าพวกมันมีตา
ลูกดอกเหล่านั้นถูกปาให้พุ่งไปที่เป้าหมายทีละดอก
แอนเดรียถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นสิ่งนี้
เธอปรบมือเชียร์จากด้านข้างอย่างต่อเนื่อง
“คุณโทมัสคะ คุณจะปาแม่นเกินไปแล้ว! คุณเท่สุด ๆ ไปเลยค่ะ!”
วิกกี้ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เธอยกมือขึ้นหยิบลูกดอกอีกลูกหนึ่ง และกำลังจะปามันออกไปอีกครั้ง แต่เมื่อเธอเหลือบไปเห็นร่างที่กำลังยืนอยู่ข้างนอกหน้าต่าง เธอจึงหยุดทันที
เธอขมวดคิ้ว ขณะที่มองดูร่างที่ยืนอยู่ข้างนอกหน้าต่างนั้น ก่อนจะเอ่ยถามไปว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
เกรกอรี เกรแฮม เดินเข้ามาหาเธอ
เขามองเธอข้ามจากหน้าต่างออกมาด้วยรอยยิ้มที่อยู่ในดวงตาของเขา และตอบไปว่า “ฉันแค่ออกมาเดินเล่นน่ะ แล้วก็บังเอิญผ่านมาทางนี้พอดี”
เขาเหลือบมองไปที่กระดานปาเป้าที่แขวนอยู่บนผนัง ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า "คุณฝึกปาเป้าอยู่เหรอ? นี่มันก็ผ่านมาตั้งสองสามปีแล้วที่ผมเห็นคุณปาเป้า ดูคุณปาเก่งขึ้นแล้วหนิ"
วิกกี้ถอนหายใจแรงออกมา
เธอขี้เกียจที่จะตอบคำถาม
แต่ทว่าคราวนี้ เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เพราะว่าเขาไม่ได้เดินหนีไปตอนที่เห็นว่าเธอทำเป็นไม่สนใจเขาเหมือนที่เคยทำ
เขาจับขอบหน้าต่างเอาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง เพื่อยันตัวเองเอาไว้ ก่อนจะกระโดดข้ามมาด้วยท่าทางที่มั่นคง
รูม่านตาของวิกกี้ขยายออก
เธอหันหน้าไปมองแอนเดรีย ที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอก็ดูประหลาดใจไปไม่แพ้กัน
วิกกี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธ เธอจึงถามเขาออกไปว่า “นี่คุณกำลังทำบ้าอะไรของคุณอยู่?”
เกรกอรีเลิกคิ้วขึ้น พลางมองไปที่ใบหน้าของเธอ ซึ่งมันก็ดูค่อนข้างแดงไปด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่เห็นหรือแม้แต่ยิ้มออกมา
“ผมก็กระโดดข้ามหน้าต่างมานี่ไง คุณไม่เห็นเหรอ?”
วิกกี้ถึงกับอึ้งไปกับคำตอบของเขา
ด้วยไฟที่กำลังพัดโหมกระหน่ำอยู่ข้างในหัวใจของเธอ เธอไม่รู้ว่าควรจะระบายมันออกมาดีหรือเปล่า
ท้ายที่สุด เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าที่นี่คืออาณาเขตของเขา ดังนั้นเขาจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไร มันก็ขึ้นอยู่กับเขาทั้งหมด
วิกกี้จึงทำได้เพียงแค่หันหน้าหนีด้วยความไม่เต็มใจ และทำเป็นไม่สนใจเขา
เกรกอรีรู้สึกว่าตัวเขาเองกำลังถูกปิดกั้นอยู่
เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังโกรธเขาอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ถามอะไรเพื่อสร้างปัญหาอีก ก่อนจะพูดแค่เบา ๆ ว่า "กลุ่มคนที่ผมได้ส่งออกไปสอบสวนการพยายามลอบสังหารคุณในก่อนหน้านี้ได้กลับมาแล้ว"
วิกกี้ตกตะลึงเล็กน้อย
เธอหันไปมองหน้าเขาแล้วถามว่า “ได้ข่าวอะไรมาบ้างหรือเปล่า?”
เกรกอรีหยิบลูกดอกขึ้นมาแล้วปามันออกไป ลูกดอกพุ่งไปปักที่จุดสีแดงตรงกลางของกระดานพอดิบพอดี
แล้วเขาก็ตอบว่า "ไม่ได้อะไรมาเลย"
วิกกี้ขมวดคิ้ว
เกรกอรีพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “อีกฝ่ายปิดบังตัวตนได้ดีมาก คุณลองคิดดูดี ๆ อีกทีสิว่า ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา คุณเคยไปทำอะไรให้ใครต้องโกรธเคืองไว้หรือเปล่า? ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะเอาชีวิตคุณอย่างโจ่งแจ้ง และมันก็มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว ที่มันจะเป็นศัตรูที่คุณเคยสร้างเอาไว้ในอดีต"
เมื่อวิกกี้ได้ยินเช่นนั้น เธอก็ตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ เธอก้มศีรษะลงและครุ่นคิดด้วยความรอบคอบ
แต่ไม่ว่าเธอจะคิดไตร่ตรองมากสักแค่ไหน เธอก็นึกไม่ออกว่าจะมีใครมาเกลียดเธอได้มากถึงขนาดนี้
สี่ปีมานี้ เธอก็อยู่แต่ในคุกมาตลอดและไม่ได้ออกไปไหนเลย
แต่เมื่อสี่ปีก่อนที่เธอจะติดคุกนั้น ต้องยอมรับเลยว่าเธอได้ไปทำให้ใครหลายคนต้องรู้สึกโกรธเคืองจริง ๆ แต่ทั้งหมดนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ หรือความแค้นบางอย่างขององค์กร
ซึ่งในตอนนี้องค์กรนกหงส์หยกก็ได้ล้มสลาย ผู้คนต่างพากันแยกย้ายไปหมดแล้ว และตัวเธอเองก็ได้ถอนตัวออกจากองค์กรมาแล้ว ศัตรูทั้งหมดที่เธอมีก็ได้ตายหรือล่าถอยกันไปหมด เท่าที่เธอพอจะรู้ไม่มีใครอยากจะแก้แค้นเธอ
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เขาเห็นคิ้วของเธอที่ขมวดเข้าหากัน และสีหน้างงงวยขณะที่เธอนั่งอยู่ที่นั่น
ดวงตาของเกรกอรีหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อได้เห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ท้ายที่สุด เขาก็ไม่ปล่อยให้เธอต้องมานั้งเดาสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่อไป
“นี่คุณ ถ้าคิดอะไรไม่ออกก็ไม่ต้องคิดแล้วไหม เพราะอีกฝ่ายพยายามจะฆ่าคุณแต่ก็ทำไม่สำเร็จ พวกเขาจะกลับมาฆ่าคุณอีกครั้งแน่นอน เราเองก็ด้วยเหมือนกัน แค่รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป”
วิกกี้ตัวสั่นสะท้าน
จากนั้นเธอก็มีปฎิกริยาตอบสนองกลับ เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมันสมเหตุสมผล
เธอพยักหน้าเห็นด้วย
"โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"
เกรกอรีขดริมฝีปากและเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย
แอนเดรียที่ยืนอยู่ออกไปไม่ไกลมากนัก ก้มหน้าลงด้วยความครุ่นคิดในแววตาของเธอ
วันต่อมา
วันก่อนวิกกี้นอนในช่วงกลางวันมากเกินไป มันจึงทำให้เธอนอนไม่หลับในตอนกลางคืน เธอเลยอยู่เล่นปาเป่าจนถึงดึก
สิ่งนั้นเลยส่งผลให้เผลอเธอหลับในด้วยเช่นกัน
เมื่อเธอลืมตาขึ้นมา และเห็นแสงสว่างจากภายนอกที่สาดส่องเข้ามา เธอจึงมองดูนาฬิกาซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว
ตลอดช่วงเวลานี้ วิกกี้กำลังพักฟื้นอยู่ในห้องของเธอ ทั้งหมดที่เธอทำก็คือนอนและกินเท่านั้น เธอรู้สึกอายตัวเองนิดหน่อยที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมามาก
เธอแทบจะไม่สามารถนั่งบนเตียงได้ด้วยตัวเอง เมื่อเธอแหงนหน้าขึ้นมา เธอก็เห็นว่าแอนเดรียกำลังผลักประตูเข้ามา ในมือของแอนเดรียกำลังถืออาหารเช้าของเธออยู่
“คุณโทมัสคะ คุณตื่นหรือยังคะ”
วิกกี้พยักหน้า
"วันนี้อากาศดีนะคะ เราออกไปเดินเล่นกันหลังทานอาหารเช้าเสร็จดีไหมคะ?"
วิกกี้หันหน้ามองออกไปสู่ดวงอาทิตย์ที่สดใส เธอรู้สึกถึงแรงบันดาลใจ
จากนั้นเธอก็พยักหน้าและพูดว่า “ได้สิ”
ใบหน้าของแอนเดรียสดใสร่าเริงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินแบบนี้ เธอจึงตอบไปว่า "ฉันจะไปเตรียมของไว้รอนะคะ"
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็จัดเตรียมอาหารเช้าให้วิกกี้และออกไป
วิกกี้ยังเดินไม่ได้ ดังนั้นถ้าเธออยากจะออกไปข้างนอก เธอจะต้องนั่งรถเข็นไป
เธอหมกตัวอยู่แต่ในห้องของเธอมาหลายวัน ดังนั้นเธอจึงเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับความคิดของตัวเอง อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันที่อากาศดีมาก ๆ มันคงจะดีไม่น้อยถ้าได้ออกไปเดินเล่น เพื่อผ่อนคลายสักหน่อย
วิกกี้ทานอาหารเช้าจนหมดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถเข็น และปล่อยให้แอนเดรียเข็นเธอออกไป
วันนี้เป็นวันที่อากาศแจ่มใส และดวงอาทิตย์ก็ส่องแสงจ้า
ฤดูกาลนี้เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ แสงแดดจากดวงอาทิตย์ทำให้ร่างกายของพวกเขารู้สึกอบอุ่น แม้แต่ความมืดมัวในหัวใจของเธอก็ดูเหมือนว่าจะสว่างขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก