ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 831

รอยยิ้มประชดประชันปรากฏขึ้นบนมุมปากของวิกกี้ ถึงแม้ว่าเธอจะกำลังหัวเราะอยู่ แต่น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

“เกรกอรี นายไม่เคยจะเชื่อใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นายกล่าวหาว่าฉันเป็นฆาตกร ทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ แล้วทำไมนายถึงยังกล้าพูดถึงเรื่องความยุติธรรมได้อย่างหน้าซื่อใจคดแบบนี้?”

“ฉันรู้ว่าตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ฉันจะกลายเป็นก้างขว้างคอของนายและยูเลียนาที่จะได้อยู่ด้วยกัน ก็ได้ ฉันจะเป็นคนไปเอง แต่เกรกอรี อย่าลืมว่านายติดหนี้บุญคุณฉันไว้อยู่ และนายจะต้องติดหนี้บุญคุณฉันไปทั้งชีวิต! จากนี้ไป ต่อให้ไม่มีที่ไป ฉันก็จะไม่กลับมาหานายอีก ชาตินี้ทั้งชาติเราจะไม่มีวันได้พบกันอีก!”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เห็นแววตาของเกรกอรีสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา

“อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลยในชาตินี้ สุดยอดไปเลยวิกกี้ จำสิ่งที่เธอพูดเอาไว้ให้ดี ในเมื่อเธอต้องการจะไป ก็รีบไปให้พ้นจากสายตาของฉันซะ! และมันจะเป็นการดีที่สุดถ้าเธอจะไม่กลับมาที่นี่อีก ออกไป!”

ในขณะที่เขาพูดจบ เขายกมือขึ้นปัดขาตั้งดอกไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ กับเขาล้มลง ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามองเลยแม้แต่นิดเดียว

แม้ว่าเขาจะออกไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าความโกรธของเขายังคงอยู่ภายในห้อง

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากันสักพัก และก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป

พวกเขาเกิดความรู้สึกซับซ้อนขึ้นมา แต่ก็เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจวิกกี้

พ่อบ้านออสบอร์นรู้สึกเสียใจมาก เดิมทีเขาคิดว่าคู่รักคู่นี้จะสามารถปรับความเข้าใจกันได้เสมอ แม้ว่าจะต้องผ่านช่วงเวลาที่สุขบ้างทุกข์บ้าง

แต่ทว่าใครจะคาดคิดว่าจู่ ๆ เรื่องราวต่าง ๆ มันจะกลายมาเป็นแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ทุกอย่างก็ดูลงตัวดีแล้ว?

ในเวลานั้นเขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

เมื่อเกรกอรีได้พูดถึงเรื่องนี้ด้วยอารมณ์รุนแรงแล้ว ใครจะรู้ว่าคนอย่างเขาจะทำอะไรต่อไป ดังนั้นพ่อบ้านออสบอร์นจึงรีบตามเขาออกไปทันที เพื่อจับตาดูเขาเอาไว้

ดังนั้นเขาจึงพูดกับวิกกี้อย่างเร่งรีบว่า “คุณโทมัสครับ นายน้อยอาจจะพูดไปโดยไม่ทันได้คิดให้รอบคอบก่อน คุณอย่าคิดมากไปเลยนะครับ ผมจะออกไปคุยกับเขาเอง”

วิกกี้ขดริมฝีปากขึ้นด้วยความประชดประชัน

“คุณลุงออสบอร์นคะ ขอบคุณที่ดูแลฉันเป็นอย่างดีมาตลอด คุณเองก็เห็น ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะก้มหน้ารับกรรมต่อไปหรอกนะคะ แต่ไม่ว่าฉันจะอธิบายยังไงเขาก็ไม่เชื่อฉัน เพราะว่าในหัวใจของเขา ฉันไม่ใช่วิกกี้คนเดิมอีกต่อไปแล้ว และในหัวใจของฉันเอง เขาก็ไม่ใช่เกรกอรีคนเดิมเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันจะไปจากที่นี่ซะ และไม่ว่าอะไรที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ขอให้ลืมแล้วปล่อยมันไปเถอะ คุณลุงออสบอร์นคะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอกนะคะ เมื่อฉันจัดเตรียมของใช้ส่วนตัวของฉันเสร็จแล้ว ฉันจะไปตามทางของฉันเองค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ พ่อบ้านออสบอร์นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา

วิกกี้และเกรกอรี ไม่ใช่คนประเภทที่จะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยแรงยั่วยุได้

มันต้องมีเหตุผลบางอย่าง ที่ทำให้ปฏิกิริยาของพวกเขาในวันนี้ถึงได้ก้าวร้าวอย่างผิดปกติ

แต่ทว่าเขาไม่มีเวลามามัวคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันดำเนินมาจนถึงจุดนี้แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องมามัวกังวลในฐานะพ่อบ้านอีกต่อไป

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ก้มศีรษะลงเล็กน้อย และกล่าวด้วยความเสียใจว่า “คุณโทมัสครับ ได้โปรดดูแลตัวเองด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ก็ขอเพียงแค่บอกกับผมมา”

สิ่งที่เขากำลังพูดออกมา ถือเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาทั้งสองคน

เพราะท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนรับใช้ของเกรกอรี และเป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์แห่งนี้

ถ้าวิกกี้ออกจากคฤหาสน์ไปแล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ และหากว่าเธอขอความช่วยเหลือจากเขา มันก็จะดูเหมือนกับว่าเขาทรยศต่อเกรกอรี ถ้าเขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอ

ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างนั้น แต่พ่อบ้านออสบอร์นก็ยังคงบอกกับวิกกี้แบบนั้นอยู่ดี เพราะมันคือการแสดงความจริงใจและความห่วงใยของเขาที่มีต่อเธอ

วิกกี้ขดริมฝีปากพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ขอบคุณนะคะ คุณลุงออสบอร์น”

เธอไม่ได้ปฏิเสธความตั้งใจของเขา

พ่อบ้านออสบอร์นไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ทันทีที่เขาจากไป คนรับใช้คนอื่น ๆ ก็เดินตามหลังของเขาออกไปอย่างที่มันควรจะเป็น

ตอนนี้ภายในบ้านหลังนี้ก็เหลือแค่เพียง แอนเดรียและวิกกี้เท่านั้น

แอนเดรียตื่นตระหนกเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอยืนอยู่ข้างนอก แต่เธอก็ได้ยินเสียงบทสนทนาที่ดังมาจากข้างในได้อย่างชัดเจน

เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด เพราะตอนนี้ทุกอย่างก็ดูเรียบร้อยดี แต่แล้วทำไมพวกเขาทั้งสองคนถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้ในชั่วพริบตา?

เธอเดินเข้าไปหาวิกกี้ด้วยใบหน้าคร่ำควรญ พลางพูดว่า “คุณโทมัสคะ คุณโอเคไหมคะ?”

วิกกี้ไม่ได้ตอบ เธอยังคงนั่งอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่แสนจะเย็นชา ราวกับว่าความโกรธของเธอยังไม่ได้หายไปไหน

แอนเดรียเกือบจะร้องไห้ออกมา

เธอย่อตัวลง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองวิกกี้ ก่อนจะพูดออกมาด้วยความกังวลว่า "เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ? คุณไม่ได้แค่ต้องการที่จะพูดเรื่องนี้ให้มันถูกต้องหรอกเหรอคะ? มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยัง คุณโทมัสคะ คุณจะไม่ย้ายออกไปจริง ๆ ใช่ไหม?"

วิกกี้ก้มศีรษะลงและมองมาที่เธอ

เธอกระซิบ “ขอโทษนะ ที่ฉันทำให้เธอกลัว”

แอนเดรียส่ายหัวไปมา

“ฉันโอเคค่ะ แต่ว่าคุณ...”

วิกกี้ยิ้มออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

เธอพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ช่วยฉันจัดของทีนะ ฉันจะไปบ่ายนี้แล้ว”

ดวงตาของแอนเดรียเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่าเธอจะได้ยินจากพวกเขาว่าวิกกี้กำลังจะออกไปจากที่นี่ แต่เธอก็แค่คิดว่าพวกเขาคงแค่พูดไม่คิดเพราะความโกรธ

พวกเขาไม่ได้ขอให้เธอไป

แต่เมื่อได้ยินวิกกี้พูดแบบนี้ เธอจะจากไปทั้ง ๆ อย่างนี้เลยเหรอ?

แอนเดรียถามเธออย่างเงียบ ๆ ว่า “ให้ช่วยคุณจัดของ และคุณจะจากไปทั้ง ๆ ที่ยังโกรธเคืองแบบนี้อยู่เหรอคะ?”

เธอรีบโน้มน้าว “คุณโทมัสคะ อย่าโกรธเรื่องที่นายน้อยพูดเลยนะคะ เขาก็แค่พูดไปเพราะความโมโหเท่านั้น อีกอย่างอาการบาดเจ็บของคุณก็ยังไม่หายดีเลย คุณจะไปจากที่นี่คนเดียวได้ยังไงกันคะ?"

ระหว่างที่วิกกี้ได้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ ต้องยอมรับเลยว่าเธอได้ใจของคนส่วนมากไปเยอะเลยทีเดียว

ดังนั้นวิกกี้จึงรู้สึกผูกพันกับแอนเดรีย คนที่คอยอยู่ดูแล รับใช้ และเคียงข้างเธอมาเสมอ

เมื่อเห็นเธอกำลังร้องไห้ฟูมฟายในเวลานี้ วิกกี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย

แต่เรื่องที่เธอกำลังจะทำนั้นมันสำคัญมาก เธอจึงไม่ได้บอกกับแอนเดรีย

ไม่ใช่ว่าเธอไม่ไว้ใจในตัวของแอนเดรีย แต่มันเป็นเพราะเธอไม่ต้องการให้แอนเดรียเข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้

วิกกี้ถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“ไม่ว่าฉันจะใจร้อนเกินไปหรือไม่ ฉันก็รู้ดีอยู่แก่ใจ แอนเดรีย ขอบคุณนะที่ดูแลฉันในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถ้าหากว่ามีโอกาส เราจะมาพบกันใหม่นะ”

แอนเดรียตกใจและมองขึ้นไปที่เธอด้วยความคาดไม่ถึง

“คุณโทมัส คุณจะไปจริง ๆ เหรอคะ?”

วิกกี้พยักหน้าตอบ

แอนเดรียตื่นตระหนกในทันที “คุณเคยพูดว่าคุณจะไปงานโคมไฟกับนายน้อยคืนนี้ไม่ใช่เหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าคุณยังจะไม่ไปตอนนี้ใช่ไหมคะ?”

วิกกี้ตกตะลึงเมื่อได้ยินแอนเดรียพูดแบบนี้ออกมา

แอนเดรียเหมือนรู้ว่าตัวเธอเองกำลังเสียสติ เธอจึงรีบอธิบายออกไปว่า “ฉันคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ที่คุณสองคนอาจจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อคืนดีกัน และไม่เพียงแค่นั้น คุณยังสามารถจับคนที่ อยากทำร้ายคุณ..."

วิกกี้ยิ้ม

ดูเหมือนว่าตอนนี้น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาเช่นกัน

เธอหัวเราะและพูดว่า "เราจะไม่คืนดีกัน ส่วนเรื่องของเรื่องคืนนี้... ฉันแค่อยากจะล่อพวกมันออกไป แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะไม่มีโอกาสแล้ว ฉันไม่อยากติดหนี้บุญคุณใครอีก และฉันจะคิดหาทางตามสืบคนกลุ่มนั้นด้วยวิธีอื่นเอง โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่นัก ฉันหาที่ที่เหมาะสมกับฉันเจออย่างแน่นอน แม้ว่าคนกลุ่มนั้นต้องการจะฆ่าฉัน แต่มันก็ยังขึ้นอยู่กับว่า พวกเขามีความสามารถพอรึเปล่า"

หลังจากที่เธอพูดจบ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ ราวกับว่าเธอเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก