รอยยิ้มประชดประชันปรากฏขึ้นบนมุมปากของวิกกี้ ถึงแม้ว่าเธอจะกำลังหัวเราะอยู่ แต่น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เกรกอรี นายไม่เคยจะเชื่อใจฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นายกล่าวหาว่าฉันเป็นฆาตกร ทั้ง ๆ ที่เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ได้เป็นคนทำ แล้วทำไมนายถึงยังกล้าพูดถึงเรื่องความยุติธรรมได้อย่างหน้าซื่อใจคดแบบนี้?”
“ฉันรู้ว่าตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่นี่ ฉันจะกลายเป็นก้างขว้างคอของนายและยูเลียนาที่จะได้อยู่ด้วยกัน ก็ได้ ฉันจะเป็นคนไปเอง แต่เกรกอรี อย่าลืมว่านายติดหนี้บุญคุณฉันไว้อยู่ และนายจะต้องติดหนี้บุญคุณฉันไปทั้งชีวิต! จากนี้ไป ต่อให้ไม่มีที่ไป ฉันก็จะไม่กลับมาหานายอีก ชาตินี้ทั้งชาติเราจะไม่มีวันได้พบกันอีก!”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เห็นแววตาของเกรกอรีสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา
“อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลยในชาตินี้ สุดยอดไปเลยวิกกี้ จำสิ่งที่เธอพูดเอาไว้ให้ดี ในเมื่อเธอต้องการจะไป ก็รีบไปให้พ้นจากสายตาของฉันซะ! และมันจะเป็นการดีที่สุดถ้าเธอจะไม่กลับมาที่นี่อีก ออกไป!”
ในขณะที่เขาพูดจบ เขายกมือขึ้นปัดขาตั้งดอกไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ กับเขาล้มลง ก่อนจะเดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามองเลยแม้แต่นิดเดียว
แม้ว่าเขาจะออกไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าความโกรธของเขายังคงอยู่ภายในห้อง
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้ากันสักพัก และก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป
พวกเขาเกิดความรู้สึกซับซ้อนขึ้นมา แต่ก็เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจวิกกี้
พ่อบ้านออสบอร์นรู้สึกเสียใจมาก เดิมทีเขาคิดว่าคู่รักคู่นี้จะสามารถปรับความเข้าใจกันได้เสมอ แม้ว่าจะต้องผ่านช่วงเวลาที่สุขบ้างทุกข์บ้าง
แต่ทว่าใครจะคาดคิดว่าจู่ ๆ เรื่องราวต่าง ๆ มันจะกลายมาเป็นแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ทุกอย่างก็ดูลงตัวดีแล้ว?
ในเวลานั้นเขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อเกรกอรีได้พูดถึงเรื่องนี้ด้วยอารมณ์รุนแรงแล้ว ใครจะรู้ว่าคนอย่างเขาจะทำอะไรต่อไป ดังนั้นพ่อบ้านออสบอร์นจึงรีบตามเขาออกไปทันที เพื่อจับตาดูเขาเอาไว้
ดังนั้นเขาจึงพูดกับวิกกี้อย่างเร่งรีบว่า “คุณโทมัสครับ นายน้อยอาจจะพูดไปโดยไม่ทันได้คิดให้รอบคอบก่อน คุณอย่าคิดมากไปเลยนะครับ ผมจะออกไปคุยกับเขาเอง”
วิกกี้ขดริมฝีปากขึ้นด้วยความประชดประชัน
“คุณลุงออสบอร์นคะ ขอบคุณที่ดูแลฉันเป็นอย่างดีมาตลอด คุณเองก็เห็น ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะก้มหน้ารับกรรมต่อไปหรอกนะคะ แต่ไม่ว่าฉันจะอธิบายยังไงเขาก็ไม่เชื่อฉัน เพราะว่าในหัวใจของเขา ฉันไม่ใช่วิกกี้คนเดิมอีกต่อไปแล้ว และในหัวใจของฉันเอง เขาก็ไม่ใช่เกรกอรีคนเดิมเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ฉันจะไปจากที่นี่ซะ และไม่ว่าอะไรที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ขอให้ลืมแล้วปล่อยมันไปเถอะ คุณลุงออสบอร์นคะ ไม่ต้องห่วงฉันหรอกนะคะ เมื่อฉันจัดเตรียมของใช้ส่วนตัวของฉันเสร็จแล้ว ฉันจะไปตามทางของฉันเองค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พ่อบ้านออสบอร์นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
วิกกี้และเกรกอรี ไม่ใช่คนประเภทที่จะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยแรงยั่วยุได้
มันต้องมีเหตุผลบางอย่าง ที่ทำให้ปฏิกิริยาของพวกเขาในวันนี้ถึงได้ก้าวร้าวอย่างผิดปกติ
แต่ทว่าเขาไม่มีเวลามามัวคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันดำเนินมาจนถึงจุดนี้แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องมามัวกังวลในฐานะพ่อบ้านอีกต่อไป
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่ก้มศีรษะลงเล็กน้อย และกล่าวด้วยความเสียใจว่า “คุณโทมัสครับ ได้โปรดดูแลตัวเองด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ก็ขอเพียงแค่บอกกับผมมา”
สิ่งที่เขากำลังพูดออกมา ถือเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาทั้งสองคน
เพราะท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนรับใช้ของเกรกอรี และเป็นพ่อบ้านของคฤหาสน์แห่งนี้
ถ้าวิกกี้ออกจากคฤหาสน์ไปแล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ และหากว่าเธอขอความช่วยเหลือจากเขา มันก็จะดูเหมือนกับว่าเขาทรยศต่อเกรกอรี ถ้าเขายื่นมือเข้าไปช่วยเธอ
ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างนั้น แต่พ่อบ้านออสบอร์นก็ยังคงบอกกับวิกกี้แบบนั้นอยู่ดี เพราะมันคือการแสดงความจริงใจและความห่วงใยของเขาที่มีต่อเธอ
วิกกี้ขดริมฝีปากพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ขอบคุณนะคะ คุณลุงออสบอร์น”
เธอไม่ได้ปฏิเสธความตั้งใจของเขา
พ่อบ้านออสบอร์นไม่ได้พูดอะไรอีก ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ทันทีที่เขาจากไป คนรับใช้คนอื่น ๆ ก็เดินตามหลังของเขาออกไปอย่างที่มันควรจะเป็น
ตอนนี้ภายในบ้านหลังนี้ก็เหลือแค่เพียง แอนเดรียและวิกกี้เท่านั้น
แอนเดรียตื่นตระหนกเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอยืนอยู่ข้างนอก แต่เธอก็ได้ยินเสียงบทสนทนาที่ดังมาจากข้างในได้อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก