วิกกี้กล่าวขอบคุณด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนรถเข็น
เจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะสังเกตเห็นขาทั้งสองข้างของเธอ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เธอก็รับรู้ได้ว่ามีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผ่านออกมาจากแววตาของเขา
เขาคงจินตนาการถึงเรื่องราวที่น่าสลดใจมากมายที่เกิดขึ้นกับเธอ แต่เธอไม่รู้
วิกกี้ไม่ได้รบกวนเขาต่อ หลังจากบอกลาเขาแล้ว เธอก็ลากข้าวของสัมภาระที่วางอยู่ที่มุมประตูเข้าไปในบ้าน
ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่านี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว
สนามหญ้าเต็มไปด้วยวัชพืช และใยแมงมุมที่บางตัวก็ห้อยอยู่ตรงมุมกำแพง ต้นไม้สูงใหญ่แต่กลับไร้ใบเพราะขาดคนดูแล จะมีใครรู้ว่าใครเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้
วิกกี้บังคับวีลแชร์ให้เลื่อนไปข้างหน้า
โชคดีที่หน้าบ้านไม่มีบันได เธอจึงไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก เธอตรงเข้าไปที่ประตู และหยิบกุญแจออกมาเปิดประตู ก่อนจะเข็นรถตรงเข้าไปข้างในบ้าน
ภายในบ้านมีแต่ความมืดมิด
มันถูกทิ้งร้างเป็นเวลานาน จึงมีกลิ่นของฝุ่นและความชื้นกระจายไปทั่วบ้าน
วิกกี้ควานหาสวิตช์ตามทิศทางในความทรงจำของเธอเพื่อเปิดไฟ และบ้านก็สว่างขึ้นมาในทันที
วิกกี้ยกมือขึ้นบังตาของเธอเอาไว้
สักพักเธอก็เอามือลงอย่างช้า ๆ
เธอมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าตัวบ้านยังดูเหมือนในความทรงจำของเธอไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง หรือสไตล์ก็ยังเหมือนเดิม
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ มีฝุ่นหนาแน่นอยู่ทุกหนทุกแห่ง โซฟาขนาดใหญ่ตรงกลางห้องนั่งเล่นถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาว วิกกี้เดินไปดึงผ้าสีขาวออก จนทำให้ฝุ่นที่เกาะกับผ้าลอยฟุ้งขึ้นมาในทันใด
เธอปัดฝุ่นที่กำลังฟุ้งกระจายไปทั่วจนไอออกมา จากนั้นเธอก็ทำความสะอาดบ้านด้วยความเร่งรีบ
บ้านหลังนี้ใหญ่มาก เด็ก ๆ หลายคนที่ไม่ได้อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในตอนนั้น พวกเขาได้อาศัยอยู่กับผู้อำนวยการเกลนที่นี่
บ้านหลังนี้บรรพบุรุษของผู้อำนวยการเกลนได้ทิ้งเอาไว้ให้ ดังนั้นเขาจึงได้เป็นผู้ครอบครองพื้นที่ขนาดใหญ่แห่งนี้ ในเวลานั้น ผู้อำนวยการเกลนได้เรียกเธอให้เข้าไปหาที่เตียงก่อนที่เขาจะเสียชีวิต และมอบบ้านหลังนี้ให้กับเธอ โดยเขาให้เหตุผลว่า เขาคงไม่สามารถอยู่จนถึงวันที่เธอแต่งงานได้ เขาจึงยกบ้านหลังนี้ให้เป็นสินสอดทองหมั้นล่วงหน้า และบอกให้เธอจงมีชีวิตที่ดีในอนาคต
เขาไม่ใช่บิดาผู้ให้กำเนิด หรือคุณปู่ของเธอ แต่เขาสนิทสนมกับเธอมากกว่าบิดาผู้ให้กำเนิดเธอเสียอีก
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ วิกกี้ก็อดไม่ได้ที่จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกในครั้งนั้น
หลังจากที่เธอทำความสะอาดเสร็จแล้ว เธอก็ไม่ได้ไปยังห้องอื่นต่อ เธอแค่ไปยังห้องที่เธอเคยพักอยู่
ห้องนั้นอยู่ที่ชั้นหนึ่ง มันจึงเป็นเรื่องดีที่เธอไม่ต้องพยายามปีนบันไดขึ้นไป หลังจากที่เก็บกวาดห้องเรียบร้อยแล้ว เธอก็เปิดกระเป๋าเดินทาง และหยิบชุดนอนออกมาใส่แล้วเข้านอน
วันนี้วิกกี้รู้สึกเหนื่อยมาก เธอผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ มามากมายหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้นเธอจึงรู้สึกเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ
เดิมทีเธอคิดที่จะงีบนอนแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อที่เธอจะได้รู้สึกตื่นตัว และระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลาหากว่ามีอะไรเกิดขึ้น แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดคิดเอาไว้ เธอเหนื่อยเกินไปจนผล็อยหลับไปในทันทีที่เธอล้มตัวลงนอน
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเธอตื่นขึ้น
เธอลืมตาขึ้นมาเห็นแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทางรอยแตกที่ขอบหน้าต่าง ขณะนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว
วิกกี้พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง
เธอมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เธอรู้ดีว่ามันเป็นเพราะเธอไม่ได้นอนบนเตียงไม้ที่บ้านหลังนี้มาเป็นเวลานานมากแล้ว อาการปวดจึงเกิดจากแผ่นรองเตียงที่แข็งเกินไป
เมื่อคืนวิกกี้รีบเร่งทำความสะอาดบ้าน เธอจึงขี้เกียจหาที่นอนสะอาด ๆ มานอน เธอจึงตัดสินใจนอนตรงนั้นไปเลย
ตามแผนการของเธอและเกรกอรี กลุ่มคนพวกนั้นไม่สามารถจัดการเธอได้ในครั้งแรก ดังนั้นพวกเขาคงจะเริ่มลงมือครั้งที่สองในไม่ช้า
เพราะฉะนั้น เมื่อคืนเธอจึงรอให้พวกเขาเข้ามาหาเธอ
แต่หลังจากที่นอนหลับสนิทมาตลอดทั้งคืนก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น?
พวกเขามีความอดทนมาก จนไม่ลงมือทำอะไรได้เลยเหรอ?
วิกกี้อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา
แต่ทว่าการแสดงได้เริ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถล้มเลิกกลางคันได้
วิกกี้ดึงผ้าห่มออก พลางลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะลูบไปตรงไหล่ที่เจ็บ แล้วเข็นรถเข็นไปล้างหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก