สำหรับพวกเขา เธอเป็นแค่เพียงเบี้ยเดินเกมมาตั้งแต่แรก
เป็นแค่เบี้ยที่เอาไว้ใช้ต่อรองกับเกรกอรี เกรแฮม องค์กรนกหงส์หยก และอาจจะทั้งหมดของเครือข่ายใต้ดิน
แววตาของเธอเริ่มเย็นชาเมื่อนึกถึงมัน
แดนดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็นความปั่นป่วนข้างในของเธอ เขาจึงยิ้มออกมาอย่างร่าเริง “ดูเหมือนว่าน้องเล็กของฉันจะดูไม่ค่อยมีความสุขที่ได้เจอกับฉันสักเท่าไร เรามีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันรึเปล่า?”
วิกกี้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“พี่ใหญ่ก็น่าจะรู้ดี ว่านี่มันเป็นความเข้าใจผิดหรือเปล่า!”
แดนเลิกคิ้วขึ้น
หากว่าใครไม่สนใจบรรยากาศอันชั่วร้ายที่อยู่รอบ ๆ ตัวของผู้ชายคนนี้ ใบหน้าที่แสนจะอ่อนโยนและอบอุ่นของเขา คงจะทำให้ผู้หญิงหลาย ๆ คนหลงเสน่ห์
แต่ว่าวิกกี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มผู้หญิงเหล่านั้น
แดนหัวเราะออกมา และพูดว่า “เด็กน้อย ฟังจากน้ำเสียงของเธอ ดูเหมือนว่าเธอกำลังโทษฉันกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเมื่อครั้งก่อนสินะ เธอกล่าวหาคนอื่นแบบนี้ มันดูไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเธอได้รับการปล่อยตัวจากคุก ฉันก็เลยมาที่นี่เพื่อเจอเธอ! แต่ต้องมาเจอกับคำส่อเสียดแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกเศร้าใจจริง ๆ"
วิกกี้รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวของเขา
เธอจ้องมองเขาจากหางตาที่หรี่ลง “รีบพูดออกมาสักทีเถอะ พี่ต้องการอะไรจากฉันกันแน่?”
แดนยิ้ม “ถ้าฉันบอกว่าฉันมาพบเธอ เพื่อเห็นแก่ความหลังล่ะ?”
วิกกี้พูดอย่างไม่ใสใจ “เราไม่มีอะไรที่ต้องมารำลึกถึงความหลังกันค่ะ”
แดนอ้าปากค้าง
จากนั้นเขาก็หยุดไปชั่วครู่ ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมา “ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ วิกกี้ตัวน้อยที่น่าสงสารกำลังเชื่อว่าพวกเราโกหกและทรยศเธอ แต่ถ้าเธอลองคิดดูดี ๆ นะเด็กน้อย นอกจากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอแล้ว เราได้ไปทำร้ายเธอด้วยวิธีอื่นอยู่อีกหรือเปล่า?”
เขาหยุดพูด ขณะที่แววตาของเขาเริ่มหม่นหมองลง “เราอาจจะใช้เธอในการประชันหน้ากับฝ่ายตรงข้ามในครั้งสุดท้าย แต่เราก็ไม่ได้หวังประโยชน์อันใดจากชีวิตของเธออีก เบี้ยตัวน้อยที่ดีจะรู้ว่าพวกมันจะไม่จำเป็นอีกต่อไปบนโลกใบนี้ หลังจากที่พวกมันได้ทำหน้าที่ของตัวเองจบลงแล้ว”
เสียงของแดนฟังดูคงที่และสม่ำเสมอ แต่วิกกี้กลับได้ยินถึงความหนาวเย็นในทุกคำพูดของเขาทุกคำ
เธอถามเขาด้วยสายตาที่เย็นชาว่า “พี่ต้องการอะไรจากฉัน?”
เขายิ้มให้เธอด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
"มากับฉันเถอะ"
ยังไม่ทันได้คำตอบ เขาก็พูดต่อทันที “ฉันรู้ว่าเกรกอรี เกรแฮม ส่งคนมาเฝ้าดูเธอเอาไว้ บางทีในขณะที่ฉันกำลังก้าวขาออกไปข้างหน้า คงจะมีคนหลายคนกระโดดออกมาจัดการฉัน! แต่เจ้าหนูน้อย ฉันแน่ใจว่าเธอรู้ว่าฉันมีแผนการลับอยู่ เหมือนฉันที่รู้ว่าการมาที่นี่มันอันตรายแต่ฉันก็ยังมา ตามฉันมาเงียบ ๆ เถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายเธอ ว่ายังไงล่ะ?”
วิกกี้จ้องมองเขา สีหน้าของเธอยังคงเหมือนเดิม แต่ทว่าในความคิดของเธอมันหมุนราวกับพายุ
เธอรู้จัก แดน ทินน์เพิลเป็นอย่างดี ย้อนกลับไปในสมัยองค์กรนกหงส์หยก เขาเป็นดั่งมันสมองและแขนขาของทั้งองค์กร
เขาทั้งว่องไวและมีฝีมือในการต่อสู้ เก่งกาจในด้านการวางแผน และเหนือสิ่งอื่นใดก็คือ เขาเป็นคนเจ้าเล่ห์
เธอรู้ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้กับเขา ทั้งด้านมันสมองและพละกำลัง
และยังมีประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง
กลุ่มคนที่เกรกอรีส่งมาให้ดูแลเธอนั้น พวกเขาอยู่ใกล้กับเธอตลอดเวลา และเฝ้าดูเธออย่างรอบคอบทุกฝีก้าว เธอรับรู้ได้เมื่อตอนที่เธอกำลังจะเข้านอนเมื่อคืนนี้
ตอนนี้พวกเขาได้หายไปแล้ว เพราะเธอรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
มันเหมือนกับว่าพวกเขาได้หายตัวไปในอากาศ
ท้องไส้ของเธอเริ่มปั่นป่วน วิกกี้ไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกนั่น ทั้งหมดที่เธอพอจะทำได้ในตอนนี้ก็คือ พยายามถ่วงเวลาเอาไว้
“แล้วศพที่พบในแม่น้ำเมื่อวานนั่นล่ะ พี่ก็เป็นคนทำด้วยรึเปล่า?”
ไม่แน่ใจว่าเขาได้สังเกตเห็นสิ่งที่เธอกำลังพยายามจะทำหรือไม่ แต่แดนก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ก่อนจะตอบเธออย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ใช่ฉัน”
วิกกี้ขมวดคิ้ว
แดนยิ้มออกมา
“ใช่แล้วล่ะ หล่อนควรจะต้องตายอยู่แล้ว แต่ก่อนที่ฉันจะเข้าไปถึงตัวของหล่อนได้ ก็มีคนอื่นชิงตัดหน้าฉันไปเสียก่อน ก็ดีเหมือนกัน ช่วยลดความยุ่งยากและจัดการกับปัญหาให้กับฉัน”
วิกกี้ถามด้วยความเย็นชาว่า “หล่อนไม่ใช่คนของพวกพี่หรอกเหรอ?”
แดนยิ้ม
“อืม ฉันก็คิดว่าอย่างนั้น เด็กสาวที่มาจากครอบครัวยากจน สามารถโน้มน้าวใจได้ง่าย พูดจาหว่านล้อมหล่อนนิด ๆ หน่อย ๆ หล่อนก็ยอมสละชีวิตเพื่อฉันแล้ว น่าเศร้าที่หล่อนถูกไล่ออกจากคฤหาสน์ก่อนที่หล่อนจะทำอะไรสำเร็จ ฉันไม่ควรเก็บขยะแบบหล่อนมาเลย”
เขาพูดโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาในน้ำเสียงของเขาเลย วิกกี้จึงรู้สึกเดือดดาล
เธอกัดฟันกรอด “หล่อนตายเพื่อพี่นะ! พี่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นบ้างเลยเหรอ?!”
"ต้องให้ฉันไปเห็นอกเห็นใจอะไรเหรอ?"
แดนอ้าปากค้าง ราวกับว่าเขาเพิ่งจะได้ยินข่าวที่น่าตกใจที่สุดในโลก ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะเล็ดลอดออกมาบนใบหน้าของเขา
“โอ้ เด็กน้อย สี่ปีที่ผ่านมาเธอดูเปลี่ยนไปมากนะ วิกกี้ที่ครั้งหนึ่งเคยกล้าหาญ ไม่หวาดหวั่น และไร้ความปรานี ตอนนี้กำลังรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น?”
เขาหยุดพูดพลางเม้มปากเอาไว้แน่น แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างขึ้นมาทันที
“ทำไมเธอถึงยังได้ไร้เดียงสาขนาดนี้? คนในองค์กรของเราไม่มีใครมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นหรอก!”
วิกกี้ตกตะลึง
เมื่อเธอได้พบกับสายตาที่เยือกเย็นของแดน เธอจึงรู้ว่า ฃผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับที่เธอรู้จักในตอนนั้น
เธอขยับรถเข็นออกมาเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวและประกาศว่า “ฉันจะไม่ไปที่ไหนกับพี่ทั้งนั้น! อย่าพยายามเลย มันก็เหมือนกับที่พี่พูด ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียว ถ้าพี่อยากจะพูด พี่ก็พูดออกมาตอนนี้เลย ถ้าไม่ก็อย่าโทษฉันที่ต้องล่วงเกิน”
แดนยังคงนิ่งเฉย ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการตื่นตระหนกอะไรทั้งนั้น
เขายืนอยู่ที่นั่นและมองดูเธอด้วยความขบขัน
หัวใจของเธอเต้นแรง
วิกกี้กดปุ่มบนที่วางแขนของเก้าอี้รถเข็น แต่ข้างนอกนั้นกลับมีแต่ความเงียบงัน
บ้าเอ้ย!
ปุ่มนี้คือปุ่มที่เกรกอรีให้เธอไว้ใช้ติดต่อในยามฉุกเฉิน ก่อนที่เธอจะออกมา
มันจะสะดวกสำหรับเธอที่จะส่งสัญญาณไปหาเขา ถ้าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย และเขาก็จะสามารถมาช่วยเธอได้ทันเวลา
เธอกดปุ่มนั้นอยู่หลายครั้ง
แต่ก็ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากเสียงคลื่นความถี่ของวิทยุ
มันเกิดอะไรขึ้น?
แดนหัวเราะออกมา เมื่อเห็นใบหน้าของเธอซีดเผือด
“โอ้ วิกกี้ที่รัก วิกกี้น้องรักของพี่ ไม่คิดเลยมาว่าสี่ปีต่อมาเธอก็ยังคงไร้เดียงสาเหมือนเดิม เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าผู้ชายคนนั้นจะยอมสละทุกอย่างในชีวิตเพื่อเธอ? แม้ว่าวันนี้กองทัพมังกรจะพังทลายลงไปแล้ว แต่เขาก็ยังจะมาหาเธองั้นเหรอ?”
วิกกี้รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมีกระสุนพุ่งเข้าใส่ตัวของเธอ
เขาจ้องมองแดนอย่างไม่เชื่อ
"พี่ทำอะไรลงไป?"
แดนส่ายหัวอย่างไม่ใส่ใจ
"ไม่มีอะไรหรอกน่า เว้นแต่ว่าฉันอาจจะสั่งให้ใครบางคนสร้างปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ บนสนามหญ้าหน้าบ้านของเธอ เชื่อฉันเถอะ ฉันบอกว่ามันเป็นแค่เพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับเขามันอาจจะเป็นเพียงแค่การสูญเสียสนามหญ้าบางส่วน และผู้ชายสองสามคน และแน่นอนว่ามันคงไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาพิการได้หรอก”
“แต่ตอนนี้ลืมตาดูซะ ถ้าจะพูดถึงเรื่องนี้ล่ะก็ เขาเลือกที่จะทิ้งเธอเพื่อช่วยเบี้ยเหล่านั้น วิกกี้คิดดูสิ เธอยังไม่เห็นอีกเหรอ ว่าผู้ชายคนนี้ไม่คู่ควรได้รับความห่วงใยจากเธอ?”
ขณะที่เขากำลังพูดแบบนี้ เขาก็ลุกขึ้น และเดินเข้าไปหาเธอทีละก้าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก