ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 862

ควีนซี่ดึงแขนมัสซิโมเบา ๆ แล้วพูดว่า "ฉันรู้สึกปวดท้องนิดหน่อย พาฉันไปเข้าห้องน้ำหน่อยสิ"

มัสซิโมจึงหันหลังกลับมา พลางพยักหน้าให้กับเธอ แต่เขาก็ยังไม่วายหันกลับไปมองที่คุณคลินตันอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ

ต่อจากนั้น มัสซิโมก็บอกให้วิกกี้และเกรกอรีรอเขาอยู่ตรงนี้ ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับไป และพาควีนซี่ไปที่ห้องน้ำ

หลังจากที่เขาเดินออกไป คุณคลินตันก็จากไปด้วยความพ่ายแพ้

คราวนี้เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เนื่องจากว่าเขายังไม่ได้ทักทายกับเกรกอรี

แต่เกรกอรีก็ไม่ใช่คนใจแคบ

และไม่เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เป็นคนใจแคบเท่านั้น แต่เขายังทักทายคุณคลินตันด้วยความยินดีอีกด้วย

“ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ คุณคลินตัน”

ได้ยินแบบนี้คุณคลินตันถึงกับลนลาน จนเกือบจะสะดุดล้มเลยทีเดียว

วิกกี้รู้สึกอดไม่ได้ เธอจึงหันไปจ้องเกรกอรีด้วยความโมโห “นี่นายขู่เขาอยู่เหรอ?”

เกรกอรีเลิกคิ้วขึ้นและพูดว่า "เปล่านะ ฉันพูดจริง ๆ วัยขนาดเขาไม่ควรต้องมานั่งแข่งขันการประมูลแบบนี้หรอก"

วิกกี้ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

“นายกล้าดียังไงที่บอกว่าเขาไม่ควรเข้าร่วมแข่งขันการประมูลนี้ หลังจากที่เขากล้าเสี่ยงในวันนี้ ฉันเกรงว่าทุกคนจะรู้ว่านายมีความสามารถในการแข่งขันการประมูลแค่นี้”

เกรกอรีหัวเราะกับคำพูดของเธอ

อยู่ดี ๆ เขาก็หันกลับมามองหน้าเธอ พลางก้มหน้าลงแล้วพูดว่า "ฉันจะสามารถแข่งขันการประมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ก็ต่อเมื่อฉันมีเธอ ต่อให้โลกจะต้องแตกสลาย ฉันก็จะไม่มีวันยอมแพ้เรื่องของเธอไปจนวันตาย"

วิกกี้ตกใจ

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นแดงก่ำขึ้นมาทันที

ขณะที่ผู้ชายคนนั้นกำลังก้มศีรษะลง ร่างสูงของเขาโอบรอบเธอไปทั่วทั้งตัว ก่อนที่เธอจะถูกกลิ่นหอมของเขาเข้าปกคลุม

วิกกี้ตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบเขาไปอย่างไร

เธอดูเหมือนจะเข่าอ่อนเล็กน้อย ในขณะที่เธอกำลังจะก้าวถอยหลัง แต่ผู้ชายคนนั้นก็จับมือของเธอเอาไว้แล้วดึงตัวเธอไปข้างหน้า ทันใดนั้น ร่างกายของเธอก็ถูกโอบเอาไว้อย่างมั่นคงในอ้อมแขนของเขา

เกรกอรีสวมกอดเธอ พลางลูบศีรษะของเธอและพูดว่า "วิก เธอเป็นของฉัน ของฉันคนเดียวเท่านั้น"

หัวใจของวิกกี้ปั่นป่วนไปหมด เมื่อเธอได้ยินเสียงพึมพำเบา ๆ ของเขา

ความรู้สึกที่เกรกอรีมีต่อเธอในช่วงเวลานี้มันดูชัดเจนมากเลยทีเดียว

ผู้ชายคนนี้ไม่ได้รู้สึกอายที่จะแสดงความเป็นเจ้าข้าวของเจ้าของออกมา และนั้นมันทำให้เธอรู้สึกคลั่งไคล้แทบบ้า

วิกกี้รู้ดีว่าการหลีกเลี่ยงเขาต่อไปไม่ใช่ทางออกที่ดี

แต่นอกจากการหลีกเลี่ยงต่อไปแบบนี้แล้ว เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ในขณะนั้น

ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยกันซักพัก

ทันใดนั้นเอง พวกเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของใครบางคนดังขึ้นมา

“ว้าว นี่เพิ่งจะผ่านไปแค่หนึ่งนาทีเองที่ฉันไม่ได้เห็นพวกเธอ ถึงกับกอดกันแล้วเหรอ?”

วิกกี้ตกใจมากเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา และเห็นว่ามัสซิโมกับควีนซี่ กำลังเดินมุ่งหน้ามาทางพวกเขาจากทางห้องน้ำ

ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ขณะที่เธอผลักเกรกอรีออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความละอายใจ

ในขณะเดียวกัน เกรกอรีดูสงบมาก เขามองมัสซิโมด้วยความสงสัยและถามว่า "นายอยากได้สนับมือคู่ไหม?"

มัสซิโมยิ้มออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันมามองทางวิกกี้สลับกับเกรกอรี และเขาก็เริ่มเข้าใจถึงสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน

เขาเดินไปวางฝ่ามือบนไหล่ของเกรกอรี พลางหัวเราะออกมา

“ก็ได้ ฉันก็แค่แซวเล่นเอง ถ้านายไม่ชอบฉันก็จะไม่พูดอีก”

แม้ว่าเขาจะไม่อ้าปาก แต่การขยิบตาของเขาก็ได้แสดงความหมายออกมาอย่างสมบูรณ์แล้ว

เกรกอรีเลิกสนใจที่จะต่อปากต่อคำกับเขาต่อ และไม่นานหลังจากนั้น ก็มีพนักงานเข้ามาขอลายเซ็นของเกรกอรี

หลังจากได้ลงนามในใบเรียกเก็บเงินเรียบร้อยแล้ว พนักงานก็เก็บชิ้นส่วนของหยกอาถรรพ์ที่ถูกประมูลส่งมอบให้กับเขา

ก่อนที่พวกเขาจะนำกลับไป พนักงานก็ได้เตือนพวกเขาว่า “ของสิ่งนี้มีค่ามาก นายน้อยเกรแฮม โปรดใส่ใจกับความปลอดภัยของตัวคุณเองด้วย”

เกรกอรีพยักหน้า

จากนั้นพวกเขาก็จากไป

มัสซิโมและควีนซี่มีสิ่งที่ต้องไปทำในตอนบ่าย ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้กลับไปกับเกรอกอรีและวิกกี้

ด้วยเหตุนี้เกรกอรีและวิกกี้จึงได้นั้งรถกลับไปที่คฤหาสน์กันสองคน

ขณะนี้เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว ไม่แปลกที่พวกเขาทั้งคู่จะรู้สึกหิว ในทันทีที่พวกเขากลับมาถึง พ่อบ้านออสบอร์นก็ได้จัดเตรียมอาหารกลางวันเลิศรสไว้บนโต๊ะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อพิจารณาว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องรีบตรวจดูสมบัตินั้นในขณะนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งลงและทานอาหารกันก่อน

ทั้งสองคนทานอาหารกันอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว พวกเขาก็ออกจากห้องอาหารแล้วพากันขึ้นไปที่ชั้นบน ปล่อยให้พวกสาวใช้ได้ทำความสะอาด

พ่อบ้านออสบอร์นไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงได้พากันขึ้นไปที่ชั้นบน แต่เขารู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน

ดังนั้นหลังจากที่ทำความสะอาดข้าวของเหล่านั้นเสร็จแล้ว เขาก็หั่นผลไม้และมุ่งหน้าไปที่ชั้นบนด้วยเช่นกัน

ณ เวลานี้ในห้องอ่านหนังสือชั้นบน

เกรกอรีกับวิกกี้กำลังนั่งอยู่บนโซฟา และเมื่อวิกกี้เห็นพ่อบ้านออสบอร์นเดินเข้ามา เธอก็ลุกขึ้นไปหยิบถาดผลไม้

พ่อบ้านออสบอร์นยิ้มพร้อมกับพูดว่า "ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ผมจะได้ไม่รบกวนพวกคุณระหว่างที่คุยกัน"

วิกกี้พยักหน้า และเมื่อพ่อบ้านออสบอร์นได้ปิดประตูออกไปแล้ว เธอก็ถือถาดผลไม้เข้ามา

เธอจิ้มผลไม้ด้วยส้อมหนึ่งชิ้นก่อนจะกินมันเข้าไป พลางพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“อืม มันหวานมากเลย! เอาไหม?”

เกรกอรีมองมาที่เธอด้วยสายตาอันเร่าร้อน

ไม่นานริมฝีปากอันบอบบางของเขาก็พูดว่า “เอาสิ”

วิกกี้ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอจึงใช้ส้อมจิ้มผลไม้ขึ้นมาหนึ่งชิ้น ก่อนจะยื่นมันให้กับเขา

เกรกอรีกินผลไม้จากมือของเธอทันที

เธอไม่รู้ว่าเขาจงใจหรือเปล่า แต่ว่าคางของเขาโดนนิ้วของเธอเข้าโดยบังเอิญ

ในวัยของผู้ชายที่มีอายุสามสิบปี แม้ว่าเขาจะเพิ่งโกนหนวดในตอนเช้า แต่ก็ยังคงมีตอเหลืออยู่บ้าง

เมื่อตอหนวดของเขาได้ไปโดนกับนิ้วของเธอ มันก็เลยทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมา

หัวใจของวิกกี้สั่นไหวในทันใด

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นสะท้านไปด้วยเช่นกัน

ข้าง ๆ ของเธอ ผู้ชายคนนั้นยังคงทำเหมือนกับว่าเขาไม่ได้เห็นอะไร หลังจากที่กินผลไม้ชิ้นนั้นเข้าไป สีหน้าของเขาจริงจังขึ้น เมื่อหยิบกล่องนั้นออกมาวางลงบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็ถามว่า "เธออยากจะเปิดมันรึเปล่า หรือจะให้ฉันเป็นคนเปิด?"

วิกกี้ดึงมือของตัวเองเข้ามา และพยายามยับยั้งความคิดของเธอเอง ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น “นายเปิดมันเถอะ”

เกรกอรีพยักหน้าแล้วเปิดกล่องนั้นออก

หยกสีขาวประกายแวววาวนั่งนิ่งเงียบอยู่ภายในกล่อง

แม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสองคนได้เห็นมัน แต่พวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทึ่ง เมื่อได้เห็นมันอีกครั้งหลังจากสี่ปีที่แล้ว

วิกกี้รู้สึกอดไม่ได้ที่จะเดินไปข้างหน้า และหยิบหยกชิ้นนั้นขึ้นมา

เธอถือหยกชิ้นนั้นเอาไว้ในมือ ความเย็นเยียบเข้าแผ่ซ่านราวกับว่ามันกำลังกัดกินกระดูกของเธออยู่ ในแสงที่ เธอเห็นเหมือนจะมีรอยสลักจาง ๆ อยู่บนนั้น มันดูไม่เหมือนตัวหนังสือ แต่ดูเหมือนกับสัญลักษณ์พิเศษอะไรบางอย่างมากกว่า

ขอบทั้งสี่ของหยกนั้นถูกขัดเกลาให้โค้งมนเข้ารูปเป็นอย่างดี หยกชิ้นนี้มีขนาดกว้างแค่เพียงสามนิ้วเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเธอถือมันเอาไว้ในมือ มันจึงให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังถือน้ำแข็งอยู่

แต่ว่ามันก็สบายกว่าการถือน้ำแข็ง เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่า ความเย็นของชิ้นส่วนของหยก ได้ซึมเข้าไปในชั้นผิวหนัง

วิกกี้อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอ

เธอต้องยอมรับว่า แม้ว่าจะมีคนที่ไม่สนใจข่าวลือแปลกประหลาดของหยกชิ้นนี้อยู่ แต่ว่าหยกอาถรรพ์ชิ้นนี้แค่ผิวของมันก็ยังคงเป็นสมบัติที่ล้ำค่า

เกรกอรีเพียงแค่นั่งอยู่ตรงนั่น และมองดูเธอชั่งน้ำหนักของหยกในมืออย่างเงียบ ๆ

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถามว่า “เธอเห็นเงื่อนงำอะไรบ้างไหม?”

วิกกี้คิดพิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ

เกรกอรียื่นมือออกไปแล้วพูดว่า "ขอฉันดูหน่อย"

แล้วเธอก็ยื่นหยกชิ้นนั้นให้กับเขา

หยกที่ส่องแสงประกายแวววาวนั้น ดูเล็กและโปร่งใสกว่า เมื่ออยู่ในฝ่ามือของชายคนนั้น ภายใต้แสงไฟ ทำให้ลวดลายแกะสลักจาง ๆ ของหยกดูสว่างไสวยิ่งขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก