ในความคิดของเนลล์ก็คือ คุณปู่และคุณย่าทั้งสองคนนั้นแก่มากแล้ว พวกเขาคงไม่อาจจะทนเหนื่อยหรือทนฟังเสียงดังได้
ลิซซี่อายุเก้าขวบแล้ว เธอเริ่มรู้เรื่องแล้ว ถ้าคุณปู่และคุณย่าดูแลเธอ พวกเขาจะไม่ได้รู้สึกเหนื่อยมากจนเกินไป พวกเขาแค่ต้องสอนการบ้านของเธอ และอยู่เป็นเพื่อนเธอในทุก ๆ วันเท่านั้น
นอกจากนี้ ลิซซี่ยังเป็นคนน่ารักอีกด้วย คุณปู่และคุณย่าเริ่มแก่ตัวลง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะชอบความสงบและเงียบ แต่บางครั้งพวกเขาก็คิดถึงการอยู่ร่วมกับลูก ๆ หลาน ๆ ของพวกเขาอยู่ มันจึงไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ที่ลิซซี่จะอยู่กับสองสามีภรรยาในวัยชราสักสองสามเดือน
แต่กับวีมอนด์น้อยมันแตกต่างออกไป
เด็กวัยหัดเดินที่อายุได้เพียงแค่สามถึงสี่ขวบ กำลังอยู่ในวัยกำลังซนที่สุด เขามักจะส่งเสียงดังเจี๊ยวจ้าวภายในบ้านอยู่เสมอ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากมาก สำหรับคุณปู่และคุณย่าที่จะดูแลเขาได้
ท่านผู้หญิงรู้ดีว่าเนลล์กำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงรู้สึกเสียใจกับเนลล์อีกครั้ง เธอตบมือของเนลล์แล้วถอนหายใจออกมา
“เนลลี่ เธอทำงานหนักมาหลายปีแล้วนะ”
เนลล์ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำอยู่แล้ว”
จีนเห็นว่าพวกเขาสนิทสนมกันมาก เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกทอดทิ้งเล็กน้อย เธอจึงอุทานออกมา
“ใช่แล้ว เนลลี่ทำตั้งหลายอย่างเพื่อครอบครัวตลอดหลายปีที่ผ่านมา โชคดีที่เรามีเธอ ไม่อย่างนั้นงานของที่บ้านคงจะไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยขนาดนี้!”
จีนใช้คำพูดได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เพราะทันทีที่เธอพูดแบบนี้ออกมา บรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น ก็กลับกลายเป็นความน่าอึดอัดใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในทันที
ท่านผู้หญิงจ้องมาที่เธอด้วยความไม่พอใจ พลางพูดว่า “เธอหมายถึงว่าก่อนหน้านี้ฉันจัดการงานของที่บ้านไม่ดีอย่างงั้นเหรอ?”
จีนตกตะลึง จนหัวใจของเธอสั่นสะท้าน
เธอรีบยิ้มออกมาและพูดว่า “ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะคุณแม่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ฉันแค่บอกว่าเนลลี่จัดการได้ดีแค่นั้นค่ะ”
เนลล์ก็หัวเราะออกมาเช่นกัน
ท่านผู้หญิงไม่ได้สนใจเรื่องจัดการงานของที่บ้านอีกต่อไป เพราะเรื่องงานบ้านของครอบครัวลีย์ทั้งหมด เธอยกให้เนลล์และกิดเดียนเป็นคนจัดการแล้ว จีนเองก็อาจจะรู้ว่าเธอไม่สามารถดูแลงานของที่บ้านได้ ดังนั้นเธอจึงเชื่อฟังเนลล์
เนลล์มีทัศนคติว่าถ้ามีคนที่ดีกับเธอ เธอก็จะตอบแทน เพราะเธอไม่ได้เป็นคนเย่อหยิ่ง
ดังนั้นเธอจึงยิ้มออกมา เพื่อไม่ทำให้บรรยากาศมันน่าอึดอัด
“คุณย่าเป็นคนดี ส่วนคุณป้าเองก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนกัน คุณป้าไม่เคยลงทุนในเรื่องของธุรกิจมาก่อน ยังสามารถทำเงินได้มากขนาดนี้เลย?”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของจีนก็แข็งทื่อทันที
เธอกลับมามีสติอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มแห้งออกมา
“ใช่แล้วล่ะ ฉันทำเงินได้ แต่มันก็ไม่ได้มากอะไรขนาดนั้นหรอก ฉันแค่รู้สึกสนุกกับมันนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ฉันกลับไม่มีไหวพริบทางด้านธุรกิจเลยใช่ไหมคะคุณแม่?”
พอพูดจบ เธอก็จงใจขอความเห็นชอบจากหญิงชรา
ท่านผู้หญิงสูดลมหายใจเข้า พลางพูดว่า “อย่างน้อย ๆ เธอก็เข้าใจเรื่องนี้ดีนี่”
จีนถูกพูดจาประชดประชันใส่ จนเนลล์ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาทานอาหารแล้ว เธอจึงสั่งให้ป้าจอยซ์เสิร์ฟอาหาร
“คุณปู่ คุณย่าค่ะ เราไปทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหารกันดีไหมคะ?”
นายท่านลีย์และท่านผู้หญิงควีนตันพยักหน้ารับ จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ห้องอาหารด้วยกัน
หลังอาหารที่คู่สามีภรรยาสูงวัยได้พากันกลับบ้านไปก่อน แต่จีนยังคงอยู่ที่นั้น
เธอนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับเอานิ้วประสานกันเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเนลล์กำลังลงมาจากชั้นบน เธอก็รีบลุกขึ้น
“เนลลี่ ลงมาทำไมล่ะ ทำไมไม่ไปงีบสักหน่อย?”
เนลล์คิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องตลก ถ้าจีนยังคงอยู่ที่นี่ เธอจะไปงีบหลับได้อย่างไร?
แต่ในท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้พูดออกมา เธอเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น
“คุณป้า มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
ใบหน้าของจีนแข็งทื่อ เธอค่อย ๆ ยิ้มออกมาพลางพูดว่า “ฉัน… ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอนิดหน่อย”
เนลล์พยักหน้ารับ
อันที่จริงเธอรู้ตั้งแต่ตอนที่ป้าจีนเดินเข้าประตูมาแล้ว เธอรู้สึกเหมือนว่าป้าจีนมีอะไรบางอย่าง
แม้ว่าในอดีตป้าจีนจะเป็นมิตรกับเธอ แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นมายกยอปอปั้นอะไร อย่างมากที่สุดป้าจีนก็เพียงแค่แสดงสีหน้าเป็นมิตรออกมาแค่นั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก