เนลล์ยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับจี้หยกในมือของเธอ แต่หัวใจของเธอนั้นรู้สึกหนักอึ้ง
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และเดินออกไปข้างนอกพร้อมกับถือจี้หยกนั้นเอาไว้
ในขณะเดียวกัน ณ คฤหาสน์ด้านหลังงานการพนันหิน...
ตอนเช้าตรู่ฌอนตระหนักได้ถึงสิ่งหนึ่งว่า เคธี่กำลังกระสับกระส่ายเล็กน้อย เธอกำลังค้นห้องเพื่อหาอะไรบางอย่าง
เขาขมวดคิ้วและถามด้วยความสงสัยว่า “คุณกำลังค้นหาอะไรอยู่เหรอ?”
“ฌอน จี้หยกของฉันหายไป”
ฌอนเริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
“จี้หยกอะไร?”
“จี้ที่ฉันใส่มาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่มีลายดอกบัวอยู่ด้านบน”
ใบหน้าของฌอนแสดงท่าทางหวาดหวั่น ในขณะเดียวกันเขาก็เริ่มมองหาจี้หยกชิ้นนั้นเช่นกัน
ขณะที่เขากำลังมองหาจี้หยกอยู่นั้น เขาก็พยายามที่จะปลอบใจเคธี่ “ไม่ต้องกังวลหรอก ผมจะช่วยคุณค้นหามันเอง คุณลองพยายามนึกถึงครั้งสุดท้ายที่คุณเห็นจี้นั้นสิ หากคุณคิดออก ผมจะไปหามันกับคุณ”
เคธี่หยุดค้นหาจี้และเริ่มย้อนความทรงจำของเธอ
แต่เธอไม่สามารถคิดอะไรออกได้ถึงแม้ว่าเธอจะคิดมันอยู่นาน
เธอส่ายหัว “ฉันไม่รู้ พ่อของฉันให้จี้หยกนี้กับฉัน และฉันก็ใส่มันมาหลายปีแล้ว ฉันไม่เคยถอดจี้นี้ออกเลย เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่ค่อยสนใจมันมากสักเท่าไร มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าจี้หยกนี้เป็นส่วนหนึ่งของตัวฉันไปแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่ได้สังเกตว่ามันหล่นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นมันคือเมื่อไหร่”
ฌอนขมวดคิ้วขึ้นมาเมื่อได้ยินอย่างนั้น
เขาครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นเขาก็พูดว่า “เราไปหาจี้ในห้องนี้กันก่อน ถ้าหากเราไม่พบมันที่นี้คุณอาจจะทำมันหายที่งานการพนันหินมื่อสองวันก่อน”
ใบหน้าของเคธี่ซีดลงเมื่อเขาพูดจบประโยค
“ถ้าฉันทำหายที่นั่นล่ะก็…”
เธอไม่จำเป็นต้องพูดให้จบประโยค เพราะทั้งคู่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าของพวกเขาจึงมืดลง
จี้หยกนั้นคงไม่มีค่ามากพอที่จีนจะยอมมอบจี้นั้นให้กับลิซซี่แบบนั้น
อย่างไรก็ตาม จี้หยกนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมากสำหรับเคธี่ นายท่านมอร์ริสันได้ทำจี้หยกชิ้นนั้นขึ้นมาให้สำหรับเธอเป็นพิเศษในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ หลังจากผ่านไปสองสามทศวรรษ สิ่งนั้นถือได้ว่าเป็นของที่ระลึกเพียงชิ้นเดียวที่นายท่านมอร์ริสันได้ทิ้งไว้ให้กับเธอ
ในสายตาของคนอื่น มันอาจจะเป็นหยกชิ้นหนึ่งที่ดูไร้ค่า แต่มันคือความทรงจำของเคธี่
เขาทั้งสองคนได้ค้นหาไปทั่วทั้งห้อง แต่พวกเขากลับไม่พบจี้หยกนั้นเลย
พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปและย้อนรอยตามหามัน
ยังคงไม่พบจี้หยกหลังจากที่เขาค้นหาทั่วทั้งคฤหาสน์
ในที่สุด พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องโทรหาคุณดอนเนลลี่
คุณดอนเนลลี่ตกใจมาก หลังจากได้ฟังเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“คุณทำจี้หยกนั้นหายเหรอ? จี้หยกนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร?”
เคธี่อธิบายถึงจี้หยกนั้นอย่างเร่งรีบ “มันคือจี้หยกรูปดอกบัวที่มีความยาวสามเซนติเมตร และหนาประมาณสามถึงสี่มิลลิเมตร คุณสามารถเห็นคำว่า 'มอร์ริสัน' ตรงกลางของดอกบัวได้ มันง่ายมากที่จะจำได้”
คุณดอนเนลลี่ขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
เขาคิดอยู่สักพักหนึ่ง “นี่เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างจะลำบาก ในที่สุดคุณก็ไม่แน่ใจว่าจี้หยกของคุณนั้นได้หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ การค้นหาสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ แบบนี้ก็เหมือนกับการมองหาเข็มในกอหญ้า”
แน่นอนเคธี่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่จี้หยกนั้นมีความสำคัญมากสำหรับเธอ
เธอไม่รู้ว่าเธอทำมันหายไปแบบนี้ได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก