"ในเมื่อจีนเป็นคนหยิบมันขึ้นมา เราควรจะไปเอามันกลับมาจากเธอ ฌอนขอร้องล่ะอย่าไปทะเลาะกับคนอื่นเลย สุดท้ายแล้วเธออาจจะเป็นคนดีก็ได้ ในตอนนี้เธออาจจะรอให้เราไปเอาจี้หยกนั้นกลับคืนมาก็ได้”
ใบหน้าของฌอนเริ่มหม่นหมอง “ผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนดีได้เลย เธอคงอยากจะเก็บจี้นั้นเอาไว้ใช้เอง ถ้าหากเธอต้องการที่จะเอาคืนกับเจ้าของจริง ๆ เธอคงจะส่งต่อให้กับเจ้าของที่นี่ แล้วทำไมเธอถึงเก็บมันออกไปอย่างเงียบ ๆ แบบนี้"
เคธี่ขมวดคิ้ว จากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมา
“คุณอย่าพูดแบบนั้นเลย ตระกูลลีย์ เป็นตระกูลอันทรงเกียรติที่มีอำนาจมากมาย คุณลีย์คงจะไม่ทำอะไรแบบนั้น ถ้าหากเธอปฏิเสธที่จะคืนจี้นั้นให้กับเรา เราก็สามารถซื้อมันคืนมาจากเธอได้สิ่งนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่”
ฌอนไม่ได้พูดอะไรต่ออีกหลังจากที่ฟังเคธี่พูดจบ
ผ่านไปครู่หนึ่งคุณดอนเนลลี่ก็กลับมา
เมื่อเขาเข้ามาในห้อง เขาก็แสดงรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของเขา “เป็นยังไงบ้าง? คุณเจอร่องรอยอะไรบ้างหรือเปล่า?”
เคธี่ยิ้มออกมา “ใช่ค่ะ เราพบร่องรอยบางอย่างแล้ว แต่เราอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากคุณเพื่อติดต่อกับใครคนหนึ่ง”
คุณดอนเนลลี่เลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ “อ้าว คุณเจอมันแล้วเหรอ? ใครเป็นคนหยิบมันขึ้นมา?”
เคธี่รอสักครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “คนที่เก็บมันได้คือคุณลีย์ คนที่ทำธุรกิจกับคุณครั้งล่าสุด”
ขณะที่เธอพูดจบ คุณดอนเนลลี่กำลังจะเอาแก้วใส่น้ำที่หน้าตู้กดน้ำ เขาก็ชะงักด้วยความตกใจเมื่อได้ยินในสิ่งที่เคธี่กำลังพูด
เขาเพิ่งได้สติก่อนที่แก้วจะล้นลง เขาปิดสวิตช์และเดินไปหาเคธี่พร้อมกับถือแก้วไว้ในมือ
“จีน ลีย์เหรอ? คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม?"
เคธี่พยักหน้าตอบรับ ในขณะเดียวกันเธอได้หันหน้าจอแล็ปท็อปไปทางเขา เธอเล่นส่วนนั้นของวิดีโอให้เขาดูอีกครั้ง
คุณดอนเนลลี่พูดไม่ออกหลังจากที่ดูวิดีโอเสร็จ
เขาพูดไม่ออกหลัวจากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา
“ถ้าเป็นคนอื่น ผมคงจะจัดการกับเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่มันไปเกี่ยวข้องกับคุณลีย์…”
เขาขมวดคิ้วขึ้นด้วยความลำบากใจ “ผมไม่มีข้อมูลการติดต่อของคุณลีย์เลยด้วยซ้ำ”
เคธี่และฎอนรู้สึกประหลาดใจ “คุณไม่มีข้อมูลการติดต่อของเธอเหรอ? เธอไม่ได้บอกว่าเธอจะร่วมลงทุนในธุรกิจของคุณเมื่อครั้งก่อน? เธอไม่ได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้คุณ?”
คุณดอนเนลลี่ยิ้ม “เธอเป็นนายหญิงในตระกูลที่ร่ำรวย อย่าจริงจังกับคำพูดทุกอย่างที่เธอพูดเลย! เธอไม่ใช่ผู้นำของตระกูลลีย์ เธอไม่สามารถนำเงินหนึ่งพันห้าร้อยล้านมาทำธุรกิจร่วมกับผมได้หรอก มีโอกาสสูงมากที่เธอจะยกเลิกข้อตกลงในครั้งนี้”
เขามองไปที่เคธี่และฌอน ขณะที่ดวงตาของพวกเขาหมดความหวัง ในที่สุดเขาก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจกับพวกเขา
“แล้วถ้าเป็นแบบนี้ล่ะ? พวกคุณรออีกสักสองสามวันเพื่อรอดูว่าเธอจะกลับมาหาผมหรือเปล่า ถ้าหากเธอไม่ได้วางแผนที่จะกลับมา ผมจะช่วยคุณค้นหาข้อมูลการติดต่อของเธอ จีนเธออาจจะเป็นคนหัวรั้น แต่เธอคงจะไม่สร้างปัญหาให้กับคุณมากจนเกินไป ถ้าหากความต้องการของคุณนั้นสมเหตุสมผล”
ฌอนและเคธี่พยักหน้าตอบรับ
ด้านนี้เคธี่กำลังตามหาจีน
แต่ในอีกด้านหนึ่งเนลล์กำลังตามหาเคธี่
ตั้งแต่วินาทีที่เนลล์ได้รับจี้หยกนั้นมา เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เมื่อตอนที่เคธี่ถึงแก่กรรม สิ่งเดียวที่เธอได้ทิ้งไว้ให้ลูกสาวนั่นก็คือสร้อยคอ ฌอนได้จำนำสิ่งของอื่น ๆ จากตระกูลมอร์ริสันไปหมดแล้ว
เนื่องจากความเกลียดชังที่ซิลเวียนั้นมีต่อเคธี่ เธอจึงเผาทุกอย่างที่เคธี่เคยใช้มันมาก่อน
เช่นนั้นจี้หยกแบบนี้ไม่ควรจะหลงเหลืออยู่ในโลก
บางทีพวกเขาอาจจะหลอกเนลล์ตั้งแต่แรกก็ได้?
เมื่อพวกเขาบอกว่าพวกเขาจะเผาสมบัติของเคธี่ พวกเขาอาจจะขายมันทิ้งแทนหรือเปล่า?
เนลล์ไม่รู้คำตอบ แต่เธอรู้ว่าเธอจะต้องไปหาส่วนที่สำคัญที่สุดของมัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก