เนลล์ไม่ได้เอ่ยความคิดที่อยู่ภายในใจออกมา
เพราะท้ายที่สุด เธอก็ไม่ได้รู้จักมิสเตอร์ดอนเนลลี่ ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง
ในขณะที่จีนเองก็ไว้ใจไม่ได้ เนลล์บอกไม่ได้ว่าคนที่เธอรู้จักเป็นคนดีหรือไม่ และไม่มีใครที่จะได้รับรู้ข้อมูลที่สำคัญจากปากของเธอ
เมื่อเนลล์คิดเช่นนั้น เธอก็กล่าวว่า “ถ้าหากว่าจี้หยกชิ้นนี้เป็นของเธอ ถ้าเช่นนั้น ฉันคงจะต้องรบกวนคุณดอนเนลลี่ให้เชิญเพื่อนของคุณมาพบกับเรา และฉันจะคืนจี้หยกชิ้นนี้ให้กับเธอด้วยตัวเอง”
มิสเตอร์ดอนเนลลี่พยักหน้า
เขาคิดว่าการแสดงออกของเนลล์นั้นค่อนข้างแปลก แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
จากนั้นเขาก็รีบโทรหาเคธี่เพื่ออธิบายเรื่องนี้
เคธี่เพิ่งกลับไปที่คฤหาสน์ได้ไม่นานนัก เธอก็ได้รับสายจากมิสเตอร์ดอนเนลลี่
หลังจากที่เธอรู้ว่าเขาพบจี้หยกของเธอแล้ว เธอก็มีความสุขขึ้นในทันที
"จริงเหรอ? คุณหามันเจอได้รวดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
“ใช่แล้ว คุณลีย์กำลังรอคุณอยู่ที่นี่ เธอต้องการคืนจี้หยกให้กับคุณด้วยตัวเอง คุณควรจะรีบออกมาพบเธอ”
เคธี่พยักหน้าและตอบด้วยความตื่นเต้น “แน่นอน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากที่เธอวางสายแล้ว ฌอนจึงถามเธอด้วยความแปลกใจ
“เคธี่ เขาหามันเจอเร็วเช่นนั้นได้ยังไง? ราวกับว่าคุณลีย์มีจิตสัมผัสทางกระแสจิตกับพวกเรา เธอจะนำจี้หยกมาคืนให้เราได้ยังไง? ในเมื่อเราได้เห็นในเทปบันทึกว่าเธอเป็นคนนำมันไป”
เคธี่กวาดสายตาไปมองฌอน
“ฌอน คุณควรหยุดตัดสินคนอื่นเพียงแค่เปลือกนอก บางทีคุณลีย์อาจจะต้องการคืนจี้หยกก่อนหน้านี้ แต่เธออาจมีเรื่องด่วนที่ต้องทำ เธอจึงไม่ได้คืนมันให้กับเรา หรือคุณลีย์อาจจะไม่ไว้ใจคุณดอนเนลลี่ในตอนนั้น และนั่นก็คือเหตุผลที่เธอนำมันมาคืนให้กับเราเมื่อเธอมีว่าง เราควรจะมีความเมตตาในฐานะมนุษย์ หยุดมองคนอื่นแย่ ๆ ได้แล้ว”
ฌอนเป็นกังวล เขารู้ดีว่าเคธี่เป็นคนใจดีและมองโลกในแง่ดีเพียงใด
ถึงแม้ว่าเธอจะได้รับการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมในอดีต แต่หัวใจของเธอก็ยังคงบริสุทธิ์ เธอมักจะมองโลกในแง่ดีและเธอก็ไม่เคยตัดสินคนอื่นด้วยเจตนาร้าย ๆ เลย
เคธี่ช่างไร้เดียงสา แต่ความไร้เดียงสาก็สามารถตีความได้ว่าเป็นความโง่เขลา
แต่แล้วฌอนจะทำอะไรได้?
ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นจุดอ่อนของเธอ แต่ที่เขารักเธอก็เพราะความไร้เดียงสาเหล่านั้น
ฌอนเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดา เขาเรียนจบแพทย์มานานหลายปีแล้ว และด้วยเหตุนี้ ฌอนจึงไม่ชอบธรรมชาติที่ซับซ้อนของมนุษย์ เขาเพียงแค่อยากใช้ชีวิตที่เรียบง่ายกับคนที่เขาห่วงใยเพื่ออยู่เคียงข้างกัน และเคธี่ก็เป็นคนที่ไร้ความกังวลที่สุดที่เขาเคยพบในโลกนี้
ฌอนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพาเคธี่ไปที่นั่น
ทั้งสองคนมาถึงอย่างรวดเร็ว
พวกเขาได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากภายในห้องพัก
“โอ้ คุณดอนเนลลี่ ไม่น่าเชื่อว่าใจเราจะตรงกันเลย แต่ฉันสามารถบอกคุณได้เลยว่า มันคงเป็นเรื่องยากในการทำธุรกิจภายในประเทศจีนถ้าหากคุณไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลลีย์ แต่ว่าในตอนนี้ คุณมีตระกูลลีย์ของเราสนับสนุนคุณแล้ว และนั่นหมายความว่า ธุรกิจของคุณจะต้องเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก”
เคธี่ยิ้มเมื่อได้ยินพวกเขาพูดคุยกัน จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองฌอน “ใช่คุณลีย์จริง ๆ ด้วย”
ฌอนพยักหน้าในขณะที่เขาเปิดประตู จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าไป
เนลล์นั่งอยู่บนโซฟาและฟังจีนคุยโอ้อวด ในขณะที่เธอดื่มชา
จีนไม่ใช่คนที่มีจิตใจที่ย่ำแย่ อันที่จริงเนลล์สามารถคาดเดาความตั้งใจของจีนได้อย่างง่ายดาย
เธอเป็นคนโลภและทะเยอทะยาน เธอมีความเห็นแก่ตัวอยู่เล็กน้อย
แต่นอกเหนือจากนั้น เธอก็ไม่ได้มีความบกพร่องที่สำคัญหรือเป็นอันตราย เพราะเธอไม่มีความกล้าพอที่จะทำร้ายคนอื่นในเชิงรุก
แต่เมื่อใดก็ตามที่มีประกายไฟ จีนก็จะเข้าไปและเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ
เธอจะทำให้ไฟจะลุกโชนให้มากที่สุด และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพื่อเผาศัตรูให้สิ้นซาก
จีนเป็นคนที่เดินบนเส้นทางสีเทาในเรื่องของศิลธรรม มันยากที่จะบอกว่าเธอดีหรือไม่ดี หลังจากอยู่กับเธอมาหลายปีเนลล์ก็รู้จักตัวตนของจีนเป็นอย่างดี
ภายนอกอาจดูน่ากลัว แต่ภายในเธอกลับขี้ขลาดตาขาวและว่างเปล่า
ในขณะที่เนลล์กำลังดื่มชา เธอก็ได้เห็นคนสองคนเดินเข้ามาภายในห้องพัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก