“คุณมีสิทธิ์ที่จะโกรธ แต่คุณไม่คิดว่าคุณควรจะมีความสุขไปกับเธอเหรอ? เพราะเธอกำลังใช้ชีวิตในแบบที่คุณปรารถนา และในตอนนี้เธอก็มีชีวิตที่สงบสุขและมีความสุขไม่ใช่เหรอ?”
เนลล์มองกิดเดียนด้วยใบหน้าที่ตกตะลึง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็หัวเราะ “คุณพูดถูก”
กิดเดียนลูบหัวเธอด้วยความปลอบโยน “ถ้าเช่นนั้น คุณจะเล่าให้ผมฟังได้ไหมว่าเรื่องราวเป็นยังไง?”
เนลล์คิดอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
กิดเดียนเองก็ตกใจเมื่อได้ฟังเช่นนั้น
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง “แล้วคุณจะทำยังไง?”
เนลล์ส่ายหน้า “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอจำอะไรไม่ได้เลย เธอไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ ฉันเลยไม่รู้ว่าฉันจะคุยกับเธอยังไงดี”
“อย่ากังวลไปเลย” กิดเดียนปลอบโยนเธอ “ทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในปีนั้นคงทำให้เธอเจ็บปวดมาก มันเป็นเรื่องปกติถ้าเธออยากจะลืมทุกอย่าง โชคดีแค่ไหนที่เธอยังมีชีวิตอยู่และที่สำคัญ คุณก็ได้พบกับเธอ ผมเดาว่ามันคงเป็นโชคชะตาและไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง แต่การที่เธอยังมีชีวิตอยู่นั่นเป็นพรจากพระเจ้า คุณอย่าเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้เลย ตกลงไหม?”
เนลล์พยักหน้า
การที่เคธี่ยังมีชีวิตอยู่หลังจากผ่านเรื่องราวเลวร้ายนั้นคือปาฏิหาริย์ เพราะไม่ว่าอย่างไร ท้ายที่สุดเนลล์ก็ได้พบกับแม่ของเธอ ผู้ที่เนลล์คิดว่าเธอจะจากไปตลอดกาล
เมื่อเธอตระหนักได้เช่นนั้น เธอก็รู้ว่าเธอไม่ควรจะเรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้ เหตุผลที่เธออารมณ์เสียและคิดมากมันเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง เพียงเพราะเธอไม่ต้องการให้เคธี่ลืมเธอ
แต่ในตอนนี้ เธอเข้าใจทุกอย่างแล้ว
เนลส์ถอนหายใจ
“จริงอย่างที่คุณพูด มันควรจะเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าแม่ของฉันจำอดีตไม่ได้ นั่นหมายความว่าเธอจะลืมบาดแผลที่ฌอร์นทิ้งไว้ให้เธอ พระเจ้าทรงประทานโอกาสครั้งที่สองในชีวิตแก่เธออย่างแท้จริง และเมื่อเธอสามารถเลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่และลืมความหลังได้ก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว”
กิดเดียนโอบกอดเธอ
"ถูกต้องแล้วล่ะ และคุณก็จะรู้สึกดีขึ้นมากเมื่อคุณคิดได้เช่นนั้น”
เนลล์เอนกายพิงแขนของเขา เสียงของเธอแหบแห้งเล็กน้อย “แต่ฉันอยากเจอเธอ ฉันอยากใช้เวลากับเธอมากขึ้น ฉันอยากถามเธอเกี่ยวกับชีวิตของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กิดเดียน ฉันไม่เคยตำหนิเธอเลยจริง ๆ แต่ฉันไม่รู้ว่าฉันจะแสดงความรู้สึกมากมายที่อยู่ภายในใจออกมายังไงดี”
กิดเดียนพยักหน้า "ฉันเข้าใจ"
เขาสบตาเนลล์และพูดเธอว่า “คุณไม่ต้องเป็นห่วงเมื่อคุณปรับตัวได้แล้วผมจะพาคุณไปพบแม่ของคุณเอง เธอไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงใช่ไหม? แต่ไม่เป็นไร เพราะคุณยังมีเวลาและโอกาสอีกมากมายที่คุณจะได้แสดงความรู้สึกภายในใจให้เธอได้เห็น”
เนลล์พยักหน้าและหลับตาลง
กิดเดียนกอดเธอแน่น ไม่นานเขาก็รู้สึกว่าลมหายใจของหญิงสาวเริ่มคงที่จนเธอผลอยหลับไปในที่สุด จากนั้นเขาก็ยิ้ม
หลังจากนั้น เขาก็อุ้มเธอไปที่เตียง
เนลล์หลับสนิท
เธอมีความฝันที่ยาวนานและลึกซึ้ง
ในความฝัน เธอได้หวนคืนสู่วัยเยาว์ เธอย้อนเวลากลับไปตอนที่เธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์มอร์ริสัน ในตอนนั้นผมของเธอถักเป็นเปีย เธอกำลังนั่งอยู่บนชิงช้า คุณปู่ของเธอกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกและยิ้มให้เธอ ต่อมาเคธี่ก็นำจานผลไม้และของว่างมาให้เธอ จากนั้นเธอก็ตะโกนขึ้นด้วยใบหน้าที่มีความสุข “เนลลี่ มากินผลไม้กันเถอะ”
เนลล์กระโดดลงจากชิงช้าและรีบวิ่งไปหาแม่ของเธออย่างตื่นเต้น แต่เธอบังเอิญชนเข้ากับแม่ของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ จนจานผลไม้และขนมตกลงบนพื้น
เธอตกใจเมื่อได้เห็นผลไม้และขนมตกลงบนพื้น จากนั้นเธอก็เริ่มร้องไห้ออกมา
เคธี่รีบเข้ามาปลอบโยนเธอและเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว "ไม่เป็นไร เนลลี่เป็นเด็กดี แม่รู้ว่าเนลลี่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ต้องร้องไห้นะ”
น้ำตาเริ่มไหลลงมาบนใบหน้าของเนลล์อย่างเงียบ ๆ
อาจเป็นเพราะเธอรู้ว่าผู้หญิงในฝันของเธอจะไม่มีวันเข้ามาปลอบโยนเธอเช่นนั้นอีกต่อไป
ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ให้อ้อมกอดอันแสนอบอุ่นกับเธออีกต่อไป ผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีวันมอบความรักและปกป้องเธอได้อีกต่อไป
นั่นคือเหตุผลที่เนลล์รู้สึกเจ็บปวด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก