“ที่นี่เป็นที่คุณสามารถนั่งได้เหรอ? ที่นี่เก็บไว้ให้แฟนของฉันนั่งต่างหาก โอ๊ยๆๆ คุณว่าเมื่อก่อนคุณเป็นไอ้ห่วยก็พอแล้วนะ ทำไมตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยมาสามปีแล้ว ยังห่วยขนาดนี้ ไปไปไป ไปให้พ้น!”
ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมตอนปลายเช่นกัน ส่วนชื่ออะไรนั้นเฉินเกอก็จำไม่ได้แล้ว
และตอนนี้ก็ขี้เกียจที่จะไปถือสาอะไรกับเธอ
แบบนี้ ที่มีให้นั่งก็เหลือแต่ที่รับอาหารตรงประตูแล้ว
เฉินเกอเห็นว่าทุกคนเหมือนจะมีความหมายเช่นนี้ จึงนั่งลงอย่างขมขื่น
อันที่จริงข้างๆของหลี่ชือหานก็มีที่ว่างอยู่ที่หนึ่ง แต่ทว่า หลี่ชือหานวางกระเป๋าของตนเองไว้บนนั่นตั้งแต่แรกแล้ว แสดงให้เห็นว่าก็มีคนนั่งแล้วเช่นกัน และก็ไม่มีท่าทีที่จะให้เฉินเกอนั่งเลยด้วยซ้ำ
“ชือหาน พี่หม่าเฟยจะมาตอนไหนเหรอ?”
เฉินหลินมองไปที่เฉินเกอแล้วส่ายหัวและหัวเราะ จากนั้นมองไปที่หลี่ชือหานแล้วถาม
“เขาเหรอ ฮึ ทำอะไรก็ชักช้า พูดอยู่ตลอดว่ากำลังจะถึง อันที่จริงแล้วยังต้องรออีกสักพัก!”
ถึงแม้ว่าหลี่ชือหานจะแสดงความไม่พอใจบนปาก แต่ในใจกลับภูมิใจอย่างมาก
“อุ๊ยอุ๊ยอุ๊ย ดูชือหานพูดสิ พี่หม่าเฟยของเราจบการศึกษาโดยตรงก็เพื่อเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของร้านหรูในถนนการค้าจินหลิงใช่หรือไม่ ดังนั้นคุณเลยเห็นพี่หม่าเฟยของเราอย่างไม่เป็นที่พอใจ?”
“ก็ว่า พี่หม่าเฟยสมัยก่อนตอนที่ยังอยู่โรงเรียน ชือหานคุณก็อยู่กับคนอื่นอย่างใกล้ชิด และตอนนี้พี่หม่าเฟยกลายเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการขายของร้านถนนการค้าจินหลิง คุณก็เลยดูถูกทุกประการ พูดให้ชัดเจน ก็คือให้พวกเราอิจฉาใช่หรือไม่?”
“แต่พูดจริง ๆนะชือหาน คุณสามารถเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมว่าพี่หม่าเฟยผ่านการสัมภาษณ์อย่างไร? ให้ตายเถอะ กลายเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการขายของร้านถนนการค้าจินหลิง ให้ตำแหน่งข้าราชการสิบตำแหน่งก็ไม่ยอมเปลี่ยน!”
หลี่ชือหานพูดจบ ทุกคนก็คุยกัน
ในคำพูดมีนัยของความอิจฉาอยู่
“ฮึ ฉันก็ไม่รู้ เดี๋ยวรอให้เขามา ให้เขาลองเล่าให้พวกคุณฟังเถอะ!”
หลี่ชือหานหัวเราะพร้อมกล่าว
และในเวลานี้เอง ประตูของห้องโถงถูกเปิดออก
ผู้ชายสองคนได้ผลักประตูเดินเข้ามา
“พี่หม่าเฟย คุณมาแล้วเหรอ!”
ผู้คนมองและยิ้มไปที่ผู้ชายร่างผอมสูงคนหนึ่ง
เขาก็คือหม่าเฟย แฟนหนุ่มคนปัจจุบันของหลี่ชือหาน
ส่วนผู้ชายอีกคน เป็นแฟนหนุ่มของผู้หญิงร่วมห้องสมัยมัธยมตอนปลายคนนั้น และนั่งลงในที่นั่งที่เฉินเกอเกือบจะนั่งลงเมื่อกี้อย่างรู้ตัวเอง
“หม่าเฟย เรากำลังพูดถึงคุณอยู่เลย พูดถึงโจโฉโจโฉก็ถึงพอดี(สำนวนจีน) ใช่แล้ว วันนี้มีเพื่อนใหม่คนหนึ่งมา แนะนำให้คุณรู้จักหน่อย คุณดูเขา เขาคนนี้มีชื่อว่าเฉินเกอ!”
เฉินหลินในตอนนี้ยิ้มแล้วชี้ไปที่เฉินเกอที่กำลังดื่มน้ำชาอยู่
“อุ๊ย?เขานี้เอง เขาก็คือเฉินเกอคนที่ยากจนเหรอ?ยินดีที่ได้รู้จัก!”
หม่าเฟยแสร้งทำเป็นท่าทางที่ตกตะลึงอย่างมาก และเดินเข้ามาราวกับว่าจะจับมือกับเฉินเกอ
เฉินเกอเพียงแค่ขมวดคิ้ว และไม่ลุกขึ้น และไม่สนใจเขา
บอกตามตรง จนถึงตอนนี้ เฉินเกอเพิ่งรู้สึกโกรธอย่างจริง ๆ
ก่อนหน้านี้ตนเองคิดว่าง่าย ก็คือรู้สึกเพียงว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่า และไม่ได้เจอกันหลายปี และตนเองมาที่นี่เพื่อรวมตัวกันดีมากแค่ไหน
แต่หลังจากที่ตนเองมาถึงก็เพิ่งพบว่า
เฉินหลินเชิญตัวเองร่วมงานคนหมู่บ้านเดียวกันอย่างจริงจังสักที่ไหน แต่เพื่อหาตัวเองมาเป็นความสุขให้กับคนกลุ่มนี้ต่างหาก
ไม่มีใครให้ความสนใจกับตัวเองเลย รวมถึงหลี่ชือหาน ก็กลายเป็นคนที่ทำให้เฉินเกอไม่รู้จักเล็กน้อย
โดยทั่วแล้ว ก็คือผิดหวัง
เฉินเกอไม่ได้ให้ความสนใจกับคนที่ชื่อหม่าเฟยคนนี้
เขากลับมองไปที่เฉินเกอแล้วยิ้มและพูดว่า:“ฮึฮึ เพื่อนร่วมชั้นเฉินเกอมีบุคลิกที่เข้มแข็งมาก ต้องขอโทษด้วย เมื่อกี้ฉันก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น เคยได้ยินชือหานพูดถึง ว่าเมื่อก่อนเธอกับคุณมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดี”
“ฮึ เฉินเกอ เมื่อกี้พี่หม่าเฟยเขาหาคุณเพื่อนจะจับมือกับคุณ คุณดูสิคุณมันคุณธรรมอะไร!รู้จักมารยาทสักนิดหรือไม่?”
“นั่นแหละ พี่หม่าเฟยคนคนนี้คุณไม่จำเป็นต้องกล่าวขอโทษกับเขาหรอก คุณลองถามชือหานก็รู้แล้ว ว่าไอ้นี่มันก็แค่คนโง่ที่ยากจนคนหนึ่ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...