“พี่ยวี่ เป็นพวกเขาที่มาทุบน้องชายผม!”
เวลานี้ซูเจี๋ยพูดอย่างยากลำบาก
ป๊าบ!
จากนั้นสิ่งที่ตอบเขามามีเพียงเสียงตบของเจิ้งยวี่ดังมาทีหนึ่ง
“ซูเจี๋ย ฉันว่านายไปกินหัวใจหมีตับเสือมารึไง ถึงได้กล้ามาก่อเรื่องที่นี่ แถมยังหาเรื่องกับเฉิน……คุณชายหลี่อีก!”
ซูเจี๋ยโดนตบหน้ามาทีหนึ่ง
ขณะเดียวกันแม้เขาจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็หุบปากลงอย่างเชื่อฟัง
เขาไม่ใช่คนโง่ วันนี้คนที่ชื่อคุณชายหลี่คนนี้ เห็นได้ชัดมากว่ามีที่มาที่ไป และไม่ใช่พวกคนจนแบบที่หลินเจียวพูด
ถ้าไม่อย่างนั้นปกติเจิ้งยวี่ที่โอหังเช่นนี้ จะไว้หน้าหลี่ปินมากขนาดนี้ได้อย่างไร
เวลานี้จึงได้แต่ก้มหน้าลง
“ตายแล้ว เหตุการณ์นี้ช่างโหดมากจริงๆ เลย!”
หลินเยว่ที่มากับฉินเฟยก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน
โดยเฉพาะท่วงท่าของสาวแกร่งอย่างเจิ้งยวี่ ทำให้หลินเยว่อิจฉาอย่างยิ่ง รอเมื่อไรตนเองสามารถรู้จักคุณชายเฉินผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้บ้างคงจะดี จากนั้นเห็นลูกคนรวยคนไหนไม่เข้าตา ก็ขึ้นไปตบสักที ฮ่าๆๆ
“ถ้ารู้จักเอาตัวรอดก็รีบไสหัวไป ซูเจี๋ย นายยื่นอยู่แบบนี้ ไม่อย่างนั้นวันนี้คงเดินออกไม่ได้แน่”
เจิ้งยวี่กอดหน้าอกพูดอย่างเย็นชา
ซูเจี๋ยหนาวสั่นไปทั้งตัว
ตอนนี้อยากขอโทษกับหลี่ปินแล้วรีบไสหัวออกไป
“เดี๋ยวก่อน!”
จากนั้นก็ได้ยินหลินเจียวตะโกนเสียงดัง
“พี่ยวี่ รอก่อนสักนิด ถึงแม้ก่อนหน้านี้พวกเราจะเคยขัดแย้งกัน ก็ขอให้คุณฟังฉันพูดให้จบ หลังจากพูดจบ การที่คุณช่วยคนบางคนวันนี้ อาจจะเสียใจทีหลัง!”
หลินเจียวกอดหน้าอกไว้ เวลานี้มองทางเฉินเกออย่างเย็นชา
ราวกับมั่นใจว่าจะมองเห็นภาพที่อีกสักพักเฉินเกอจะโดนเจิ้งยวี่สับให้แหลกเป็นชิ้นๆ
“หึๆ เป็นเธอเองเหรอยัยขี้ฟ้อง เธอมีเรื่องอะไรจะพูด? ดีที่สุดเอาที่มีประโยชน์กับฉัน ไม่อย่างนั้นแค้นเก่าของพวกเราคงต้องเอามาคิดรวมกับบัญชีใหม่เลย!”
พอเจิ้งยวี่มองเห็นหลินเจียว ก็นึกถึงตอนนั้นที่ตนเองไปส่งเฉินเกอกลับมหาวิทยาลัย จนถูกผู้หญิงคนนี้ปรักปรำว่าเลี้ยงเด็ก ทำให้คุณชายเฉินสุดจะรับได้มาครั้งหนึ่ง
“ได้พี่ยวี่ ฉันอธิบายไปตามตรงเลยแล้วกัน คนที่ชื่อเฉินเกอคนนั้นเนรคุณต่อความไว้วางใจของคุณ เขามีแฟนอยู่ในมหาวิทยาลัยของพวกเรา แถมแฟนยังเป็นคนในสาขาของพวกเราด้วย!”
นี่คือไพ่ใบใหญ่ที่สุดของหลินเจียว
พูดจบยังชี้ไปทางเฉินเกอแล้วพูดว่า “นายเป็นผู้ชายก็บอกพี่ยวี่ไปซะ ที่ฉันพูดมาถูกหรือไม่!”
เฉินเกอพยักหน้าตอบ “ใช่ แฟนของผมชื่อซูมู่หาน เป็นคนในสาขาของพวกเรา หึๆ หลายวันก่อนพึ่งเป็นแฟนกันเอง”
“ฮ่าๆๆ พี่ยวี่ คุณได้ยินแล้วรึยัง? เขายอมรับแล้ว เขาพูดเอง……”
หลินเจียวหัวเราะเสียงดังขึ้นมา จากนั้นรอยยิ้มของหล่อนค่อยๆ หดหายไป
ตอนแรกหล่อนยังคิดว่าจะเห็นความโกรธเคืองแบบนั้นบนหน้าเจิ้งยวี่ โมโหจนสุก แม้กระทั่งเต็มไปด้วยอารมณ์อาฆาต
โดยเฉพาะโดนผู้ชายมาหลอกเล่น ผู้หญิงด้วยกัน ใครเลยจะไม่เข้าใจอารมณ์เดือดดาลอยากฆ่าคนแบบนั้นของผู้หญิงล่ะ
ทว่าสิ่งที่หลินเจียวเห็นบนหน้าเจิ้งยวี่เป็นเพียงเจิ้งยวี่ที่มองทางตนเองด้วยความรำคาญและโกรธเคือง
“นี่เป็นเรื่องที่เธออยากจะบอกกับฉันเหรอ? หึๆ ลูกน้องคนหนึ่งของคุณชายหลี่หาเมียเท่านั้น เธอเอาพวกนี้มาบอกฉันทำไม? เธอคงไม่คิดจริงๆ ว่าลูกน้องที่นามสกุลเฉินคนนี้เป็นเด็กเลี้ยงของฉันหรอกมั้ง?”
เจิ้งยวี่หัวเราะเยาะ
“หา? ไม่ใช่เหรอ?” หลินเจียวตกใจ
“ป๊าบ!”
“ยัยขี้ฟ้อง ครั้งที่แล้วก็มาปรักปรำฉัน ตอนนี้ยังกล้าพูดจาบ้าคลั่ง”
เจิ้งยวี่ตบปากขึ้นไปแล้วทีหนึ่ง
ตบหลินเจียวจนโง่ไปหมด
ที่แท้เป็นตัวเองที่คาดเดาผิดแล้ว
“ยังไม่รีบไสหัวไปให้พ้นอีก!”
เจิ้งยวี่ด่าด้วยความโมโห
“อ่อๆ ไสหัวไปแล้ว!”
หลินเจียวถูกตบจนน้ำตาไหล ตอนนี้จับหน้าไว้อยากออกไป
“เดี๋ยวก่อน”
เป็นหลินเยว่ที่เดินออกมาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...