ผู้ชายคนนี้คือใคร?
คงไม่ใช่ติงห้าวนะ
ตอนที่อยู่บนถนน เฉินเกอยังคิด คงไม่ใช่ว่าพอไปแล้ว ไปเจอพวกติงห้าวนะ อีกอย่างแค่มีติงห้าวอยู่ ก็ต้องมีพวกเฉินหลินกับหลี่ชือหานแน่
เฉินเกอไม่อยากจะเจอพวกเธอจริงๆ
แต่คิดไม่ถึง ว่าจะเจอได้
อีกอย่างติงห้าวจู่ๆเป็นเพื่อนมัธยมปลายของหวังเลี่ยง?
“เลี่ยงจื่อ เพิ่งมาเหรอ รอพวกคุณสักพักแล้วเนี่ย!”
ติงห้าวเขาทักทายด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ ยังไงตอนนี้เขาก็ถือว่าเป็นเจ้าภาพของสถานที่ใหญ่ๆนี่ เลยมีความหยิ่งยโส และความพอใจอย่างมาก
“อือๆ ระหว่างทางรถติดน่ะ ใช่สิเลี่ยงจื่อ ผมจะแนะนำให้คุณ นี่คือลี่เม่ยแฟนผม นี่คือคุณป้าหวังแม่ของลี่เม่ย ส่วนนี่พวกเขาคือเพื่อนของลี่เม่ย มาเที่ยวด้วยกัน!”
หวังเลี่ยงพูดขึ้นมาในตอนนี้
ยืนอยู่กับติงห้าว มีผู้หญิงสองสามคนและผู้ชายอีกสองสามคน แน่นอนว่ารวมถึงเฉินหลินกับหลี่ชือหาน ส่วนติงห้าวก็แนะนำหวังเลี่ยงให้รู้จักเพื่อนตัวเองเหมือนกัน
“ทุกคน นี่คือติงห้าว ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าคุณชายติง ทั้งโครงการรื้อถอนเขาหยุนเหมิง อย่างน้อยตระกูลของติงห้าวก็มีบ้านสามหลังในนี้!”
หวังเลี่ยงพูดอย่างอิจฉาเล็กน้อย
แนะนำเสร็จ
ลี่เม่ยตะลึงเล็กน้อย
แม่ของลี่เม่ยกับแม่ของสวีเสียก็ตะลึงหมด
ทางที่มาเมื่อกี้นี้ ก็ดูการแนะนำสั้นๆของเขาหยุนเหมิงไปแล้ว เป็นโครงการท่องเที่ยว สถานบันเทิงและห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่โครงการหนึ่ง และยังวางแผนที่จะสร้างย่านธุรกิจการท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง รวมถึงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์รอบนอกอีกด้วย เป็นต้น!
ก็หมายความว่า ในอนาคตอีกไม่นาน ที่นี่จะกลายเป็นโซนยอดนิยม
ส่วนติงห้าว จู่ๆก็มีห้องสามห้องที่นี่
ก็เพียงพอที่จะไร้ความกังวลไปทั้งชีวิตแล้ว
ทำให้แม่ของลี่เม่ยอดไม่ได้ที่จะมองไป
“เหอะๆ จริงๆแล้ว ถ้าจะบอกว่าเจ๋ง อย่างนั้นก็ต้องเป็นคุณชายเฉินที่เจ๋ง พื้นที่ใหม่พวกนี้ ต่างเป็นคุณชายเฉินที่ลงทุนก่อสร้าง!”
ติงห้าวพูดด้วยใบหน้าเลื่อมใส
“อะไรนะ?คุณชายเฉิน?คุณชายเฉินคนนั้นฉันเคยได้ยินในเน็ตพูด ไม่ใช่ว่าทำธุรกิจล้มเหลวไปแล้วเหรอ จนบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ปยุบลง!บัดซบ แล้วเขาจะสร้างสถานบันเทิงแห่งใหม่อีก?”
เวลานี้ ลี่เม่ยก็ช่วยไม่ได้ที่จะพูด
พอคบกับหวังเลี่ยง เธอก็ถือว่าเข้าสู่สังคมคนรวยไปครึ่งหนึ่งแล้ว ทำให้สนใจพวกคนรวยของจินหลิงอย่างมาก
และหัวข้อนี้ ก็ดึงดูดความสนใจของจ้าวยีฟานกับหลินเจียว
แน่นอนว่าข่าวนี้พวกเขาต่างรู้
มีทุกอย่างที่เดาบนอินเทอร์เน็ต
“เสี่ยวเหม่ย คุณว่าคุณชายเฉินเป็นคนยังไง?เจ๋งไหม?”
แม่ของลี่เม่ยก็สนใจ
“แม่ เจ๋งอยู่แล้ว แต่ก็เหมือนที่ฉันพูดไปเมื่อกี้นี้ ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่แล้ว บริษัทเขายุบลงแล้ว!”
ลี่เม่ยพูด
ติงห้าวได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มฝืนๆพูดไปว่า:
“พวกคุณอย่าไปฟังที่อินเทอร์เน็ตเดามั่วเลย พวกคุณไม่คิดเหรอว่า คุณชายเฉินเป็นคนยังไง และโครงการครั้งนี้ ใหญ่กว่าบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ปตอนนั้นมากๆ เพราะว่าคุณชายเฉินซื้อทั้งภูเขาเลย แผนการรอบๆก็ทำไว้แล้ว แค่การลงทุนเริ่มต้น คุณชายเฉินก็ลงทุนไปแล้วกว่าห้าถึงหกหมื่นล้าน ในอนาคตยังมีเงินเข้ามาอีกมาก!”
ทุกคนฟังจบ ก็ตาโต
“เหอะๆ ดังนั้น ตอนดึกพวกเรามองเห็นบางคนเดาเรื่องคุณชายเฉินเราทุกคนส่ายหัวและยิ้มอย่างฝืนๆ!”
เฉินหลินก็กอดอกพูดอย่างภูมิใจ
“พระเจ้า เก่งมากไปแล้ว นี่มันเก่งมากไปแล้ว!”
ลี่เม่ยพูดอย่างคิดขึ้นได้
ส่วนจ้าวยีฟาน ก็มองไปที่เฉินเกอด้วยความตกตะลึง
มองเฉินเกอด้วยความรู้สึกผิด
โชคดีจัง ตัวเองไม่ได้ทำอะไรให้เฉินเกอไม่พอใจ ถ้าเฉินเกอคือคุณชายเฉินอย่างนั้นตัวเองก็มีโอกาสจริงๆ
จ้าวยีฟานคิดในใจ
“หวังเลี่ยงจ๊ะ คิดไม่ถึงว่าคุณยังจะรู้จักติงห้าวที่เจ๋งขนาดนี้ เครือข่ายคุณเยอะมาก!”
แม่ของลี่เม่ยพูดยิ้มๆ
“โอเค อย่างนั้นพวกเราหารถชมวิวมานั่งกัน มีกี่คน?ผมจะได้หาคันใหญ่ๆ!”
ติงห้าวพูด
พูดจบก็มองไปทางหยางฮุยแล้วนับคน
“บัดซบ เฉินเกอ?”
ติงห้าวตะลึง คิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะอยู่ที่นี่
ส่วนเฉินหลินกับหลี่ชือหานก็มองไปที่เฉินเกออย่างตะลึง คิดไม่ถึงจริงๆ เจอเฉินเกออีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...