“เรื่องอะไร?”
“คุณบอกฉันมา หลายวันที่ผ่านมานี้ทำไมคุณถึงหลบหน้าฉัน?ต้องพูดความจริงกับฉัน!หรือว่าคุณจะมีแฟนแล้ว?”
ฉินหยาถามอย่างสอบสวนไม่แน่ใจ
แต่ฉินหยาก็รู้ดีว่า สถานการณ์ด้านการเงินของครอบครัวเฉินเกอนั้นไม่ดี อีกอย่างก็เหมือนกับที่ถงถงพวกเขาพูดไว้ คนคนนี้เป็นคนที่เย็นชาไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา จะไปมีแฟนได้อย่างไรกัน!
“อืม ผมมีแฟนแล้ว!”
เฉินเกอพยักหน้า
เดิมทีฉินหยาก็เข้าใจผิดบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองอยู่แล้ว แม้ว่าเฉินเกอจะไม่หลงตัวเองพอที่จะบอกว่าฉินหยาชอบคนแบบตัวเองแต่ตัวเองหลบหน้าเธอก็เพราะว่าตัวเองมีแฟนแล้วจริงๆ!
“อะไรนะ?คุณโกหกฉันหรือเปล่า……”
ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด หัวใจของฉินหยาเจ็บปวดอย่างกะทันหัน
“ผมไม่ได้โกหกคุณ ผมมีแฟนแล้วจริงๆ เธอชื่อซูมู่หาน เรียนสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียง พวกเราคบกันได้สองเดือนกว่าแล้ว เพียงแต่สองวันก่อน เธอไปเรียนรู้ที่เกาะฮ่องกงแล้ว!”
เฉินเกอยิ้ม
“อ๋อๆ อย่างนี้นี่เอง ฉันก็ว่าทำไมคุณถึงหลบหน้าฉันอยู่เรื่อย ที่แท้คุณก็มีแฟนนี่เอง เหอะๆ ไม่เลวนี่ อย่างนี้ก็แสดงว่าคุณชอบแฟนคุณมาก!”
ฉินหยาพูด
“ใช่แล้ว ผมชอบเธอมาก เธอก็แคร์ผมมากเหมือนกัน!”
“อ้อ อย่างนั้นคุณก็ไปที่ห้องพยาบาลเองแล้วกันนะ ฉันไม่ไปเป็นเพื่อนคุณแล้ว เพื่อไม่ให้แฟนของคุณเข้าใจผิด นอกจากนี้ เรื่องที่คุณทำร้ายคนเพื่อช่วยฉัน ฉันก็จะบอกคุณพ่อ ให้เขาช่วยจัดการ!ลาก่อนนะ!”
ฉินหยาโบกมืออย่างหมดความสนใจแล้วหันหลังเดินจากไป
“ลาก่อน!”
เฉินเกอก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดฉินหยาจึงมีปฏิกิริยาก่อนและหลังแตกต่างกัน
แต่มันก็ไม่มีอะไร อย่างไรก็ใกล้ถึงห้องพยาบาลแล้ว เฉินเกอก็เลยเข้าไปทำแผลด้วยตัวเอง
เมื่อทำแผลเสร็จ แล้วยังตั้งใจโทรไปหาบอดิการด์เทียนหลงตี้หู ให้พวกเขาไปทำความรู้จักกับที่เรียกว่าตระกูลเฉิน
เฉินเกอก็ถือว่าได้เรียนรู้จากความผิดพลาดแล้ว ในตอนนี้ถ้าตัวเองทำให้ใครไม่พอใจ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เฉินเกอก็มักจะชอบเริ่มจู่โจมก่อนเสมอ
ด้วยวิธีนี้นั้นก็จะสามารถกำจัดปัญหาหลายอย่างได้มาก
หลังจากจัดการล้างแผลเรียบร้อยแล้ว เฉินเกอก็เตรียมพร้อมที่จะกลับไปที่หอพักเพื่อนอนพักผ่อน
“เฉินเกอ!”
ในเวลานี้ ประตูห้องพยาบาลถูกผลักให้เปิดออก
เป็นฉินหยา เธอเข้ามาพร้อมหิ้วถุงผลไม้หรืออะไรบางอย่าง
“ให้คุณ!”
ฉินหยาพูดอย่างโกรธๆ
ความจริงแล้ว ฉินหยายังไม่เข้าใจสภาพจิตใจของเธอในตอนนี้มากนัก
เพราะอะไรกัน?
เพราะไม่ว่าคุณจะพิจารณามุมไหน ฉินหยาก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติกับเฉินเกอแบบนี้เลย
แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด บางครั้งเรื่องของความรู้สึกรักนั้นก็ไม่สามารถเข้าใจได้และคาดเดาไม่ได้เลย
ฉินหยาก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่ช่วงเวลาไหนที่เริ่มมีความรู้สึกรักแบบแปลกๆแบบนี้ต่อเฉินเกอ
อย่างไรก็ตามก็แค่ต้องการพบเขา รู้จักเขาและอยากอยู่กับเขา
บางทีอาจเป็นตอนที่เฉินเกอมอบกำไลหยกให้ตัวเอง กำไลหยกนั้นเป็นมรดกตกทอดของเขา เขามอบให้กับตัวเองโดยตรง ซึ่งเท่ากับเป็นการสารภาพรักทางอ้อมกับตัวเองแล้ว
‘สารภาพรัก’ก็คือสิ่งก่อการเสน่หาที่ปลอมแปลงมาไม่ใช่งั้นหรือ!
อาจเป็นคนแปลกหน้าหรืออาจเป็นเพื่อนที่ดี
เพียงแค่อีกฝ่ายสารภาพรัก ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแน่นอน
หากอีกฝ่ายไม่เกลียดคุณมากเกินไป ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่คลุมเครือโดยไม่ตั้งใจ
เห็นได้ชัดว่าฉินหยาในตอนนี้ได้เป็นแบบนี้แล้ว
เดิมทีก็รู้สึกขอบคุณและอยากรู้อยากเห็นในตัวเฉินเกออยู่แล้ว ในตอนนี้การสารภาพรักของเฉินเกอ ทำให้ฉินหยาอดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงความคาดหวังที่จะได้คบกับเฉินเกอ
เธอคิดว่าเฉินเกอจะทำดีกับตัวเองด้วยทุกวิถีทาง
แต่ความคาดหวังแบบนี้ได้เกิดการต่อต้านกับความเป็นจริงอย่างรุนแรง และยังทำให้ฉินหยาที่เป็นผู้หญิงที่ชอบเอาชนะนั้นต้องการที่จะทำตามความหวังของตัวเองอย่างมาก
แน่นอนว่าฐานหลักของกระบวนการทั้งหมดคือบุคคลนี้สามารถทำให้สาว ๆ สนใจได้
ดังนั้น ถึงได้มีฉากที่ฉินหยาขึ้นรถของลี่เยว่ไปเพื่อจะทำให้เฉินเกอโกรธเกิดขึ้นเมื่อวาน
ได้มีฉากเศร้าเล็กน้อย หลังจากที่ฉินหยาได้ยินว่าเฉินเกอมีแฟนแล้ว
และถึงได้มีฉินหยาที่ไปและกลับมาอีกครั้งแล้วซื้อผลไม้มาให้เฉินเกอ!
“คุณไปซื้อผลไม้ให้ผมอย่างนั้นเหรอ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...