ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 348

บทที่348 หาคนมาช่วย

หลิวหยูเสียงที่เกรี้ยวกราดอยู่แล้ว เขาคิดจะใช้ความรุนแรง ใช้มือที่ล้วงกระเป๋าจะสั่งสอนหยางอยู่เฟย

แต่คิดไม่ได้ถึงจะคว้าเอาอากาศ

ตอนนี้เลือดสดอาบไหลลงหน้าผาก

แต่บอดี้การ์ดต่างตกใจกลัว

คนของทั้งสองฝ่ายต่างไม่กล้าทำอะไร

สีหน้าหยางอยู่เฟยของก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวทันใด

เรื่องเลือดตกยางออกนี้เกิดขึ้นที่ฉู่ตู พูดแล้วมันคงไม่เป็นผลดีแน่

“อย่าให้ผู้หญิงคนนี้หนีไปได้ เธอทำร้ายคุณชายหลิว!”

บอดี้การ์ดคนหนึ่งชี้ไปที่หูฮุ่ยหมิน แล้วพูดขึ้น

“ชะ...ฉันไม่ได้ทำอะไรนะ!”

หูฮุ่ยหมินก็งงเช่นกันเธอแค่ต้องการห้ามซึ่งตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ตอนนี้ชัดเจนว่าบอดี้การ์ดพวกนั้นพุ่งเป้าไปที่เธอ

พนักงานของสถานบันเทิงเมื่อได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้จึงรีบส่งไปสลายผู้สังเกตการณ์ทันที

แล้วส่งหน่วยพยาบาลเข้าไปทำแผลให้หลิวหยูเสียง

ผู้จัดการสถานที่ท่องเที่ยวนั้นจึงต้องเข้ามาจัดการ

ตอนนี้ในที่เกิดเหตุเหลือคนอยู่ไม่เยอะแล้ว

มีพวก หวางเหวิน เฉินเกอ หูฮุ่ยหมิน และเพื่อนที่ไปไหนไม่ได้

“คุณชายหลิว พวกเราจะส่งคุณไปทำแผลที่โรงพยาบาลประจำจุดชมวิว!”

“อย่าปล่อยให้พวกเธอหนีไป!”

หลิวหยูเสียงใช้มือกุมศีรษะแล้วถูกหน่วยพยาบาลห้ามขึ้นเปลไป

เขาตะโกนร้องด้วยความโมโห

“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมจะไปไม่ได้!”

หูฮุ่ยหมินพูดด้วยความโมโห หลิวหยูเสียงเผด็จการเกินไปแล้ว

ว่าแล้วก็หันหลังจากไป

“คุณผู้หญิงท่านนั้น พวกคุณกรุณารอก่อน ต้องจัดการเรื่องนี้กันก่อน ถ้าหากคุณไปทั้งอย่างนี้ ทางพวกเราคงไม่สามารถไปรายงานทางตระกูลหลิว ได้!”

“ฉันเป็นพยานให้ได้ เธอไม่ได้ทำอะไรแค่ดึงฉันไว้เท่านั้น!”

หยางอยู่เฟยรู้สึกซาบซึ้ง เธอหันไปมองและพยักหน้าเบา ๆ ให้หูฮุ่ยหมิน จากนั้นก็พูดกับผู้จัดการสถานที่

“คุณหยาง พวกเราไม่มีทางเลือกแต่ว่าจุดชมวิวของพวกเราจะป้องกันไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทอีก แต่จะทำอย่างไรได้ คุณดูทัศนคติของคนจากตระกูลหลิว สิ”

ผู้จัดการพูดด้วยความจนใจ

ถึงแม้ว่าทางจุดชมวิวจะมีความสามารถในการป้องกันเหตุแต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถต้านทานได้

หวางเจี้ยน ที่อยู่ข้าง ๆ กลัวจนขนหัวลุก คนชื่อหลิวหยูเสียง คนนี้ตั้งแต่เล็กจนโตเขาคงไม่เคยโดนรังแกเลย

ตอนนี้เกิดหัวกระแทกแบบนี้

ยิ่งกว่านั้นยังหมายหัวหูฮุ่ยหมิน ว่าเป็นคนทำอีก

ตัวเองมากับหูฮุ่ยหมิน ถึงเวลาจะต้องได้รับผลแน่

ทำให้ตระกูลหลิว ขุ่นเคือง พวกเขาตระกูลหวัง จะมีความหมายอะไร

ตอนนี้เมื่อเขาโทรหาพ่อของเขาหวางเจี้ยนก็พูดตะกุกตะกักอย่างประหม่า

ส่วนหวางเหวิน ที่ไม่เคยพบเจอเรื่องพวกนี้

เธอกลัวจนร้องไห้ไปแล้ว

ที่สุดแล้วนั้นเธอเป็นเพียงนักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบและหญิงสาวที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ

ปกติก็ไม่เคยเข้าใกล้นักธุรกิจใหญ่ ๆ

และที่ชัดเจนคือเธอรู้จักตระกูลหลิว ดี

ดังนั้นเธอต้องกลัวอยู่แล้ว

ไม่ต้องพูดถึงเขา เหลียงเมิ่งตอนนี้กลัวจนเกือบจะร้องไห้ เขาโทรไปฟ้องพ่อแล้ว

“เรื่องนี้พวกเธอไม่ต้องกลัว ยังไงพวกเธอก็ไม่ได้ทำอะไร ฉันจะช่วยหาทางให้พวกคุณ!”

หยางอยู่เฟยเห็นว่าพวกเขาอายุเพียงยี่สิบต้น ๆ เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย

ครั้งนี้เป็นเพราะว่ากลัวว่าตัวเธอจะถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ

จะทนดูให้พวกเธอต้องรับกับเรื่องนี้ได้ยังไง

พูดแล้ว เรื่องที่หูฮุ่ยหมิน ไม่ได้ทำอะไรหยางอยู่เฟย รู้ดี

ดังนั้นเพื่อไม่ให้พวกเขาตกใจกลัว ดังนั้นหยางอยู่เฟย จึงได้ปลอบพวกเขา

ถึงแม้หยางอยู่เฟย จะมองว่าไม่มีอะไร

แต่พูดตามจริง ในใจก็ยังแอบกลัวและคิดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดีนะ

พูดจบแล้วหยางอยู่เฟย ก็รีบติดต่อไปที่บริษัทแล้วเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

“อ๊ะ? โอเค ฉันเข้าใจแล้ว!”

พูดจบ หยางอยู่เฟย ก็มีสีหน้าที่เคร่งขรึมลงเล็กน้อย

“เป็นยังไงบ้างคะ พี่หยูเฟย?”

หูฮุ่ยหมินถามด้วยความกังวลใจ

พวกเขาล้อมวงเข้ามา

หยางอยู่เฟยส่ายหน้า: “บริษัทผมฉันว่าพวกเขากำลังหาทางอย่างเร่งด่วน และติดต่อประธานจู คุณจูหมิง ไปแล้ว แต่ครั้งนี้ หยูเสียงได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ดังนั้นบริษัทเลยกังวลว่า ประธานจูอาจจะไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เขาไม่สามารถจะไปทะเลาะกับ ตระกูลหลิวเพื่อฉันซึ่งเป็นเพียงศิลปินคนเดียว ถึงแม้หลิวหยูเสียงจะเป็นคนหาเรื่องเองและเจ็บตัวเอง แต่เรื่องก็ยังเป็นปัญหา!”

หยางอยู่เฟยเองก็รู้สึกกระวนกระวาย

ถ้าหลิวหยูเสียงไม่ได้รับบาดเจ็บ เรื่องนี้จูหมิง คงจัดการได้แต่พอเขาเจ็บมันก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว

ยิ่งกว่านั้นจะให้จูหมิงเข้าสำนักงานใหญ่ให้บริษัทตระกูลเฉินกรุ้ป จัดการเรื่องนี้อยู่ตลอดคงไม่ได้ ไม่งั้นพวกเขาคงตกงานหมด

ดังนั้นคงไม่มีใครโง่พอที่จะเอาไม้ท่อนไปงัดไม้ซุงเพื่อศิลปินคนเดียวและแฟนเพลงไม่กี่คน แบบนี้มันน่าลำบากใจ

“งะ...งั้นจะทำยังไงดี?”

หวางเหวินร้องไห้

“พวกเธออย่าเพิ่งรีบร้อน ตอนนี้เดี๋ยวฉันจะลองหาเส้นสายส่วนตัวของฉัน! พี่เหลียง พี่ว่าโทรหาใครดีคะ?”

หยางอยู่เฟยถามผู้จัดการส่วนตัวพี่เหลียง

นิ่งไปครู่หนึ่ง “ไม่ต้องพูดถึงคนในวงการเลย ฉันรู้สึกว่ายังมีคนที่ควรติดต่อไป ขอเพียงเธอได้รับความช่วยเหลือจากเขา เรื่องนี้ต้องไม่เป็นปัญหาแน่ ยิ่งกว่านั้นเขาพูดคำเดียวเท่านั้นแหละ!”

“อ๊ะ? ใครคะ?”

หยางอยู่เฟยรีบถาม

“ก็คนที่เธอแสดงครั้งก่อนแล้วเขาต้องการเบอร์ติดต่อเธอไง คุณชายหวง หวงหยงหาว ที่เขาจัดงานเลี้ยงใหญ่ครั้งนั้น เขาพูดแล้วไม่ใช่เหรอ มีเรื่องอะไรให้ไปหาเขา!”

พี่เหลียงกล่าว

“อา! หวงหยงหาว คุณชายหวงหยงหาวแห่งซูเฉิง?”

แน่นอนว่าหูฮุ่ยหมิน และเพื่อนเคยได้ยินชื่อหวงหยงหาวเมื่อพวกเขามองหน้ากันใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสุข ถ้าหากหวงหยงหาวยอมช่วย นั่นถือว่าดีที่สุดแล้ว

“คงต้องเป็นอย่างนั้น คุณชายหวงรู้จักคุณชายหลายคน ครั้งก่อนที่แสดง ที่จริงแล้วคุณชายหวงจัดงานเพื่อคุณชายที่ลึกลับคนหนึ่ง ดังนั้นคุณชายหวงคงจะมีเส้นสายมากมาย ลองโทรหาเขาสักทีก็ได้แล้ว!”

“อือ ๆ ดี ฉันจะลอง!”

หยางอยู่เฟยพยักหน้า

เธอโทรไปหาหวงหยงหาว

ผ่านไปเพียงไม่นานทางนั้นก็รับสาย

หยางอยู่เฟยประหลาดใจมาก จากนั้นก็อธิบายรายละเอียดทั้งหมดของเรื่องนี้

หลังจากวางสายไป

หยางอยู่เฟยก็ยิ้มแล้วพูด “เอาล่ะ ๆ คุณชายหวงบอกว่าเรื่องนี้เขาจะช่วย ให้เขาลองติดต่อเส้นสายก่อน!”

“อา!”

หูฮุ่ยหมินและคนอื่น ๆ ดีใจมาก

โดยเฉพาะหูฮุ่ยหมิน ที่รู้สึกต้องรับผิดชอบ เธอกลัวจะเกิดความยุ่งยากที่สุดแล้ว

ในระหว่างรอสายจากคุณชายหวง หูฮุ่ยหมินและเพื่อนก็อยู่ใกล้ ๆหยางอยู่เฟย

ฟังเธอเล่าให้ฟังเรื่องงานเลี้ยงของคุณชายหวง

ได้พูดคุยกับดาราไอดอลระดับนี้อีกทั้งยังมีประสบการณ์ร่วมกัน ทุกคนตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก

และเฉินเกออยู่ตรงนี้ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี

เมื่อครู่เขาเตรียมตัวแล้ว ถ้าหากหวางเหวิน และเพื่อนมีเรื่องจริง ๆ เรื่องยุ่งนี้ถ้าเขาช่วยได้ก็จะช่วย

อย่างไรก็ตาม หยางอยู่เฟย จัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

ก็ไม่อาจจะนั่งดูพวกเขามีปัญหาได้

แต่ว่าตอนนี้ดีแล้ว เจ้าหาวรับปากจะช่วย ก็เหมือนกัน

แต่ผ่านไปไม่นาน วีแชทของเขาก็เด้งเข้ามา

เป็นข้อความของหวงหยงหาวนั่นเอง

“พี่ มีเรื่องอยากให้พี่ช่วย! เหอ ๆ!”

เฉินเกอได้แต่ยิ้มแหย ๆ และเดาได้ว่าเรื่องอะไรแต่ก็ยังถามกลับไป

สุดท้าย หวงหยงหาวอยากให้เฉินเกอช่วยพูดกับหลี่เจิ้นกั๋ว เพื่อเปิดทางเรื่องตระกูลหลิว

เรื่องบางเรื่อง หวงหยงหาวก็ไม่ชอบไปคุยกับพ่อของเขา แต่ชอบไปหาหลี่เจิ้นกั๋ว

แต่ไปรบกวนบ่อยตัวเองก็เกรงใจ

ตอนนี้เหรอ ก็ต้องเข้าหาเฉินเกอ

“ได้สิ!”

เฉินเกอหัวเราะแหะ ๆ จากนั้นก็พูดกับหลี่เจิ้นกั๋ว ซึ่งหลี่เจิ้นกั๋วก็รีบไปจัดการทันที

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง

หยางอยู่เฟยที่รอฟังข่าวอย่างร้อนรนและกำลังจะโทรกลับไปถามข่าวกับหวงหยงหาว

สุดท้ายผู้จัดการสถานที่วิ่งเข้ามา

“คุณหยาง มีเรื่องจะคุยกับคุณ เมื่อครู่คุณชายหลิวบอกว่าเรื่องนี้ให้ถือยุติแค่นี้ ครั้งนี้ถือว่าแล้วกัน! พวกคุณไปได้แล้วล่ะ!”

ผู้จัดการสถานที่กล่าว

“ดีเลย ขอบคุณมากนะคุณผู้จัดการ!”

หยางอยู่เฟยในที่สุดก็ถอนหายใจได้แล้ว

และหวางเหวินก็มองไปที่หูฮุ่ยหมินด้วยความตื่นเต้น ...

คุณชายหวงนี่เจ๋งสุดยอดไปเลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน