คนที่เดินเข้ามาในห้องมีชายหนึ่งหญิงสอง บวกกับผู้จัดการล็อบบี้อีกหนึ่งคน
ชายหนึ่งหญิงหนึ่งนี้ ดูแล้วก็คือนักศึกษาที่อยู่คณะข้างๆ
ผู้ชายหล่อสูง
หญิงสาวสองคนนั้น ใส่กระโปรงสั่น สวยงามน่ารัก
ดูแล้ว ก็คือรุ่นพี่ที่ไปหยอกล้อรุ่นน้องมา
ทุกครั้งที่เห็นแบบนี้ ในใจรู้สึกไม่ยุติธรรม นายว่าทำไมเราถึงไม่มีสาวสวยมาชอบบ้างนะ!
เห้ย.........
ชายที่สูงทักทายพวกเขาทีละคน
แล้วเห็นเฉินเกอที่นั่งอยู่ข้างๆ
“สวัสดี ผมชื่อตู้เหล่ยเรียนคณะบริหาร......เป็นเพื่อนกันได้ไหม?”
ชายคนนี้ยิ้มทักทายเฉินเกอ ดูก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่โอนอ่อนผ่อนตาม
หญิงสาวสองคนที่ข้างกายเขามองไปทางเฉินเกออย่างสงสัย
เพียงแต่ว่า หลังจากที่พวกเธอเห็นเครื่องแต่งกายบนตัวของเฉินเกอ ก็รู้สึกดูแคลนเล็กน้อย
“เห่อๆตู้เหล่ย นายไม่ต้องไปรู้จักเขาหรอก เขาชื่อเฉินเกอ เรียนอยู่คณะเดียวกับพวกเราเป็นคนโคตรจนเลย วันนี้มากินฟรี!”
หลี่เนี่ยนที่เป็นหัวหน้า แต่ก็ยังรู้จักตู้เหล่ย
แล้วหัวเราะทันที
“โอ้.......ผมก็นึกว่า เห่อๆ!”
หัวเราะอย่างจางๆ ตู้เหล่ยรีบดึงมือที่ยื่นออกไปกลับมา
หลังจากนั้นก็คุยกับพวกหวังหยางอย่างสนุกสนาน
ซูมู่หานโกรธมาก เธออยากพาเฉินเกอไปจากตรงนี้ เธอเสียใจมากที่พาเฉินเกอมาที่นี่
แต่เฉินเกอกลับมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ไม่มีอาการของคนที่ถูกดูแคลน อย่างนี้ทำให้ซูมู่หานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“เฉิน……เฉิน!”
แต่ผู้จัดการสาวของล็อบบี้ที่เดินมาด้วย ขณะที่เห็นเฉินเกอ ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เธอเพิ่งได้ยินพนักงานพูดเมื่อกี้ เศรษฐีที่มาครั้งก่อนวันนี้มาอีกแล้ว
แน่นอน หากเฉินเกอเป็นเศรษฐีธรรมดาๆ ผู้จัดการล็อบบี้ก็คงจะไม่มีอาการแบบนี้
เพราะพวกบริกรไม่รู้เรื่อง เธอรู้จักเฉินเกอผ่านทางผู้จัดการใหญ่ของห้องครัวเจียหยวนเป็นคนแนะนำ
คนนี้ เขาคือผู้ยิ่งใหญ่แห่งถนนการค้าจินหลิง เฉินเกอคุณชายเฉิน!
ตอนแรกที่ไม่กล้าพูด เป็นเพราะว่าเธอถูกคำพูดของพวกหวังหยางหลี่เนี่ยนทำให้สับสน
หรือว่าวันนี้ คุณชายเฉินไม่ใช่พระเอก
ผู้จัดการสาวที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ ได้เอ่ยแค่คำว่าเฉิน และไม่ได้พูดอะไรต่อ
“คุณมาได้ยังไง?”
เธอถามอย่างเบาๆ แต่ค่อนข้างตื่นเต้น
“อ้อ พี่สาวไม่ได้ยินเหรอครับ วันนี้ผมมากินฟรี!”
เฉินเกอยิ้มเล็กน้อย ในที่สุดก็มีคนจำได้ ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปสั่งอาหารข้างล่าง
“จ้าๆๆ ได้ยินแล้ว!”
ผู้จัดการสาวรีบพยักหน้า เสียงเธอเบามาก
“เอ๊ พี่จิน พวกเราแค่สั่งอาหาร ทำไมคุณถึงต้องมาด้วยตัวเอง?”
ถึงตอนนี้หวังหยางมองผู้จัดการหน้าล็อบบี้ ยิ้มขึ้นกะทันหัน เขารู้สึกมีหน้ามีตาขึ้นมาทันที!
แต่พี่จินคนนี้ไม่กล้าที่จะพูดต่อ
หวังหยางกลับมองอะไรไม่ออก สั่งอาหารอย่างสบายใจ
“พี่หยางสั่งเมนูพิเศษแค่สองอย่างเองเหรอ สั่งเมนูพิเศษเพิ่มอีกสองอย่างได้ไหม?”
เจิ้งเชียนเชียนพูดอย่างคาดหวัง
ห้องอาหารห้องครัวเจียหยวนนี้ ก็เพื่อมาลิ้มลองเมนูพิเศษไม่ใช่เหรอ
ถึงแม้เจียงเวยเวยก็อยากให้หวังหยางสั่งเมนูพิเศษเพิ่ม แต่ว่า เมนูพิเศษราคาแพงเกินไป เขาก็ไม่อยากให้หวังหยางเสียเงินเยอะเพราะพวกเธอ
รีบพูดขึ้น: “สองอย่างนี้ก็ดีมากแล้ว เมนูพิเศษราคาประมาณหนึ่งพันกว่าต่อหนึ่งเมนู!”
“ว้าว!”
เจิ้งเชียนเชียนอึ้งไปทันที
รวมทั้งหญิงสาวสองคนที่ตู้เหล่ยพามาด้วยก็อึ้งตามกัน
ชื่อเสียงของห้องครัวเจียหยวน ไม่ธรรมดาจริงๆ
“คุณ........ คุณจะทานอะไรดีคะ?”
ผู้จัดการล็อบบี้ถามอย่างระมัดระวัง
“ฮึ่ม รอให้พวกเรากินเหลือ ค่อยเอาให้เขากินก็พอ ยังจะให้เขาสั่งอาหาร?”
หลี่เนี่ยนทำเสียงฮึ่ม
“ใช่ๆ สถานะอะไร ยังจะมาสั่งต่างหาก?”
เจิ้งเชียนเชียนทำหน้าทำตาใส่แล้วพูด
หวังหยางที่ยิ้มอยู่ไม่พูดอะไร ตามจริงแล้ว เขารู้สึกว่าสั่งผัดเส้นมันฝรั่งให้เฉินเกอยังไม่คุ้มค่าเลย
ยังดีที่คืนนี้ได้ชวนหลี่เนี่ยนมา
ไม่อย่างนั้น หวังหยางยังไม่รู้ว่าอยู่ต่อหน้าซูมู่หานจะแดกดันเขายังไง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...