ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 510

บทที่510 วีรบุรุษช่วยสาวงาม

“เฮ้ย พี่ชาย!”

ลู่หานโบกมือให้ชายหนุ่มที่เข้ามาด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าว

“พวกเธอ........”

ชายหนุ่มที่เดินเข้ามายิ้มเล็กน้อย วางสัมภาระของตัวเองลง

พอดีข้างๆลู่หานยังมีโต๊ะว่าง ชายหนุ่มก็เลยนั่งลง

“โชคชะตาฟ้าลิขิต เมื่อกี้ตอนอยู่บนรถไฟคุยกันถูกคอมาก เดิมทียังอยากจะขอวีแชทของพี่ด้วย!”

ลู่หานกล่าว

“พอแล้วลู่หาน คนเขามากินข้าว อย่ารบกวนคนอื่นเลย!”

พี่สาวของลู่หานที่ชื่อลู่เสว่ได้เหยียบเท้าของลู่หานเบาๆ เพื่อเตือนเธอ

“ก็ใช่ไงลู่หาน ขอวีแชทอะไรกันน่ะ!”

ลู่ชาวก็กล่าวขึ้น

และเฉินเกอมองภาพที่อยู่ตรงหน้า เพียงแค่ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วยิ้มแหยๆ

เมื่อกี้อยู่บนรถไฟ เฉินเกอได้เจอกับสามพี่น้องตระกูลลู่

พูดแล้วยังมีอุบัติเหตุเล็กน้อย

นั่นก็คือสองสาวของตระกูลลู่ พอดีนั่งตรงข้ามกับเขา

และคนข้างกายของตัวเขานั้น เป็นชายแก่อายุเจ็ดแปดสิบปี ตลอดทางได้พิงนอนที่หน้าต่าง

ดังนั้นคนที่ชื่อลู่ชาวนั้น อยากที่จะมาขอเปลี่ยนที่นั่งกับเฉินเกอ

จริงๆมันก็ไม่มีอะไร

แต่ว่าลู่ชาวได้ยื่นเงินหนึ่งพันหยวนให้กับเฉินเกอ แล้วบอกให้เฉินเกอไปนั่งทางโน้น

หากพูดขอกันดีๆ เฉินเกอต้องเปลี่ยนให้แน่นอนอยู่แล้ว

ขณะนั้น จึงไม่ได้สนใจลู่ชาว

หากไม่ใช่ลู่หานห้ามปราม ทั้งสองเกือบจะปะทะกันแล้ว

จากนั้น ลู่หานก็ได้สนทนากับเฉินเกอ หนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา เฉินเกอขึ้นเหนือล่องใต้ เขาไม่ใช่เฉินเกอที่รู้จักแค่เมืองผิงอันกับเมืองจินหลิงอีกแล้ว

เพราะสนทนากันแล้ว เฉินเกอเล่าเรื่องเหนือใต้ ทำให้ลู่หานฟังอย่างหลงใหล

มองย้อนกลับไปทั้งสามคนคนที่โตสุดก็คือลู่เสว่ มีความสุขุมเล็กน้อย

ไม่ได้คุยกับเฉินเกอแม้แต่คำเดียว

ดังนั้น จึงได้เกิดภาพตรงหน้าขึ้น

“พี่จะไปไหนเหรอ? มาเรียนที่เจียงหลงหรือมาทำงานเหรอ?”

ลู่หานได้ถามอีก

“มาเที่ยวมั้ง!”

เฉินเกอพูดอย่างยิ้มๆ

“อ้อๆ งั้นฉันขอแนะนำที่ที่หนึ่งให้พี่ หลงเจียงมีสถานที่แห่งหนึ่งชื่อว่าวิลล่าไป๋น่า ข้างในนั้นสนุกมากๆเลย สามารถตีกอล์ฟ ยังสามารถขี่ม้า!”

ลู่หานกล่าว

“ที่ตรงนั้นคนธรรมดาเข้าไปได้เหรอ? เธอก็อย่าไปเป็นห่วงเรื่องคนอื่นเลย รีบกินข้าวเถอะ!”

ลู่เสว่นั้นที่ไม่ชอบเฉินเกอเลยแม้แต่น้อย ขณะนี้จึงพูดขึ้น

เห็นได้ชัดว่า พื้นเพของทั้งสามคนนี้ไม่ธรรมดา

ลู่เสว่นั้น เกิดมาก็เป็นคนที่มีความฝ่ายสูง จากทั้งสามคนเธอเป็นคนที่ติดดินน้อยที่สุด

ลู่เสว่ซึ่งคุ้นเคยกับการพบปะผู้คนระดับสูง เป็นปกติที่จะไม่เห็นคนธรรมดาอย่างเฉินเกออยู่ในสายตา แม้แต่เป็นเพื่อนยังไม่มีสิทธิ์

“ก็ได้!”

ลู่หานก็ไม่ได้พูดจาอีกต่อไป

เฉินเกอสั่งข้าวผัดไข่ นั่งกินอยู่ข้างๆอย่างสบายใจ

สามพี่น้องตระกูลลู่ที่อยู่ด้านข้างเพียงกินไปไม่กี่คำ

ก็เก็บข้าวของเตรียมจะจากไป

“เฮ้ย ฉันอยู่หลงเจียงพักอยู่ที่วิลล่าตระกูลลู่ มีโอกาสก็มาเที่ยวหาฉันนะ ฉันชื่อลู่หาน!”

ก่อนจะจากไป ลู่หานกระซิบกับเฉินเกออีกครั้ง

จากนั้นลู่เสว่ก็ถูกดึงตัวออกไป

“เจ้าเด็กน้อย ช่างไร้เดียงสาเสียจริง!”

เฉินเกอหัวเราะแห้งๆ

เขาไม่มีทางจะที่จะไปตระกูลลู่เพื่อหาลู่หานอย่างแน่นอน

ไม่ง่ายที่สองสามวันนี้สามารถหลีกเลี่ยงบรรยากาศความแค้น เฉินเกอจะได้พักผ่อนสบายๆ

ใช้โอกาสนี้ เฉินเกอยังได้ไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวของหลงเจียงมาหลายที่

ค่ำคืนนั้น ฟ้าค่อยๆมืดมิด เฉินเกอจึงนึกขึ้นได้ ต้องหาที่พักแล้ว

“พวกแกทำอะไรอะ?”

ทางเข้าซอยซอยหนึ่ง

ชายหนุ่มขี้เมาหลายคน ถูกกระชากลากถูหญิงสาวคนหนึ่ง กำลังเข้าไปในซอยตัน

“ทำอะไร แน่นอนก็เพื่อความสนุกไง มาสิ!”

ชายหนุ่มสามคน ลากหญิงสาวเข้าไปในซอย

หญิงสาวพยายามดิ้นรนต่อสู้

ทันทีที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินมา

เธอใช้แรงผลักคนเสเพลพวกนั้น

วิ่งไปจับแขนของชายหนุ่มไว้

“สามี พวกเขากำลังลวนลามฉัน!”

หญิงสาวร้องไห้กล่าว

ยังบีบที่แขนของใช้หนุ่ม เพื่อส่งสัญญาณให้เขาร่วมมือ

“สามี?”

และคนเสเพลสามคนนั้น ทันทีที่สบตากัน ก็มองชายหนุ่มที่เดินผ่านมาอย่างศัตรู

“พวกแกอย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ใช่สามีของเธอ!”

และชายหนุ่ม รีบโบกมือด้วยความกลัว

ทันใดนั้นหญิงสาวถึงกับมองบน

ว้าว ยังมีคนขี้ขลาดแบบนี้ด้วยเหรอ?

และคนเสเพลทั้งสามก็หัวเราะเสียงดัง: “ฮ่าฮ่าฮ่า สาวน้อย ฉลาดจังนะ อีกเดี๋ยว พี่จะสั่งสอนน้องเอง!”

คนเสเพลพูดๆอยู่ก็พุ่งเข้ามา

“ตำรวจ!”

และชายหนุ่มชี้ไปข้างหลังแล้วตะโกน

“ครั้งหน้าจะไม่กล้าทำอีกแล้ว!”

คนเสเพลทั้งสามรีบเอามือกุมหัวแล้วนั่งลงหันหลังมอง

อาศัยจังหวะนี้ “หนีเร็ว!”

ชายหนุ่มดึงหญิงสาวหันหลังวิ่งหนี

คนเสเพลทั้งสามวิ่งตามมาจากข้างหลัง

ในขณะนั้น หญิงสาววิ่งไม่ค่อยจะไหวแล้ว

พอดีชายหนุ่มเห็นฝาปิดท่อระบายน้ำ

พาหญิงสาววิ่งเข้าไป ใช้เท้าสะกิดเบาๆ ก็ทำให้ฝาระบายท่อได้ตั้งขึ้นมา จากนั้นก็เตะไปข้างหลังอย่างง่ายดาย

ป้าง!

เสียงดังทีเดียว ฝ่าท่อลอยขึ้นอย่างรวดเร็ว ไปกระทบคนเสเพลทั้งสามจนล้มลง

ภาพนี้ หญิงสาวไม่เห็นเลย

“ที่นี่แหละ ฉันวิ่งไม่ไหวแล้ว!”

มาถึงข้างสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

หญิงสาวหายใจเหนื่อยหอบ สองมือจับเข่าไว้

และชายหนุ่ม ก็คือเฉินเกอนั่นเอง

เฉินเกอยกกระเป๋าของเขาขึ้นมาดู และเหลือบมองไปที่สาวงาม

เป็นเพราะเธอกำลังก้มตัวอยู่ อีกครั้งสวมชุดกระโปรงสั้น ดังนั้นเวลานี้ ด้านหน้าของเธอเฉินเกอเห็นทรงอกที่ขาวดั่งหิมะอย่างชัดเจน ทันใดนั้นเฉินเกอมีความรู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะเอาสายตาไปวางไว้ที่ไหน

และหญิงสาวนั้น เพิ่งจะสังเกตเห็น รีบร้อนจับคอเสื้อตัวเองให้มิดชิด

ใบหน้าสวยแดงระรื่น

เธอกล่าวด้วยความเขินเอย: “ขอบคุณพี่ชายจริงๆเลย หากไม่ใช่พี่ คืนนี้ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”

“ไม่เป็นไร!”

เฉินเกอกล่าวอย่างเรียบเฉย

พูดจบ ก็จะจากไป

และหญิงสาวนั้น มียังมีอะไรคาใจอยู่

“รอก่อนพี่ชาย ฉันยังพูดไม่จบเลย ฉันพูดว่าพี่เป็นสามีของฉัน พี่แค่ร่วมมือแสดงหน่อยก็ไม่ได้เหรอ ทำไมต้องรีบร้อนปฏิเสธล่ะ?”

หญิงสาวถามอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

ผู้หญิงน้อ โดยเฉพาะผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดีอย่างเธอ จะใส่ใจมองมุมที่คนอื่นมองตัวเอง

เมื่อกี้ความรู้สึกที่เฉินเกอให้เขานั้น เหมือนกับกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นเมียของเขา

ทำให้หญิงสาวไม่ค่อยพอใจ

“ฉันมีแฟนแล้ว อีกอย่างถึงแม้ไม่แกล้งเป็นสามีเธอ ก็ช่วยเธอได้เหมือนกัน!”

“ฮึ พี่นึกว่าฉันจะ...........เหรอ!”

หญิงสาวเบ้ปาก อยากจะกู้หน้าตัวเองคืนมาหน่อย

แค่เดินก็รู้สึกปวดข้อเท้าทันที

“ซือ.......ขาของฉัน เหมือนจะพลิก!”

เฉินเกอส่ายหัว นั่งลงแล้วกล่าว: “เจ็บตรงไหน ฉันช่วยเธอดูเอง!”

“ไม่ต้องดูแล้ว พี่มีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะทำให้แฟนพี่เข้าใจผิด!”

หญิงสาวกล่าว

“งั้นเธอก็เดินกลับไปเองนะ!”

เฉินเกอพูดจบ ถือกระเป๋าก็จะจากไป

“แม่งเอ๊ย เฮ้ยๆๆๆ คนอย่างพี่ รู้จักอ่อนโยนใส่ใจผู้หญิงมั้ยอะ อย่างน้อยก็ควรที่จะพาฉันไปส่งโรงพยาบาลนะ !”

เฉินเกอหายใจเข้าลึกๆ

ก็ได้ย้อนกลับมา ผลักหญิงสาวให้นั่งลง

จากนั้นยกข้อเท้าของเธอขึ้นมา

หาตำแหน่งที่พลิก ค่อยๆหมุน

แคระเสียงเดียว

หญิงสาวกำลังตกใจว่าเขาจะทำอะไร

ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าข้อเท้าของตัวเองหายปวดแล้ว

“แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้วใช่มั้ย? ฟ้าจะมืดแล้ว ยังไงเธอควรรีบกลับบ้านไปซะ!”

รอก่อน

หญิงสาวได้ตะโกนเรียกเฉินอีกครั้ง

“มีอะไรอีก?”

“พี่ช่วยฉันขนาดนี้แล้ว ฉันควรที่จะขอบคุณพี่ เอางี้ละกัน ฉันเลี้ยงข้าวพี่อย่างนี้ดีมั้ย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน