เฉินเกอเห็นท่าทางของเจิ้งยวี่ ที่นี่เหมือนจะเกิดเรื่อง
จากนั้น ก็มองไปยังกลุ่มชายหญิงที่เจิ้งยวี่กำลังมองอยู่
ทันใดนั้น ก็รู้สึกเหนือความคาดหมายนิดหน่อย
ทั้งนั้นมีชายสองหญิงหนึ่ง หนึ่งในผู้ชายคนนั้น ดูเหมือนจะพูดค่อนข้างเก่ง ข้างหน้าเขาได้จอดรถมาเซราติไว้
ดูเหมือนค่อนข้างจะมีฐานะ
กำลังพูดคุยอยู่กับชายหญิงคู่นั้น
สิ่งที่ทำให้เฉินเกอรู้สึกเหนือความคาดหมายก็คือ ชายหญิงคู่นั้นเขาล้วนรู้จักดี
เพื่อร่วมห้องสวี่ตง แล้วก็เพื่อร่วมห้องของจ้าวยีฟานหลินเจียว
เชี่ย!พวกเธอทำไมถึงกลายเป็นคนรักได้ล่ะ?
เฉินเกอรู้สึกประหลาดใจมาก
และดูจากท่าทาง ดูเหมือนว่าเจิ้งยวี่จะรู้จักกับพวกเขา
เพราะชายคนนั้น ตอนนี้ได้มองมายังทางนี้ แถมยังวิ่งเข้ามาทางรถของเจิ้งยวี่ด้วยความดีใจ
“ให้ตายสิให้ตายสิ!อ่า!คุณชายเฉิน ฉันไม่ได้ด่าคุณนะ ฉันกำลังด่าเจ้าสวี่ชาวนั้น ฉันนึกไม่ถึงว่า เขาจะมาอยู่ที่นี่ ตามตื้อไม่เลิกจริงๆ!”
เจิ้งยวี่พูดด้วยความรำคาญ
แผนที่วางมาอย่างดิดี แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอกับสวี่ชาวที่นี่
เฉินเกอเข้าใจได้ในทันที
ดูจากท่าทาง เขาก็น่าจะเป็นคนที่ค่อยตามจีบเจิ้งยวี่
แต่ดูเหมือนว่าเจิ้งยวี่จะไม่ชอบเขาสักเท่าไหร่
สิ่งที่เฉินเกอไม่รู้ก็คือ ตรงกันข้าม ก่อนจะได้รู้จักกับเฉินเกอ เจิ้งยวี่ก็ชื่นชอบในตัวของสวี่ชาวอยู่ไม่น้อย
แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง โดยเฉพาะตอนนี้เฉินเกอได้เห็นสวี่ตงและหลินเจียวได้ยิ้มมาอย่างทางนี้แล้ว
ก็รู้สึกเกรงใจที่จะลงจากรถ
“เรื่องพวกนี้ เธอลงไปเคลียร์เถอะ ฉันจะรอเธออยู่ข้างในรถนี้ หลังจากเคลียร์เสร็จแล้ว ค่อยไปส่งฉันที่หน้าหอก็ได้!”
เฉินเกอเกาหัวอย่างช่วยไม่ได้
“ค่ะ คุณชายเฉิน!”
เจิ้งยวี่หลังตอบไปคำนึง ก็ลงจากรถไป
“สวี่ชาว ทำไมแกถึงอยู่ที่นี่ได้? อีกอย่าง เมื่อกี้แกจะโทรหาฉันอะไรนักหนา แกไม่รำคาญบ้างเหรอ?”
เจิ้งยวี่โกรธจนกระทืบเท้า
“ยวี่ยวี่ ฉันก็นึกไม่ถึงว่า จะเจอเธอที่นี่ ฉันแค่มาส่งน้องชายกับน้องสาวของฉันที่โรงเรียน ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนเธอเคยบอกว่า หลังจากนี้จะกลับมาดูที่โรงเรียนแม่บ่อยๆ ฉันถึงได้โทรไปหาเธอ กะจะนัดเธอมาเดินดูรอบๆ!”
สวี่ชาวพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “ยวี่ยวี่ ฉันจะแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือลูกพี่ลูกน้องของฉันสวี่ตง ปีนี้อยู่ปีสาม นี่เป็นน้องสาวของฉันหลินเจียว อยู่ฝ่ายกระจายเสียง อยู่ปีสามเหมือนกัน!”
“เฮ้ๆ สวัสดีครับพี่สะใภ้ พี่สะใภ้สวยมากเลย!”
พูดตรงๆ พอเห็นใบหน้าที่สะสวยของเจิ้งยวี่ แค่นี้ตาของสวี่ตงก็รู้สึกคุ้นแล้ว
จากนั้นก็พูดไปยิ้มไป
“ใครเป็นพี่สะใภ้ของแกกัน!ฉันไม่ใช่แฟนของสวี่ชาวสักหน่อย!”
ตอนนี้เจิ้งยวี่อยากจะไล่เจ้าสวี่ชาวคนนี้ให้ไปไกลๆ แน่นอนว่าไม่ได้แสดงสีหน้าที่ดีมากนะ
สวี่ตงรู้สึกตกใจ
ความจริงเมื่อกี้ตอนที่เป็นพี่คุยกับเจิ้งยวี่ในโทรศัพท์ เขาก็ได้ยินมาทั้งหมด น้ำเสียงของเจิ้งยวี่ช่างเย็นชาเหลือเกิน
ไม่เหมือนกับที่พี่พูดไว้เลย ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ ต้องค่อยเอาใจ
สถานการณ์ในตอนนี้ ท่าทางแบบนี้ รู้สึกมันจะไม่ค่อยดีแล้วนะ จะเอาใจยังไงล่ะ!
สวี่ชาวไม่รู้จะทำตัวยังไงดี
จากนั้นจึงรีบยิ้มแล้วพูดว่า “พอแล้วยวี่ยวี่ ไม่เล่นแล้ว ไป เธอเอารถไปจอดข้างๆ พวกเราสี่คนไปเดินดูรอบๆ!”
“ใครเล่นกับแกกัน สวี่ชาว ฉันพูดอย่างชัดเจนแล้วนะ ว่าระหว่างเราเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ฉันมีคนที่ชอบแล้ว แกรวยขนาดนี้ รีบไปหาผู้หญิงสวยๆคนอื่นเถอะ อย่ามาเสียเวลากับฉันเลย!”
เจิ้งยวี่พูดออกมาอย่างไม่ไว้หน้า
ตอนนี้ มีนักเรียนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาเดินเล่น ถูกดึงดูดสายตาด้วยภาพแบบนี้
คุณลองคิดดูสิ รถหรูสองคัน ชายหญิงกำลังทะเลาะกัน ยากมากที่จะไม่เป็นจุดสนใจ
โดยเฉพาะตอนนี้เจิ้งยวี่พูดเสียงดังมาก ทำให้สวี่ชาวทำอะไรไม่ถูก
“ยวี่ยวี่ เธอบอกฉันมาสิ คนที่เธอชอบเป็นใครกัน? เธออย่าบอกฉันนะว่า ก็คือคนที่ซื้อรถเบนซ์คันนี้ให้อย่างพ่อเลี้ยงคนนั้น? เขาใกล้จะหกสิบแล้วนะ!”
จู่ๆสวี่ชาวก็พูดด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น
“ให้ตายสิ สวี่ชาว แกจะพูดอะไรขอให้ใช้สมองคิดสักหน่อยนะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...