"คุณชายเฉิน คุณมาสอบใบขับขี่เป็นเพื่อนแฟนเหรอครับ?"
ตั้งแต่วันนั้นเจียงเฉิงก็รู้แล้วว่าเฉินเกอไม่ใช่คนธรรมดา
ลองคิดดูสิ 18 ล้านเนี่นนะ แม้แต่ตาก็ไม่กะพริบเลยด้วยซ้ำ
ต้องเป็นเศรษฐีแน่ๆ
และหลังจากนั้น เจียงเฉิงก็เคยไปสืบ แม้ว่าจะไม่ได้สืบถึงข้อมูลของคุณชายเฉินผู้ลึกลับคนนี้ แต่เขาก็รู้ว่าผู้จัดการของลัมโบร์กีนีนั้น ก็เป็นคนมีหน้ามีตาในทั่วทั้งจินหลิง แม้แต่เขาก็ยังเคารพเชื่อฟังเฉินเกอเลย
จึงเป็นธรรมดาที่จะคาดเดาออกมาได้ว่าเฉินเกอไม่ธรรมดา!
"เปล่าหรอก เราทั้งคู่ต่างก็มาสอบ!"
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งสองคนจะเคยแกล้งเฉินเกอ แต่ตอนนี้เฉินเกอเห็นเขามีมารยาทขนาดนี้ จึงตอบกลับอย่างสุภาพเช่นกัน
ฝ่ายซูหยิ่งกับหลี่เจี่ยนหนานขณะนี้ก็ตกตะลึงกันหมดแล้ว
นี่มันคุณชายเจียงนะ นึกไม่ถึงว่าจะพินอบพิเทาคนต่ำต้อยอย่างเฉินเกอจนขนาดนี้?
ทั้งสองคนจะไม่แปลกใจได้ยังไง
"ถ้างั้น เอาอย่างนี้ดีไหมครับคุณชายเฉิน บังเอิญว่าผมกำลังจะไปมหาวิทยาลัยจินหลิง ต้องการให้ผมพาคุณไปด้วยไหมครับ?"
เจียงเฉิงยิ้มและพูดขึ้น
คนอย่างคุณชายเฉิน จะต้องผูกมิตรเอาไว้ เพราะวันหน้าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองเป็นอย่างมาก
ติดรถคนอื่นไปสำหรับเฉินเกอแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไร และซูมู่หานก็เห็นด้วย
ดังนั้น พวกเขาก็ออกไปภายใต้สายตาอันประหลาดใจของซูหยิ่งกับหลี่เจี่ยนหนาน!
"เฉินเกอคนนี้ เป็นอย่างที่ซูมู่หานบอกว่าเป็นเศรษฐีรุ่นสองจริงๆหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมคุณชายเจียงถึงได้ปฏิบัติต่อเขาแบบนี้?"
ซูหยิ่งสีหน้าไม่น่าดูมาก
เดิมทีคิดว่าจะใช้โอกาสนี้ เอาชนะซูมู่หานคู่ปรับตลอดกาลซะหน่อย
ให้เธอแพ้ภัยตัวเองสักครั้ง
ต่อหน้าตัวเอง หล่อนจะไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้อีก
แม้ว่าการอวดแฟนรวยจะเป็นเรื่องที่หยาบคาย ทว่า ตราบใดที่ตัวเองมี แต่ซูมู่หานไม่มี นั่นก็เพียงพอแล้ว!
ซูหยิ่งกระทืบเท้าด้วยความโมโห
"ฮึ เสี่ยวหยิ่งเธออย่าเพิ่งด่วนสรุปขนาดนี้ ที่มหาวิทยาลัยจินหลิงฉันก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อน เธอรอก่อน เดี๋ยวฉันจะตรวจสอบเฉินเกอคนนี้สักหน่อย ดูซิว่าเขามีภูมิหลังยังไง!"
หลี่เจี่ยนหนานกล่าวอย่างชิงชัง
เพราะว่าคราวนี้ ไม่เพียงแต่ซูหยิ่งเท่านั้นที่กล้ำกลืนความอับอาย เขาเองก็โดนเฉินเกอตบหน้าไปแล้วด้วย
แต่หลังจากที่เจียงเฉิงส่งเฉินเกอกลับไปแล้ว
แถมยังหน้าด้านขอบัญชีวีแชทของเฉินเกออีก
คนนี้ขี้ประจบจริงๆ
เฉินเกอนั่งรถของเขาแล้ว คิดจะปฏิเสธก็คงจะไม่ดีจริงๆ
ช่างเถอะ เพื่อนเพิ่มมาคนหนึ่งก็ดีกว่าศัตรูเพิ่มมาคนหนึ่ง!
หลังจากปฏิเสธคำเชิญรับประทานอาหารของเขาอีกครั้งแล้ว เฉินเกอกับซูมู่หานก็เดินเคียงคู่กันไปยังมหาวิทยาลัย
พูดตามตรงเฉินเกอก็เคยเดินกับซูมู่หานแบบนี้มาก่อน
แต่แน่นอนว่าไม่ได้มีความรู้สึกแปลกๆแบบนี้
เพราะคิดไม่ถึงว่าเมื่อกี้ซูมู่หานจะบอกว่าเธอเป็นแฟนของเขา
เฉินเกอยังไม่ต่ำต้อยถึงขนาดไปแอบดีใจเพราะได้เป็นแฟนจอมปลอมของใครสักคน ที่น่าแปลกก็คือเฉินเกอมีความรู้สึกบางอย่างต่อเธอ แถมเมื่อกี้ยังได้เป็นแฟนจอมปลอมของเธออีกด้วย
ทั้งสองขัดแย้งกันมาก เป็นความสุขก็ไม่ใช่ไม่สุขก็ไม่เชิง แต่ก็ไม่ได้ไม่พอใจที่ถูกคนอื่นหลอกใช้
เพียงแค่ช่วงนี้ เฉินเกออยู่ในอารมณ์เช่นนี้
"เฉินเกอขอโทษนะ เมื่อกี้......เพราะฉันรีบร้อนไปหน่อย ก็เลยบอกว่านายเป็นแฟนของฉันโดยไม่ได้ถามนายก่อน!"
ซูมู่หานก็รู้สึกอับอายอยู่บ้าง
"ไม่เป็นไร แบบนี้ไม่ดีรึไง? หน้าคุณก็กู้เอาไว้ได้แล้ว แถมผมยังได้เป็นแฟนที่สวยมากขนาดนี้มาเกือบชั่วโมงแล้วด้วยนะ!"
เฉินเกอหัวเราะขมเสียงหนึ่ง
ดวงตาของซูมู่หานเบิกโพลง: "เฉินเกอ นายรู้จักพูดจากะล่อนเหมือนไอ้หนุ่มพวกนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ฉันเกลียดไอ้หนุ่มกะล่อนพวกนั้นที่สุด!"
“พูดแบบนี้ตอนนี้คุณเกลียดที่ผมกะล่อนงั้นเหรอ?” ช่วงนี้เฉินเกอก็ยิ่งพูดยิ่งอาจหาญขึ้นมาแล้ว ไม่ได้มีความรู้สึกยับยั้งชั่งใจแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
"ฮึ ถึงแม้ว่าฉันจะเกลียดไอ้หนุ่มพวกนั้น แต่ฉันก็ไม่ได้เกลียดความกะล่อนของนาย อยากเกลียดก็เกลียดไม่ได้ด้วยซ้ำ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...