"ผู้อาวุโสโถ้ป๋าจี้ พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้ว!" ผู้นำที่อยู่ด้านหน้าคนสิบกว่าคนก็คือผู้อาวุโสสามของตระกูลหลิน หลินตงหยวน
“ผู้อาวุโสหลิน เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลหลินของคุณ ไหนบอกว่าจะระดมยอดฝีมือทั้งหมดในตระกูลขึ้นมาบนยอดเขาชางฉอง ตระกูลหลินของคุณกลับส่งคนมาแค่สิบกว่าคน คิดจะมาแกล้งเปิดการแสดงให้ตระกูลโถ้ป๋าของเราดูหรือไง?”
โถ้ป๋าจี้สองมือไพล่หลังและแค่นเสียงออกมา
“เรื่องนี้พวกเราเองก็ช่วยไม่ได้ ยอดฝีมือหลายคนในตระกูลถูกส่งออกไปแล้ว ตอนนี้เหลือคนเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น ผู้อาวุโสไท้เสียงของเราบอกแล้วและได้ออกคำสั่งให้ยอดฝีมือทุกคนรีบกลับมายังตระกูลโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องที่ว่าพวกเขาจะมาทันหรือไม่นั้น พวกเราก็ไม่ทราบแล้ว"
หลินตงหยวนแสร้งทำตัวน่าสงสาร จากนั้นก็นำพูดที่หลินเต้าเทียนกำชับมาล่วงหน้าเล่าออกมาทั้งอย่างนั้น
"หึ"
เห็นชัดว่าโถ้ป๋าจี้ไม่เชื่อในสิ่งที่หลินตงหยวนกล่าว
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก จะให้เขาไปดูที่ตระกูลหลินเองว่ายอดฝีมือคนอื่นไม่อยู่ในตระกูลหรือไม่ก็คงจะเป็นไปไม่ได้
“ผู้อาวุโสโถ้ป๋า ตระกูลของโถ้ป๋าของคุณเตรียมตัวยังไงบ้าง?” หลินตงหยวนเหลือบมอง เมื่อเห็นยอดฝีมือตระกูลโถ้ป๋าหลายสิบคนที่ยืนอยู่ข้างหลังโถ้ป๋าจี้ ในใจเขาก็รู้ดีว่าตระกูลโถ้ป๋าส่งยอดฝีมือมาทั้งหมดแล้ว
“พวกเราเตรียมพร้อมแล้ว แต่ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของคุณจะไม่สนใจให้ความร่วมมือนี้มากเท่าไหร่ ฉันว่ารอให้พรุ่งนี้ผู้อาวุโสเสียงมาถึงก็จำเป็นต้องหารือเกี่ยวกับสิทธิ์ความเป็นเจ้าของจิตเทพเก้าภพ สักหน่อย!” โถ้ป๋าจี้ไม่ต้องการจะคุยกับคนตระกูลหลินเลยสักนิด
“ไม่มีปัญหา ฉันเองก็บังเอิญมีคำพูดสองสามคำกับผู้อาวุโสไท้เสียงอยู่เหมือนกัน ผู้อาวุโสไท้เสียงดูเหมือนจะไม่ได้สนใจจิตเทพเก้าภพ มากสักเท่าไหร่ ถ้าตระกูลหลินของคุณต้องการ ก็รับไปซะเถอะ!”
หลินตงหยวนโบกมือ
ยังไงเสียหลังจากจัดการเฉินเกอในวันพรุ่งนี้แล้วพวกเขาก็จะถือโอกาสกำจัดยอดฝีมือเหล่านี้ของตระกูลโถ้ป๋าต่อไปด้วยเลย ต่อให้ตอนนี้สัญญาไปว่าจะยกทพจิตเก้าภพให้พวกเขาแล้วจะมีอะไรกัน
“จริงหรือ?” โถ้ป๋าจี้เหลือบมองเล็กน้อย
เหตุผลที่พวกเขาลงมือกับเฉินเกอก็เพราะจิตเทพเก้าภพ หากตระกูลหลินไม่ต้องการมัน อย่างนั้นมันก็จะตกมาอยู่ในมือของตระกูลพวกเขาอย่างแน่นอน
แต่เขากลับไม่รู้ว่าทำไมตระกูลหลินถึงไม่ต้องการมัน
“ฉันเป็นถึงผู้อาวุโสสามของตระกูลหลิน สิ่งที่พูดออกมาไหนเลยจะเป็นเท็จ!” หลินเต้าเทียนไม่ได้มองโถ้ป๋าจี้
เขาพายอดฝีมือของตระกูลสิบกว่าคนขึ้นไปบนยอดเขา ขณะที่หลินตงหยวนกำลังนั่งบนหินเพื่อทำสมาธิ เขาไม่คิดจะพูดอะไรมากนักกับโถ้ป๋าจี้ หลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายค้นพบพิรุธในคำพูดของตนและมองออกถึงแผนการของตระกูล
เมื่อเห็นว่าหลินตงหยวนไม่พูดไม่จา โถ้ป๋าจี้ก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อ
หนึ่งคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบนยอดเขาชางฉองจะค่อนข้างหนาวเหน็บ แต่สำหรับผู้ฝึกพลังวิชาแล้ว นี่ไม่ถือว่าเป็นอะไร
เช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากตื่นนอนและรับประทานอาหารเช้า เฉินเกอก็เดินออกจากคฤหาสน์เพียงลำพัง
ไป๋เสี่ยวเฟยคิดอยากจะตามมา แต่กลับถูกเฉินเกอเกลี้ยกล่อมให้เขาอยู่ปกป้องเหลียงลู่ในคฤหาสน์
ต้องรู้ว่า นี่ถือเป็นการต่อสู้กับสองตระกูลผู้ฝึกพลังวิชา แม้ว่าไป๋เสี่ยวเฟยจะมาจากกองทัพ แต่เขาก็มีเพียงทักษะการเตะต่อยเพียงสองสามทักษะเท่านั้น เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ฝึกพลังวิชาเลยสักนิด
หากขึ้นไปบนยอดเขาชางฉองด้วยกัน ไม่เพียงแต่จะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ยังอาจต้องการความช่วยเหลือจากตน หากพาภาระไปด้วย เฉินเกอก็ไม่แน่ใจว่าตนจะเอาชนะคนเหล่านั้นได้
ใครจะรู้ว่าตระกูลหลินและตระกูลโถ้ป๋าได้วางกับดักเอาไว้มากมายเพียงใด
“พี่เฉิน นายควรระวังหน่อยล่ะ” ไป๋เสี่ยวเฟยยืนอยู่ที่ประตู เขามองดูเบื้องหลังของเฉินเกอที่ค่อยๆ เดินออกจากคฤหาสน์ไปและตะโกนบอก
“ไม่มีปัญหา” เฉินเกอไม่หยุดฝีเท้าและโบกมือกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...