"งั้นก็ไม่พูดเรื่องนี้ ดื่มต่อกันเถอะ!" เฉินเกอไม่ได้ถามต่อ แต่ทำมือส่งสัญญาณให้ ไป๋เสี่ยวเฟยนำเหล้ามาอีกสองสามขวด
"น้องชายฉันบอกกับนายตามตรง ฉันไม่ได้สะใจแบบนี้มานานมากแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าตระกูลหลักคิดอะไรอยู่ ถึงได้ออกคำสั่งไม่ให้ดื่มเหล้านี้ขึ้นมา ฉันแค่ดื่มเหล้าไม่ได้ไปก่อเรื่องสักหน่อย ทำไมถึงดื่มไม่ได้กัน!"
พูดไป เฉินเทียนยิ่งก็ตบโต๊ะอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็ดื่มเหล้าอึกใหญ่ใส่ท้องของเขา
"อย่ากังวลไปเลยพี่เฉิน ตราบเท่าที่นายต้องการดื่ม ก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ ฉันรับรองว่านายจะได้ดื่มอย่างหนำใจ!" เฉินเกอจำคำพูดของเฉินเทียนยิ่งเอาไว้
หากตนเดาไม่ผิดล่ะก็ เฉินเตี๋ยนชางและพวกผู้ที่มีพลังค่อนข้างสูงน่าจะเป็นตระกูลหลัก ในขณะที่คนแบบเฉินเทียนยิ่งก็คือตระกูลย่อย ส่วนรายละเอียดนั้นแน่นอนว่ายังไม่อาจตัดสินใจได้เพียงแค่สองหรือสามประโยคเท่านั้น
"ขอบคุณ ขอบคุณ!" เฉินเทียนยิ่งหัวเราะลั่น
"อ้อใช่พี่เฉิน เมื่อครู่ฉันเห็นพวกนายราวกับกำลังขนย้ายสิ่งของ เกิดอะไรขึ้นหรือ?" เฉินเกอฉวยโอกาสถามต่อ
"อย่าพูดถึงมันเลย มันเป็นสิ่งที่ตระกูลหลักต้องการ พวกเราคนตระกูลย่อย มองดูแล้วถือเป็นหนึ่งตระกูล แต่อันที่จริงกลับแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว คนในตระกูลหลักแต่ไหนแต่ไรไม่เคยออกจากเกาะ ดังนั้นของใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนต้องเป็นตระกูลย่อยเราที่ออกไปหาซื้อมาให้"
"นี่มันแทบไม่ต่างจากคนใช้" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เฉินเทียนยิ่งก็โกรธขึ้นมาอยู่บ้าง "แต่ว่าน้องชายฉันก็แค่บ่นๆออกมาต่อหน้านายเท่านั้น เรื่องนี้นายทำเป็นไม่ได้ยินก็พอ"
"อย่างนั้นก็ดื่มกันเถอะ" เฉินเกอไม่ได้ถามต่อ
เขากังวลว่าถ้าถามคำถามมากเกินไปในคราวเดียว แม้ว่าเฉินเทียนยิ่งจะเมา แต่เขาก็ยังอาจจะยังตื่นตัวอยู่บ้าง แค่ข้อมูลที่ได้รับมาในตอนนี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เฉินเกอมองลงไปที่เฉินเทียนยิ่ง เมื่อเห็นว่าเขาเมาแล้วก็ผล็อยหลับไปบนโต๊ะ ก็เดินออกจากห้องไป
ในห้องที่อยู่ติดกัน เฉินเกอและซินแสกุ่ยนั่งเผชิญหน้ากัน
"นั่นคือข้อมูลทั้งหมด ฉันจะดูว่าผ่านไปอีกสองวันจะสามารถถามอะไรได้อีกบ้าง" เฉินเกอนำสิ่งที่เฉินเทียนยิ่งพูดออกมาเล่าให้ซินแสกุ่ยฟัง
"ตระกูลหลักตระกูลย่อย?" ซินแสกุ่ยขมวดคิ้ว ชื่อพวกนี้ หายไปจากเซี่ยหัวมาเป็นเวลากว่าหลายร้อยปีแล้ว ตอนนี้มีเพียงตระกูลผู้ฝึกตนเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น ไหนเลยจะมีการแบ่งแยกตระกูลหลักตระกูลย่อย
"อีกทั้งเกาะโยวหลงก็อยู่ใกล้ที่นี่" เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หมัดของเฉินเกอก็กำแน่นอีกครั้ง เมื่อคิดว่าพ่อแม่ของเขาอาจถูกทรมานในมือของเฉินเตี๋ยนชาง เขาก็แทบต้องการจะฆ่าคนทันที
"อย่าเพิ่งตื่นเต้นไป การรู้เรื่องพวกนี้แปลว่าเราเข้าใกล้เกาะโยวหลงมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว นายจะต้องเก็บอารมณ์เอาไว้และอย่าทำอะไรพลีผลามเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นสิ่งที่พวกเราทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ จะถือว่าศูนย์เปล่าแล้ว" ซินแสกุ่ยเมื่อเห็นเฉินเกอเกิดความตื่นเต้นปั่นปวนขึ้นมาอยู่บ้างก็รีบเอ่ยปลอบอย่างรวดเร็ว
"ฉันรู้" เฉินเกอสูดหายใจเข้าลึก และระงับอารมณ์ภายในใจของเขาลง
หนึ่งคืนผ่านไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งรุ่งสาง เฉินเทียนยิ่งก็ลุกขึ้นมาจากโต๊ะ เขาออกแรงทุบไปที่หัวซึ่งปวดอยู่บ้าง เมื่อคืนเขาดื่มเหล้าขาวไปสามขวด จนทำให้ร่างกายเขาปวดเมื่อยไปทั้งตัว
เมื่อมองไปที่ขวดเหล้าตรงหน้า เฉินเทียนยิ่งก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้อย่างละเอียด
เมื่อเขาคิดได้ว่าเป็นเฉินเกอที่เรียกให้เขามาดื่ม เขาก็ตื่นตะลึงไปและรีบออกจากห้องไป
"พี่เฉิน คุณจะไปไหนน่ะ" เมื่อเฉินเทียนยิ่งก็เป็นเวลาที่เฉินเกอเพิ่งเข้ามาพอดี ทั้งสองคนปะเข้าด้วยกัน
"น้องชาย หลังจากที่ฉันเมาไปเมื่อวานนี้ ฉันไม่ได้พูดอะไรใช่ไหม?" เฉินเทียนยิ่งถามด้วยรอยยิ้ม หากเขาบอกความลับเรื่องตระกูลเฉินผู้ฝึกตนออกไป เกรงว่าชีวิตเขาคงมีแต่หาทางความตายแล้ว
"พูดแล้ว" เฉินเกอพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...