"จากนี้ไป เขาจะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของ เฉินอาผิงและเข้าร่วมกิจกรรมกับพวกคุณ!" เจ้าหน้าที่หน่วยรบโวกั๋วที่อยู่ข้างเขาเอ่ยแนะนำ
"ทหารหน่วยรบพิเศษของหนานเยว่?"
ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหลอยู่บ้าง เรื่องการหายตัวไปของ เฉินอาผิงทหารหน่วยรบพิเศษของหนานเยว่ พวกเขาล้วนรู้ดีอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เมื่อจู่ๆ เห็นทหารหน่วยรบพิเศษคนอื่นของหนานเยว่เข้าก็ยังอดประหลาดใจไม่ได้
"ฉันจะมาแทนที่ เฉินอาผิงในการแข่งขันหน่วยรบพิเศษ" ใบหน้าของชายผู้นั้นดูดุดันเล็กน้อย อีกทั้งดวงตาก็ไม่เป็นมิตรอย่างยิ่ง เขามองไปรอบๆ ก่อนจะพูดขึ้น
แม้ว่าเขาจะดึงดูดสายตาของทุกคน แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยอะไร ท้ายที่สุดแล้วสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับหนานเยว่ ไม่มีใครอยากรนหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเอง
ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีใครรู้แน่ว่าทหารหน่วยรบพิเศษผู้จะมาแทนที่ เฉินอาผิงคนนี้ มาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันหรือเพื่อสอบสวนเรื่องนี้กันแน่
แต่สิ่งเดียวที่แน่ใจได้ก็คือ หากเกิดมีคนเข้าใจผิดคิดว่าตนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ เฉินอาผิงนี่ก็จะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน
"ทหารหน่วยรบพิเศษของหนานเยว่" ขณะนั่งพิงหน้าต่าง เฉินเกอก็ได้ยินเสียงด้านล่างอย่างชัดเจน เมื่อมองไปที่คนผู้นี้ เฉินเกอก็ส่ายหัวและยิ้มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
"ที่นายทำไม่มีปัญหาอะไร พวกเขาก็จะสืบมาไม่ถึงเรา" ซินแสกุ่ยพยักหน้า
"เรื่องนี้ไม่ต้องกังวลไป ลู่เฉิงคุนผู้รักษาการคนใหม่ของหนานเยว่เป็นพวกขี้ขลาด ตอนที่ออกจากหนานเยว่ เขาโทรหาฉันพูดจาด้วยความเคารพเพราะกลัวว่าฉันจะไม่ยอมจากไปและรั้งอยู่ในหนานเยว่ของพวกเขาต่อ"
"ให้ฉันเดา คนคนนี้ก็แค่ต้องการตำแหน่งนี้เท่านั้น ตราบใดที่เขาสามารถรักษาตำแหน่งผู้รักษาการได้และกุมอำนาจไว้ในมือ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่สำคัญสำหรับเขา" เฉินเกอจุดบุหรี่
นึกถึงตอนที่อยู่ในหนานเยว่ เฉินเกอก็ตัดสินใจว่า รอให้ได้วิธีเข้าสู่เกาะโยวหลงแล้ว เขาจะกลับไปที่ซากโบราณสถานอีกครั้ง
คราวที่แล้วเขารีบไปรีบกลับ และทำแต่เพียงเอาภาพไห่ซินออกมาเพื่อดูสถานการณ์ในปัจจุบันเท่านั้น ตัวเขายังไม่รู้ถึงความลับของภาพไห่ซินเลย อีกทั้งเฉินเกอก็เชื่อว่าซากโบราณสถานไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ตนเห็น
กลับไปครั้งนี้ ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไขความลับที่มีบนภาพไห่ซินได้
"แบบนี้ ก็คงไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเรา" คำพูดของเฉินเกอทำให้ซินแสกุ่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาไม่ได้กลัวเรื่องพวกนี้ เพียงแต่กังวลว่าสถานการณ์ตอนนี้ออกจะประดังประเดกันเข้ามา ส่วนเขาก็ไม่สามารถช่วยได้ แถมยังจะเป็นตัวถ่วงของเฉินเกอและไป๋เสี่ยวเฟยด้วย นี่เป็นสิ่งที่เข้าไม่อยากทำ"
"ภัยคุกคามคงไม่มี แต่จะสร้างปัญหาให้กับพวกเรา" เมื่อได้ยินคำพูดนี้เฉินเกอก็หัวเราะและพูดติดตลก
สองคนหยอกล้ออยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็กลับไปที่ห้อง
การฝึกของทหารหน่วยรบพิเศษไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา เฉินเกอเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งนี่หมายความว่าไป๋เสี่ยวเฟยและทาตายุยังคงปลอดภัยอย่างมากที่นี่
เฉินเกอนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับบุหรี่ จากนั้นก็นึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้
ตระกูลเฉินจากเกาะโยวหลง
ไท่หยางเหมิง
รวมทั้งตระกูลคิมคาวะและตระกูลโคชิซึ่งตอนนี้ได้มีการพบปะกันเกิดขึ้น
แม้กระทั่งตระกูลยามาชิตะที่มีนินจาลึกลับนั่น เฉินเกอก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมชายชราจึงช่วยเหลือตัวเอง อีกทั้งสำเนียงของเขายังดูเหมือนว่าเขาจะยังเป็นชาวหัวเซี่ยด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...