หวังเสี่ยวถีสาดไวน์ใส่เฉินเกอ
บ้าแล้ว ผู้หญิงคนนี้ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ
“เสี่ยวถีเธอเป็นอะไรไป”
หานเฟยเอ๋อไม่รู้ตัวเลยว่าที่หวังเสี่ยวถีเป็นอย่างนี้เพราะอิจฉาเธอ ยังถามออกไปด้วยความตระหนกตกใจ
“ฉันไม่เป็นไร เฟยเอ๋อ วันนี้ฉันไม่สบาย ฉันขอตัวกลับก่อนนะ”
หวังเสี่ยวถีทิ้งโทรศัพท์ไว้แล้วถือแต่กระเป๋ากลับไป
เธอเองก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าตัวเองเป็นอะไรไป
พี่ผิงผันเป็นคนเก่งมาก แล้วเขาก็ไม่ได้รู้จักเธอสักหน่อย ทำไมเธอต้องหึงพี่ผิงผันขนาดนี้ด้วยล่ะ
ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย
เมื่อสักครู่ ขณะที่ทุกคนกำลังพูดเรื่องที่พี่ผิงผันแอบรักหานเฟยเอ๋อ หวังเสี่ยวถีรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมาก
ผู้หญิง เป็นสัตว์ที่มีความอิจฉาริษยาติดตัวมาตั้งแต่เกิด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้หญิงสวยกับผู้หญิงสวยมาเจอกัน
ดังนั้นเธอจึงยิ่งโมโห แต่ทำอะไรหานเฟยเอ๋อโดยตรงไม่ได้ เลยไประบายอารมณ์ใส่เฉินเกอแทน
ทำเหมือนไม่เคยเห็นเฉินเกออยู่ในสายตามาก่อน เธอเมินใส่เฉินเกอแล้วจากไป
“เหอะ ต้องโทษนายนั่นแหละเฉินเกอ ทำให้โมโหเสี่ยวถี ฉันนี่ผิดหวังจริง ๆ เรียกให้นายมาเพื่ออะไรน่ะ”
สายตาของหานเฟยเอ๋อที่มองไปยังเฉินเกอดูเย็นชา
แต่เฉินเกอเข้าใจสิ่งที่หานเฟยเอ๋อสื่อออกมาที่ไหนกันล่ะ ตอนนี้เขาเหมือนอยากจะแก้แค้นหวังเสี่ยวถีมากกว่า
ดังนั้นเขาจึงตามออกไป
หึ สาดไวน์ใส่ฉันแก้วหนึ่ง ทั้งยังด่าฉันชุดใหญ่ คิดจะกลับไปง่าย ๆ แบบนี้เหรอ
เฉินเกอไม่ใช่เฉินเกอคนเก่าแล้ว
เขาตัดสินใจที่จะตบหน้าหวังเสี่ยวถีสักฉาด
แต่เมื่อเขาตามออกมา กลับไม่พบแม้แต่เงาของหวังเสี่ยวถี นั่นยิ่งทำให้เฉินเกอโกรธแค้นมาก
ขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเฉินเกอก็มีข้อความจากQQเข้ามา
เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นข้อความที่ส่งมาจากเฮาหลานลัน เพื่อนร่วมชั้นเรียนของเขานั่นเอง
วันนี้เธอไม่สบายหนักมาก ดังนั้นจึงไม่ได้มาร่วมงานฉลองความสำเร็จของหานเฟยเอ๋อ
แต่เมื่อเปิดอ่านข้อความ หนังตาของเฉินเกอก็กระตุกเล็กน้อย
“เฉินเกอ นายว่าทำไมคนเราถึงได้พบกับความเจ็บปวดบ่อยครั้ง ฉันเป็นภาระของคนในครอบครัว ฉันไม่สามารถช่วยเหลืออะไรที่บ้านได้เลย ฉันต่อสู้ดิ้นรนมาทั้งชีวิต แต่กลับสู้คนอื่นไม่ได้เลย ฉันนี่มันไร้ประโยชน์เหลือเกิน ฉันทำให้พ่ออับอายสู้หน้าใครไม่ได้ แม้แต่เสื้อผ้าชุดใหม่ของน้องสาวฉันก็ไม่มีปัญญาซื้อให้ ตอนนี้น้องสาวฉันป่วย ฉันเป็นพี่สาว แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย ทำได้แต่เฝ้าดูเธอ แม้แต่โรงพยาบาลก็ไปไม่ได้ ที่บ้านเอาเงินให้ฉันหมดแล้ว แต่ฉันกลับตอบแทนอะไรไม่ได้เลยสักนิด”
“เฉินเกอ นายว่าฉันควรทำยังไงถึงจะไม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้”
เฮาหลานลันส่งข้อความยาวมากหาเขา
เฉินเกอเข้าใจแล้วว่าบ้านของ เฮาหลานลันเกิดปัญหา เธอช่วยอะไรไม่ได้เลยได้แต่โทษตัวเองอยู่แบบนี้ ยิ่งประโยคสุดท้ายที่เธอพูดนั้น เฉินเกอรู้สึกว่าเธอมีความหมายแฝงอย่างอื่น
เฉินเกอรู้สึกตกใจ
เฮาหลานลันเธอเป็นสมาชิกคนหนึ่งในกลุ่มบ้านยากจนของเขา ปกติเธอเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่จากที่เฉินเกอพิจารณาเธอ ถึงแม้ภายนอกเธอจะดูต่ำต้อยด้อยค่า แต่ภายในใจเธอกลับแข็งแกร่งมาก
อยากดีกว่าคนอื่นทุกอย่าง
อีกทั้งเขามองออก ว่านอกจากเธอจะอยากมีชีวิตที่ไม่ต้องกังวลใจอะไรเหมือนอย่างคนอื่นแล้วนั้น เธอยังมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น
ข้อนี้ เธอเข้มแข็งกว่าเขามาก
แต่ความเป็นจริงมันโหดร้าย ยิ่งเธอคิดมากไป ผลลัพธ์ที่ได้ยิ่งกลายเป็นตรงกันข้าม
ฉะนั้น ปัญหาที่ฝังอยู่ในใจเฮาหลานลันมันมีมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นวันสองวันนี้ ครั้งนี้น้องสาวเธอป่วย แต่เธอกลับไม่มีเงินสักบาท
กลัวว่าปัญหานี้จะทำให้เธอยิ่งรู้สึกแย่
เฉินเกอเข้าใจความรู้สึกนี้ดี
เป็นห่วงว่าเธอจะคิดสั้น เฉินเกอจึงรีบตอบข้อความ :
“เฮาหลานลัน เธออยู่ไหน อยู่ที่หอพักหรือเปล่า”
“อืม อยู่”
เฮาหลานลันตอบกลับอย่างรวดเร็ว ในชั้นเรียนคนที่เธอสามารถพูดด้วยได้นั้นมีน้อยมาก เฉินเกอถือเป็นหนึ่งในบรรดาคนที่เธอพูดคุยด้วยมากที่สุดแล้ว
เฉินเกอคิดในใจว่ายัยพิธีกรหวังเสี่ยวถีนั่นไม่รู้หายไปไหนแล้ว เขากลับเข้าไปด้านในดีกว่า ยังไงก็ต้องเผชิญหน้ากับการถูกเหน็บแนมจากพวกหานเฟยเอ๋ออยู่ดี
จะให้เปิดเผยตัวตนเหรอ เฉินเกอไม่อยากทำอย่างนั้น
ถึงเขาจะไม่ได้สนิทกับเฮาหลานลันมากมาย แต่เธอก็ทำงานอยู่ในกลุ่มบ้านยากจนมาสามปีแล้ว จึงมีความเข้าอกเข้าใจกันดี เฉินเกอทนไม่ได้ที่จะเห็นเฮาหลานลันมีสภาพแบบนี้ต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...