บทที่ 124 การกระทำน่าเกลียด
“โจวซือเหยียเป็นคนจากตระกูลโจว แม้ว่าเขาจะทำงานกับนายอำเภอจาง แต่ก็ไม่ใช่คนของนายอำเภอจาง ในทางกลับกันนายอำเภอยังต้องฟังโจวซือเหยียผู้นี้ในหลาย ๆ เรื่องด้วย”
จางปู่โถวพูดเบา ๆ
“เพราะเหตุใดกัน?”
จินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจ
เพราะความเป็นจริงแล้ว ซือเหยียถือว่าเป็นลูกน้องของนายอำเภอ เรื่องใดก็ตามที่ไม่เหมาะให้นายอำเภอเป็นผู้ออกหน้าก็จะมอบหมายให้ซือเหยียเป็นคนจัดการ
ส่งผลให้การบริหารจัดการในอำเภอจินชวนพลิกผัน นายอำเภอกลายเป็นหุ่นเชิดของซือเหยียหรือผู้ช่วยนายอำเภอแทน
ทั้งหมดนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจ
“นายอำเภอจางเป็นผู้มีภูมิหลังที่ต่ำต้อย การที่เขามาอยู่ในจุดนี้ได้เป็นเพราะการสนับสนุนและการจัดการของตระกูลโจว”
จางปู่โถวกล่าวว่า “จนถึงขณะนี้ สมาชิกในครอบครัวของนายอำเภอจางยังคงอยู่ที่บ้านเกิดและไม่ได้รับมาอยู่ด้วยกัน”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้จินเฟิงก็เข้าใจทันที
ที่แท้นายอำเภอผู้นี้ก็ตกอยู่ในกำมือผู้อื่น
“ตอนนี้โจวซือเหยียกำลังจับตาดูพวกเจ้า” จางปู่โถวกล่าวต่อ “แต่ไม่ใช่เพราะเงิน”
“ไม่ใช่เพราะเงินอย่างนั้นหรือ?”
จินเฟิงรู้สึกสับสน
พวกโจรปล้นถนนทำไมไม่เอาเงินเล่า?
หรือว่าต้องการฆ่าคนรวยไปช่วยเหลือคนจน เพียงเพื่อต้องการทวงความยุติธรรมให้สวรรค์?
“ท่านอาจารย์ได้สร้างไนปั่นด้ายแบบใหม่ที่สามารถหมุนวงล้อได้เร็วกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าใช่หรือไม่?”
จางปู่โถวกล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่าครอบครัวของโจวซือเหยียก็ทำสิ่งทอเช่นกัน”
“ที่แท้เขากำลังเล็งเป้าไปที่ไนปั่นด้ายของข้านี่เอง”
จินเฟิงตระหนักได้ทันที
โรงงานสิ่งทอต้องการคนงานจำนวนมาก และข่าวการกำเนิดของไนปั่นด้ายที่ทำขึ้นใหม่ก็ไม่สามารถปกปิดได้จริง ๆ
เป็นเวลานานแล้วที่ไม่มีคนทำลอกเลียนขึ้นมา เพราะถังตงตง ความลับนี้จึงเก็บไว้ได้อย่างนาวนาน
“ก่อนหน้านี้ผู้ใต้บังคับบัญชาของซือเหยียเคยเอ่ยปากกับข้า มีอยู่ครั้งหนึ่งตอนที่เราดื่มกัน เขาบอกข้าว่าซือเหยียเอ่ยปากว่าต้องการไนปั่นด้ายมาครอบครอง”
จางปู่โถวกล่าวต่อ “เขาให้พวกโจรเขาเถี่ยกว้านไปสกัดกั้นในถงซาน อาจเป็นเพราะพวกเขาต้องการบังคับให้ท่านอาจารย์ยอมก้มหัวให้”
“เช่นนั้นหรือ?”
จินเฟิงมองไปที่จางปู่โถวและถาม “จางปู่โถว เจ้าคือทหารปลดประจำการจากกองทัพเถี่ยหลินหรือไม่?”
“ไม่ใช่”
จางปู่โถวส่ายหัว “ข้าไม่เคยมีโอกาสได้ต่อสู้เคียงข้างท่านโหวในสนามรบ… เหตุใดท่านอาจารย์จึงถามเช่นนี้หรือ?”
“ไม่มีอะไร ข้าแค่ถามไปอย่างนั้น”
จินเฟิงยิ้มและส่ายหัว
เจ้าหน้าที่ที่รับใช้โจวซือเหยียมาพูดเรื่องไนปั่นด้ายกับจางปู่โถว เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้จางปู่โถวผู้นี้ส่งข้อความถึงจินเฟิงและบังคับให้ยอมจำนน
ดังนั้นจินเฟิงจึงสงสัยว่าจางปู่โถวอาจเป็นคนของโจวซือเหยีย
หรืออาจเป็นไปได้ว่าชายผู้นี้กำลังถูกหลอกใช้โดยที่เขาไม่รู้ตัว
“ท่านอาจารย์ เหตุใดไม่ย้ายโรงงานไปในอำเภอเล่า พวกโจรจะได้ไร้หนทาง” จางปู่โถวโน้มน้าวด้วยความจริงใจ
หากเขาย้ายไปในอำเภอจินชวนจะได้ไม่ต้องเดินทางไปมาเพื่อซื้อของและจัดส่งอีก ในความเห็นของจางปู่โถว นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา
“ขอบคุณจางปู่โถว ขอข้าคิดดูก่อนแล้วกัน”
จินเฟิงยิ้มและส่ายหัว
ความจริงแล้วบัณฑิตหนุ่มเคยคิดถึงปัญหานี้เช่นกันตอนที่ถังตงตงพูดเรื่องการก่อตั้งโรงงานครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม อำเภอจินชวนมีขนาดเล็กมากและเป็นการยากที่จะหาสถานที่ที่เหมาะสมในการสร้างโรงงาน
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนส่วนใหญ่ที่สามารถอาศัยอยู่ในตัวอำเภอก็มีอาชีพเป็นของตัวเองและมีคนว่างงานน้อย แม้ว่าจินเฟิงจะสร้างโรงงาน การสรรหาลูกจ้างก็คงเป็นปัญหาใหญ่
ดังนั้นสุดท้ายแล้วชายหนุ่มจึงตัดสินใจสร้างโรงงานในซีเหอวาน
ตอนนี้เมื่อมาคิด ๆ ดูแล้ว การตัดสินใจของเขาถือว่าชาญฉลาดทีเดียว
โครงสร้างของไนปั่นด้ายใหม่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเป็นพิเศษ และช่างไม้ที่มีความรู้ก็สามารถเลียนแบบมันได้ผ่านการมองเพียงผิวเผิน
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ความลับเรื่องไนปั่นด้ายยังไม่ถูกแพร่ออกไปเป็นเพราะคนงานหญิงไปจนถึงผู้ช่วยในโรงอาหารต่างก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
หากโรงงานถูกสร้างขึ้นในตัวอำเภอจินชวน จินเฟิงคิดว่าไนปั่นด้ายคงถูกขโมยไปนานแล้ว
แต่เขาก็รู้ดีว่าโครงสร้างของไนปั่นด้ายนั้นเรียบง่าย ไม่ช้าก็เร็วเรื่องนี้ก็ต้องแพร่กระจายออกไป
“ตระกูลนั้นน่ะหรือ” ชิ่งมู่หลานพยักหน้า “ข้ารู้จัก”
“แล้วเจ้ารู้จักโจวซือเหยียจากจวนว่าการจินชวนหรือไม่”
จินเฟิงจึงถาม
“ข้าจะรู้จักผู้ช่วยตัวเล็ก ๆ จากจวนว่าการได้อย่างไร”
ชิ่งมู่หลานส่ายหัวแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว “ท่านอาจารย์ เขาคงไม่ได้ทำเรื่องอะไรให้ท่านเดือดร้อนหรอกนะ? รอข้าเดี๋ยว ข้าจะไปที่จวนว่าการเพื่อจับตัวเขาและจัดการตามประสงค์ของท่าน!”
“เจ้าต้องเลิกนิสัยหุนหันพลันแล่นอย่างเอาจริงเอาจังได้แล้ว!”
จินเฟิงพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ชายหนุ่มดึงชิ่งมู่หลานให้นั่งลง “เจ้าไม่จำเป็นต้องจับกุมใคร แค่ช่วยข้าสืบข่าวบางอย่างก็พอ”
“สืบเรื่องใดหรือ?”
“สืบเรื่องต้นกำเนิดของเขา ที่สำคัญที่สุดคือสืบความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลโจว”
“ไม่มีปัญหา ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง!”
ชิ่งมู่หลานทุบหน้าอกของนางอย่างกล้าหาญ พร้อมโบกมือและเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาของนาง “อาเหมย มานี่หน่อย!”
“คุณหนู มีเรื่องอะไรหรือ?”
ทหารหญิงร่างสูงวิ่งเข้ามา
นางเป็นหัวหน้าทหารหญิงและเป็นผู้ช่วยของชิ่งมู่หลาน
“เจ้านำของแทนตัวข้าไปยังซีต้าเจีย*[1] ในอำเภอจินชวน ค้นหาร้านขายธัญพืชและน้ำมันเซี่ยงจี๊ แล้วขอให้เจ้าของร้านช่วยตรวจสอบโจวซือเหยียที่ทำงานอยู่ที่ศาลาว่าการที”
ว่าจบชิ่งมู่หลานก็ถอดจี้หยกออกจากเอวแล้วส่งให้อาเหมย “บอกให้เขาตรวจสอบอย่างละเอียด”
“รับทราบ!”
อาเหมยรีบขี่ม้าออกไปทันทีโดยไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ
“เช่นนี้ก็ได้หรือ?”
จินเฟิงเหลือบมองชิ่งมู่หลานอย่างสงสัย
“อย่าลืมว่าพี่ชายของข้าคือผู้ปกครองมณฑลซื่อชวน เขาจะไม่มีสายที่จินชวนได้อย่างไร?”
ชิ่งมู่หลานขยิบตาให้จินเฟิงอย่างภาคภูมิใจ “ท่านอาจารย์ไม่ต้องห่วง ข้าสัญญาว่าจะสืบไปให้ถึงบรรพบุรุษทั้งสามรุ่นของโจวซือเหยียเลย!”
[1] ซีต้าเจีย : ถนนแห่งหนึ่งในอำเภอจินชวน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์