บทที่ 123 ผู้หนุนหลังโจร
“เมื่อคืนเราเจอโจร…”
หลิวเถี่ยก้มศีรษะลงและเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อคืนเขานำขบวนขนส่งไปในตัวอำเภอ แต่ถูกพวกโจรสกัดกั้นเอาไว้ทันทีที่เข้าเขตถงซาน
พวกโจรไม่เพียงแต่ขโมยทุกอย่างโดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่ยังทุบตีหลิวเถี่ยและคนอื่น ๆ ที่รับผิดชอบคุ้มกันขบวนขนส่งนี้อีกด้วย พวกเขาข่มขู่ว่าหลังจากนี้ให้จ่ายค่าผ่านทางหนึ่งร้อยตำลึงเงินทุกเดือน
“จินเฟิง ข้าขอโทษด้วยที่ทำลายความไว้วางใจของเจ้าและพี่เหลียง ข้าทำให้ของเราสูญหายไปไม่น้อย…”
หลิวเถี่ยกล่าวด้วยความรู้สึกผิด
หลังจากที่จินเฟิงขยายโรงงานสิ่งทอ ผลผลิตก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าจากเมื่อก่อน วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องซื้อก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าเช่นเดียวกัน
แม้ว่าจินเฟิงจะทำเกวียนไว้มากกว่าสิบคันและพยายามลดจำนวนการเดินทางลง ทว่าอย่างน้อยก็จำเป็นต้องเข้าไปในตัวอำเภอจินชวนอาทิตย์ละครั้งอยู่ดี
แต่เนื่องจากพวกโจรได้ตั้งด่านในถงซาน ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องพบว่ามีการส่งของในตอนกลางคืน
จินเฟิงรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่ควรตำหนิหลิวเถี่ย
เขาตบไหล่หลิวเถี่ยเบา ๆ “พี่หลิวเถี่ย ไม่เป็นไร เรื่องสินค้าในเมื่อมันหายไปแล้วก็แล้วไป ขอแค่ทุกคนปลอดภัยก็พอ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่จินเฟิงพูด หลิวเถี่ยก็ตบตัวเอง “จินเฟิง แต่หู่จือ…”
“เกิดอะไรขึ้นกับหู่จือหรือ?”
จินเฟิงหัวใจเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
หู่จือเป็นญาติของจางเหลียง อีกฝ่ายเป็นเด็กชายอายุสิบห้าปีที่รับหน้าที่ขนส่งสินค้าคู่กับจางเหลียงตั้งแต่แรกเริ่ม
ลูกพี่ลูกน้องสองคนของจางเหลียงเสียชีวิตในสนามรบ หู่จือเป็นหลานคนเดียวในครอบครัว หากมีบางอย่างเกิดขึ้น จินเฟิงก็ไม่รู้จะบอกจางเหลียงเรื่องนี้อย่างไร
“หู่จือถูกพวกโจรทำร้ายจนขาหักถึงขนาดกระดูกโผล่ออกมา ข้าคิดว่ากรณีนี้อยู่นอกเหนือการรักษาของเหล่าถานเลยส่งตัวเขาไปรักษาในตัวอำเภอจินชวน”
หลิวเถี่ยกล่าวต่อ “หลางจงได้ทำการเชื่อมกระดูกให้เขาแล้ว เห็นบอกว่าจะสามารถฟื้นฟูคืนสู่สภาพเดิมได้ แต่ข้าเกรงว่าหากเขาเดินทางไปกลับ กระดูกของเขาจะได้รับการกระทบกระเทือนเลยให้เขาอยู่ภายใต้การดูแลของหลางจงไปก่อน”
“พี่เถี่ยจือทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่ว่าอย่างไรชีวิตของคนก็สำคัญที่สุด”
เมื่อจินเฟิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ไม่มีใครถึงแก่ชีวิตก็โล่งใจ
อีกอย่างเหล่าถานก็เป็นแค่หมอพื้นบ้านประจำหมู่บ้านเท่านั้น หากหลิวเถี่ยส่งตัวหู่จือไปให้เหล่าถานรักษาคงไม่ใช่เรื่องดี
ตอนนี้อากาศร้อน การที่หู่จือกระดูกหักและมีปากแผลเปิดกว้างอาจจะติดเชื้อได้ง่าย หากไม่มียาแก้อักเสบเขาอาจถึงตายได้
“จินเฟิง หลางจงบอกว่าภายในสองปีนี้หู่จือจะไม่สามารถทำงานหนักได้…”
หลิวเถี่ยกล่าวเสริม
“ไม่เป็นไร ในระหว่างนี้ข้าจะมอบหมายงานที่ไม่ต้องใช้แรงมากนักให้กับหู่จือทำจนกว่าเขาจะหายดี”
จินเฟิงกล่าวต่อ “รวมไปถึงครอบครัวของเขาด้วย เดี๋ยวข้าจะช่วยมอบหมายงานให้”
“จินเฟิง ข้าขอบคุณแทนหู่จือจริง ๆ”
หลิวเถี่ยโค้งคำนับจินเฟิง
เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเป็นที่น่าเสียใจยิ่งนัก หลิวเถี่ยและหู่จือทำงานประเภทเดียวกัน วันนี้หู่จือตกเป็นผู้โชคร้าย วันพรุ่งนี้อาจเป็นเขาก็ได้
แต่ในยุคสมัยนี้การไม่เพียรทำงานหนักนั่นก็เท่ากับตายรูปแบบหนึ่งเหมือนกัน
เขากล่าวเสริมเรื่องอาการข้างเคียงของหู่จือไปเพราะอยากจะดูเหมือนกันว่าจินเฟิงจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร
ตอนนี้จินเฟิงรับปากแล้วว่าจะช่วยเหลือหู่จือ หลิวเถี่ยก็รู้สึกโล่งใจ
“จินเฟิง ข้ายังมีอีกเรื่อง เงินที่ติดตัวพวกข้าถูกโจรขโมยไปหมด เป็นเรื่องบังเอิญที่เมื่อเราไปถึงจวนว่าการก็ได้พบกับจางปู่โถว เงินห้าตำลึงเงินที่เป็นค่ารักษาหู่จือก็เป็นเงินที่หยิบยืมมาจากจางปู่โถวผู้นี้”
“ข้ารู้แล้ว”
จินเฟิงหยิบแท่งเงินสิบตำลึงเงินออกมาจากใต้แขนเสื้อ “จางปู่โถว เรื่องในครั้งนี้ขอบคุณเจ้ามาก”
“ท่านอาจารย์จิน นี่มันอะไรกัน?”
จางปู่โถวดูไม่พอใจเล็กน้อย “ที่ข้าเดินทางมาส่งเถี่ยจือกับสหายเหล่านี้ เป็นเพราะเกรงว่าพวกโจรจะลอบทำร้ายพวกเขาอีกครั้ง ข้ามิได้มาเพื่อทวงบุณคุณแต่อย่างใด”
จางปู่โถวเอ่ยถามทันทีโดยที่ไม่ทันได้ดื่มน้ำที่จินเฟิงรินให้
“ข้ารู้ พวกเขามาจากเขาเถี่ยกว้าน”
จินเฟิงพยักหน้า
“แล้วเจ้ารู้ประวัติความเป็นมาของพวกโจรเขาเถี่ยกว้านหรือไม่?”
จางปู่โถวถามอีกครั้ง
“เรื่องนั้นข้าไม่รู้”
จินเฟิงส่ายหัว “จางปู่โถวได้โปรดชี้แนะ”
เขาได้ยินจากชิ่งไหวว่ากลุ่มโจรขนาดใหญ่หลายกลุ่มในจินชวนมีหน่วยราชการคอยหนุนหลัง
อย่างไรก็ตาม ที่ศาลาว่าการไม่ได้มีนายอำเภอเพียงคนเดียว แต่ยังมีตำแหน่งอื่น ๆ เช่นผู้ช่วยนายอำเภอที่ดูแลเรื่องงานเอกสาร และเจ้าหน้าที่ปกครองที่รับผิดชอบด้านความสงบเรียบร้อย ล้วนแต่เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจในมือ จินเฟิงไม่รู้จริง ๆ ว่ากลุ่มโจรเขาเถี่ยกว้านนี้เป็นลูกสมุนของใคร
เนื่องจากจางปู่โถวเริ่มถามคำถามนี้ ชายหนุ่มเชื่อว่าเขาจะให้คำตอบได้
แน่นอนว่าจางปู่โถวมองไปรอบ ๆ ลดเสียงของเขาลงพร้อมพูดว่า “โจรเขาเถี่ยกว้านเป็นลูกสมุนของโจวซือเหยียหรือผู้ช่วยนายอำเภอโจว ทุกปี สามในสิบส่วนของการเก็บส่วยโดยโจรเขาเถี่ยกว้านจะถูกส่งมอบให้เขา”
โจรเขาเถี่ยกว้านได้ยึดครองเมืองทางตะวันตกเกือบทั้งหมดของอำเภอจินชวน ผลรวมของส่วยประจำปีที่หมู่บ้านหลายสิบแห่งจ่ายให้พวกมันไม่ใช่จำนวนเล็ก ๆ
สามในสิบส่วนมากกว่าเงินเดือนของซือเหยียผู้นี้ไม่รู้เท่าใด แม้แต่กับชิ่งไหวเองเงินจำนวนนี้ก็ยังถือว่าเป็นจำนวนมาก
“เป็นไปได้ไหมที่โจวซือเหยียจะมีผู้หนุนหลังที่ดี?”
จินเฟิงถามพร้อมขมวดคิ้ว
ตำแหน่งซือเหยียแห่งต้าคังคือผู้ช่วยของนายอำเภอ โดยปกติเขาจะอ้างชื่อนายอำเภอเพื่อแสดงอำนาจ ทำให้คนจำนวนมากไม่กล้าต่อกรด้วย
แต่หากเกี่ยวข้องกับเงินและผลประโยชน์ ผู้ช่วยที่ไม่มีใครหนุนหลังจะกลืนเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ได้หรือ
ความคิดแรกของจินเฟิงคือ โจวซือเหยียเป็นหุ่นเชิดของนายอำเภอ แต่เขาก็ต้องปฏิเสธความคิดนี้ทันที
หากโจวซือเหยียเป็นคนของนายอำเภอ จางปู่โถวคงจะพูดออกมาตรง ๆ แล้วว่าโจรเขาเถี่ยกว้านได้รับการสนับสนุนจากนายอำเภอ และคงไม่ลากโจวซือเหยียมาเกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์