บทที่ 122 เกิดเรื่องแล้ว
สิ่งที่สะท้อนอยู่ในหูของชิ่งมู่หลานคือคำว่าความเท่าเทียมกันระหว่างชายหญิง
ใช่ หากชายหญิงเท่าเทียมกัน นางก็คงไม่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อไปสนามรบใช่หรือไม่?
หากชายหญิงเท่าเทียมกัน นางจะยังจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่หรือไม่?
ในขณะนี้ ชิ่งมู่หลานรู้สึกราวกับว่าเมฆและหมอกในใจเริ่มหายไป ทันใดนั้นนางก็กระจ่างแจ้ง
“ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ทำให้ข้าพบเป้าหมายของชีวิต!”
ในเวลานี้ ดวงตาของชิ่งมู่หลานสว่างราวกับดวงดาวระยิบระยับ
จากนั้นนางก็ยืนขึ้นเพื่อคำนับจินเฟิง
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การยกกำปั้นขึ้นอย่างท่วงท่าของบุรุษ แต่เป็นมารยาทอันควรของสตรีในยุคนี้
เพราะนางเข้าใจในความหมายที่จินเฟิงจะสื่อก่อนหน้านี้แล้ว
เกิดเป็นหญิงเหตุใดต้องเลียนแบบชายด้วย?
“ช่างมีสติปัญญาเป็นเลิศ”
จินเฟิงยิ้มและยกย่องชิ่งมู่หลาน
“นั่นเป็นเพราะข้อคิดจากท่านอาจารย์ คำแนะนำเพียงประโยคเดียวของท่าน ดีกว่าสิ่งที่ข้าเรียนมานับสิบปีเสียอีก!”
ชิ่งมู่หลานเก็บอาการดีใจของนางเอาไว้ไม่ได้และกระตือรือร้นขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าละทิ้งสภาพความเป็นอยู่ที่ดี และพาทหารหญิงกลุ่มนี้เดินทางจากจวนซื่อชวนมายังหมู่บ้านเล็ก ๆ บนภูเขาเพื่อตามหาข้า เมื่อเทียบกับสตรีในยุคนี้ ถือว่าเจ้าได้นำไปแล้วหนึ่งก้าว”
จินเฟิงกล่าวต่อ “แต่เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกลและยากลำบากนัก ดังนั้นเจ้าต้องเตรียมตัวให้พร้อม”
“ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน ข้าก็จะเดินหน้าต่อไป!”
ชิ่งมู่หลานพูดอย่างหนักแน่น “แม้ว่าสุดท้ายแล้วข้าจะไม่ประสบความสำเร็จ แม้ว่าในท้ายที่สุดข้าอาจจะต้องตายในเส้นทางที่ตัวเองเลือก ข้าก็ไม่มีวันเสียใจ!”
“ท้ายที่สุดแล้วเจ้าจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ข้าก็เชื่อว่าการกระทำของเจ้าจะต้องทิ้งอะไรบางอย่างไว้ให้สตรีรุ่นหลัง มันจะทำให้พวกนางรู้เป้าหมายและความพยายามของเจ้า”
จินเฟิงมองไปที่ชิ่งมู่หลานด้วยความชื่นชม
ความเท่าเทียมกันระหว่างชายหญิงเป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่ยากมากหากจะทำให้เกิดผล แม้กระทั่งในศตวรรษที่ 21 ยุคที่ผู้หญิงได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมก็ยังมีความเหลื่อมล้ำทางเพศอยู่ ไม่ต้องพูดถึงสังคมที่ต้าคังเลย
ชิ่งมู่หลานนั้นต้องต่อสู้กับยุคสมัยอย่างหนักแน่นอน
หากถามจินเฟิงเอง เขาก็ยังไม่มีความกล้าเท่านาง
ชายหนุ่มจึงชื่นชมชิ่งมู่หลานเป็นอย่างมาก
ชื่อเสียง ความมั่งคั่ง อำนาจ และความรัก คือสิ่งที่คนส่วนใหญ่แสวงหาตลอดชีวิต แต่ชิ่งมู่หลานไม่สนใจเงินทอง สถานะ หรือแม้แต่ชีวิตของนาง นางกำลังต่อสู้เพื่อคนรุ่นหลัง
คำกล่าวของจินเฟิงเหมือนกับการราดน้ำมันลงบนกองไฟในหัวใจชิ่งมู่หลาน เพลิงนั้นโหมหระหน่ำยิ่งกว่าเดิม
ในคืนวันนั้น ชิ่งมู่หลานอยู่คุยจนดึกก่อนที่จะกลับออกไป
จินเฟิงเล่าให้นางฟังถึงโลกที่ผู้หญิงสามารถมีโอกาสทางการศึกษาเช่นเดียวกับผู้ชาย ไม่เพียงแต่สามารถเข้าร่วมกองทัพและต่อสู้เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่และมีส่วนร่วมทางการเมืองได้อีกด้วย
เป็นเหตุให้ตอนที่ชิ่งมู่หลานจากไป นางจึงร่าเริงเป็นอย่างมาก
มุมมองและทัศนคติที่นางมีต่อจินเฟิงได้รับการเปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที
ตอนนี้ในใจของนาง จินเฟิงเป็นผู้ที่นำทางชีวิต เป็นปรมาจารย์ที่มีความฉลาด เฉียบแหลม และมีสายตายาวไกล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาสัญญาว่าจะเตรียมหน้าไม้ให้กองทัพหญิงของนางในอนาคต ชิ่งมู่หลานรู้สึกขอบใจจินเฟิงมากยิ่งขึ้น
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาระหว่างการฝึก นางก็ได้เห็นพลังของหน้าไม้แล้ว
หน้าไม้ที่สามารถขึ้นสายได้อย่างรวดเร็ว ยิงได้อย่างต่อเนื่องและทรงพลัง สามารถลดช่องว่างด้านพละกำลังระหว่างทหารหญิงและทหารชายได้มาก
หากทหารหญิงของนางมีสิ่งนี้ติดตัวก็จะทำให้ประสิทธิภาพการต่อสู้เพิ่มขึ้นหลายระดับ

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์