บทที่ 210 เสร็จสิ้นภารกิจ
เมื่อสามารถไถ่ตัวถังเสียวเป่ยมาได้ในราคาหนึ่งร้อยแปดสิบตำลึงเงิน จินเฟิงจึงรู้สึกดีในใจและรู้สึกว่าตนเองได้กำไรแล้ว
แต่เมื่อเขาเห็นสัญญาการซื้อขายของนาง จินเฟิงก็ตระหนักว่าเขายังอ่อนหัดนัก
เพราะตอนที่หอวาโยวสันต์ซื้อตัวถังเสียวเป่ยมาในตอนแรก พวกเขาใช้เงินเพียงเจ็ดตำลึงเงิน!
ในเวลาเพียงไม่กี่ปี นางกลับถูกนำตัวไปขายต่อในราคาที่สูงเกือบสามสิบเท่า หอวาโยวสันต์สามารถทำเงินได้มากมายจริง ๆ
“ท่านอาจารย์จิน แม้ว่าข้าจะใช้เงินเพียงเจ็ดตำลึงเงินเพื่อซื้อตัวเสียวเป่ยมา แต่ข้าก็ได้ใช้เงินจำนวนมากฝึกฝนนางให้กลายเป็นผู้มีพรสวรรค์อยู่ตลอดหลายปี ถ้าไม่ใช่เพราะข้าเห็นถึงความจริงใจของท่านอาจารย์จิน ข้าไม่มีทางขายนางออกไปด้วยเงินเพียงเงินร้อยกว่าตำลึงหรอก”
แม่เล้าพูดอย่างเสียใจ “ท่านอาจารย์จิน ในอนาคตข้าหวังว่าท่านจะมาที่นี่และอุดหนุนกิจการของข้าอีก”
“ตกลง!”
เมื่อได้รับสัญญาซื้อขายแล้ว จินเฟิงก็ไม่ต้องการอยู่ในหอวาโยวสันต์อีกต่อไป “นายแม่โจว ข้าขอพาแม่นางเสียวเป่ยออกไปตอนนี้ได้หรือไม่?”
“แน่นอน จากนี้ไปเสียวเป่ยจะถือเป็นคนของท่านอาจารย์โดยสมบูรณ์”
แม่เล้าขยิบตาให้หญิงรับใช้ตัวน้อยที่กำลังเฝ้าประตูห้องหลัก
“แม่นาง นำเสื้อผ้าและรองเท้ามาให้ข้าเถิด”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น รุ่นเหนียงก็รีบส่งของในมือให้หญิงรับใช้ทันที
เมื่อหญิงรับใช้รับเสื้อผ้าและรองเท้ามาแล้ว นางก็รีบเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
แม่เล้าเอาแต่พูดว่าถังเสียวเป่ยเป็นบุตรสาวที่นางรักที่สุด แต่เมื่อถังเสียวเป่ยจากไป แม่แต่ด้ายเส้นเดียวนางก็ไม่ยินยอมให้นำติดตัวไปด้วย
หญิงรับใช้เข้าไปในห้องเพื่อช่วยดูแลเสื้อผ้าและเครื่องประดับของถังเสียวเป่ย
เมื่อถังเสียวเป่ยออกมาก็ได้สวมใส่เสื้อผ้าที่จินเฟิงนำมาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รุ่นเหนียงเองก็ไม่คาดคิดว่าแม่เล้าจะไม่ให้ถังเสียวเป่ยมีแม้กระทั่งเชือกผูกผมหรือปิ่นกลัดมวยผม ในเวลานี้ผมทั้งหมดของถังเสียวเป่ยจึงถูกปล่อยลงมาข้างหลัง
ในชีวิตที่แล้ว จินเฟิงเคยได้ยินเกี่ยวกับคำว่าไปแต่ตัว คราวนี้เขาเห็นแล้วจริง ๆ ว่าคำว่าไปแต่ตัวหมายความว่าอย่างไร
แต่ถังเสียวเป่ยไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย ในเวลานี้นางเพียงรู้สึกตื่นเต้น มีความสุข และซาบซึ้งในบุญคุณของจินเฟิง
เพราะนางรู้ดีว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นางจะหนีจากกรงของหอนางโลมนี้ได้และหลบหนีชะตากรรมอันน่าเศร้าทั้งหมดพ้นสักที!
และคนที่เปลี่ยนแปลงเรื่องราวนี้ก็คือบัณฑิตที่อยู่ตรงหน้านาง
“เสียวเป่ย ขอบคุณท่านอาจารย์!”
ถังเสียวเป่ยคุกเข่าลงและคำนับจินเฟิงด้วยความนอบน้อม
“เสียวเป่ย จากนี้ไปเราถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าไม่สามารถคุกเข่าและทำความเคารพคนในครอบครัวของตนเช่นนี้ได้”
จินเฟิงรีบบอกให้รุ่นเหนียงดึงตัวถังเสียวเป่ยขึ้นมา
เมื่อเห็นผมของถังเสียวเป่ยตกลงมา รุ่นเหนียงก็ปลดจี้หยกออกจากเอวและถอดเชือกออกพร้อมส่งให้ถังเสียวเป่ย
ถังเสียวเป่ยรับมันมาด้วยรอยยิ้มแล้วมัดผมของตนเอง
แม้ว่านางจะมัดผมหางม้าแบบเรียบง่ายและเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูงดงามน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก อีกทั้งชุดยังดูไม่พอดีตัวเลยด้วยซ้ำ แต่จินเฟิงกลับรู้สึกว่า ถังเสียวเป่ยดูน่ามองกว่าเมื่อก่อนเป็นไหน ๆ
หลังจากมองดูอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็ค้นพบเหตุผลในที่สุด
เมื่อก่อนแม้ว่าถังเสียวเป่ยจะส่งยิ้มออกมา แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก ทว่าตอนนี้นางเปี่ยมไปด้วยความสุข นางเป็นอิสระ และเริ่มมีความคาดหวังกับอนาคตที่อยู่ข้างหน้า!
“ไปกันเถิด”
“นายแม่โจว ข้าขอตัวก่อน!”
ถังเสียวเป่ยโค้งคำนับแม่เล้าเล็กน้อย จากนั้นนางก็เดินตามจินเฟิงโดยเชิดหน้าขึ้น
การไถ่ตัวไม่ค่อยเกิดขึ้นในหอนางโลม เมื่อเดินผ่านโถงชั้นหนึ่ง หญิงสาวคนอื่น ๆ ที่ได้รับข่าวก็วิ่งมาดูกันหมด
“โชคของเสียวเป่ยดีมาก ท่านอาจารย์จินเต็มใจที่จะไถ่ชีวิตนาง!”
“ใช่แล้ว ท่านอาจารย์จินยังหนุ่มและรูปงาม อีกทั้งยังมีความสามารถ เขาเป็นบุรุษที่สมบูรณ์แบบที่สุด”
“ข้าคิดว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดของท่านอาจารย์จินคือความหลงใหลของเขา หลังจากที่อาศัยอยู่ชั้นบนมาหลายวัน ข้าไม่รู้ว่ามีพี่น้องของเรากี่คนอยากจะให้เขารับไว้ในอ้อมแขน แต่เขากลับไม่สนใจสิ่งใดเลย เขารอเสียวเป่ยมาโดยตลอด”
“ใช่ ตอนที่ข้าไปที่สวนหลังบ้าน ข้าเห็นท่านอาจารย์จินมองหน้าต่างเสียวเป่ยทุกครั้ง”
“คงจะดีไม่น้อยถ้ามีบุรุษเช่นนี้มาไถ่ตัวข้าออกไป!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์