บทที่ 213 หนามยอกเอาหนามบ่ง
“ท่านอารองของข้าเป็นจวิ้น…”
หญิงดุร้ายคิดว่าจินเฟิงได้ยินไม่ชัด นางจึงกรีดร้องและเอ่ยย้ำชื่อท่านอาของตนอีกครั้ง
แต่ก่อนที่จะพูดจบ จินเฟิงก็ออกแรงที่เท้าของเขา หญิงดุร้ายจึงเริ่มร้องอย่างน่าสังเวชขึ้นมาอีก
ถังตงตงมองดูฉากนี้และนึกถึงสิ่งที่จินเฟิงเพิ่งพูด ทันใดนั้นนางก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ถังเสียวเป่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มีท่าทีครุ่นคิด
นางเชื่อว่าจินเฟิงได้ยินคำขู่ของหญิงดุร้ายอย่างแน่นอน และเขาก็รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นหลานสาวของจวิ้นโส่ว
แต่แม้จะได้ยินดังนั้น จินเฟิงก็ยังไม่มอบความเมตตาให้แก่นาง นี่แสดงให้เห็นว่าท่านอาจารย์จินไม่กลัวจวิ้นโส่วเลยแม้แต่น้อย
แต่นางเคยถามพี่สาวเกี่ยวกับภูมิหลังของจินเฟิงแล้ว เขาเป็นบัณฑิตจากหมู่บ้านบนภูเขาห่างไกลในจินชวน ส่วนอีกฝ่ายคือจวิ้นโส่วผู้มีอำนาจสูงสุดแห่งกวางเหยวียน นางคิดไม่ตกว่าจินเฟิงไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน
“ท่านพี่ ท่านอาจารย์จินมีจุดอ่อนของใต้เท้าจวิ้นโส่วอยู่ในมือหรือ?”
นี่เป็นคำอธิบายเดียวที่นางคิดได้
“จินเฟิงเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก และเขาก็ไม่เคยพบจวิ้นโส่วมาก่อนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับจวิ้นโส่วได้อย่างไร?”
ถังตงตงตกใจกับจินตนาการของถังเสียวเป่ย
“ไม่มีจุดอ่อนของเขาอย่างนั้นหรือ?”
การแสดงออกของถังเสียวเป่ยเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
เป็นไปได้หรือไม่ว่านางเดาผิด จินเฟิงเป็นแค่บัณฑิตเลือดร้อนที่เจ้าอารมณ์และไม่สนใจฟ้าดินหรือ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ถังเสียวเป่ยก็พูดอย่างเป็นกังวล “ท่านพี่ ถ้าท่านอาจารย์จินไม่มีจุดอ่อนของจวิ้นโส่วอยู่ในมือ ก็ควรบอกให้เขาหยุดทันที บุตรสาวของจวิ้นโส่วเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก และเขาก็ปฏิบัติต่อหลานสาวคนนี้เหมือนบุตรสาวมาโดยตลอด หากจวิ้นโส่วมา พวกเราจบเห่กันหมดแน่!”
“วางใจเถิด ทุกอย่างจะเรียบร้อย”
ถังตงตงลูบไหล่ ถังเสียวเป่ย “จินเฟิงไม่เคยทำอะไรที่เขาไม่มั่นใจ การที่เขาเลือกทำเช่นนี้ นั่นแปลว่าเขาคงมีเหตุผล”
“เขาไม่เคยทำอะไรที่ไม่มั่นใจอย่างนั้นหรือ?”
แม้ว่าปีนี้ถังเสียวเป่ยเพิ่งจะได้รับการเปิดตัว แต่นางก็ได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นระบบจากหอนางโลม ถังเสียวเป่ยเองก็รู้วิธีสังเกตอารมณ์ของผู้คน
เมื่อดูถังตงตงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ชิ่งมู่หลานที่กำลังดูความสนุกสนานบนหลังม้า และอาเหมยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้ว
ใบหน้าของทั้งสามไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าจินเฟิงต้องมีไพ่เด็ดอื่น ๆ เพียงแต่ถังตงตงยังไม่ได้บอกนาง
แม้ว่านางจะไม่สามารถเดาได้ว่าไพ่ใบสำคัญของเขาคืออะไร แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะรู้ว่าชายหนุ่มมีอำนาจเหนือกว่าจริง ๆ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ความกลัวในใจของถังเสียวเป่ยก็ถูกชะล้างออกไปจนสิ้น นางมองไปที่จินเฟิงอย่างรู้สึกขอบคุณชั่วครู่หนึ่ง แล้วหยิบแส้ที่หญิงดุร้ายทิ้งลงบนพื้นขึ้นมา
“เสียวเป่ย เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?”
ถังตงตงคว้าตัวน้องสาวของนางเอาไว้
“ท่านอาจารย์เป็นบัณฑิตผู้เลื่องชื่อ ชื่อเสียงของเขาไม่ควรมาเสื่อมเสียลงเพราะหญิงดุร้ายผู้นี้”
หลังจากที่ถังเสียวเป่ยพูดจบ นางก็เดินไปหาจินเฟิงพร้อมกับแส้ในมือ “ท่านอาจารย์ ให้ข้าเป็นคนจัดการนางเถิด”
“เจ้าต้องการจัดการนางด้วยตัวเองหรือ?” จินเฟิงถาม
“เมื่อครู่นางทำกับข้าและพี่สาวของข้าอย่างไร ข้าก็จะทำกับนางเช่นนั้น” ถังเสียวเป่ยตอบ
แม้ว่าเสียงจะไม่ดังนักแต่ก็หนักแน่นเป็นอย่างมาก
“ที่เจ้าว่ามาก็มีเหตุผล ตามใจเจ้าก็แล้วกัน”
จินเฟิงพยักหน้าและก้าวออกไป
เขาโจมตีหญิงดุร้ายไม่ใช่เพราะอยากระบายความโกรธเท่านั้น แต่เป็นเพราะต้องการเชือดไก่ให้ลิงดูด้วย
เพราะในอนาคต กิจการของเขาก็น่าจะขยายมาถึงเมืองนี้ หากครั้งนี้เถี่ยฉุยถูกทำร้ายจนตายและถังตงตงกับน้องสาวถูกเปลื้องผ้าพร้อมโดนราดร้ำมูลลงบนร่างกายและแห่ประจานไปทั่วถนนแล้ว เขาก็คงไม่สามารถยืนหยัดอยู่ที่นี่ได้และคนอื่น ๆ ก็คงคิดว่าเขาสามารถรังแกได้โดยง่าย
ดังนั้นในครั้งนี้บัณฑิตหนุ่มจะไม่ยอมผ่อนปรนเป็นอันขาด
แม้ว่าในใจจะคิดเช่นนั้น แต่จินเฟิงก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยที่ปล่อยให้ถังเสียวเป่ยทุบตีหญิงอีกคนบนถนน แม้ว่านางผู้นั้นจะเป็นหญิงไม่ดีก็ตาม
ทว่าถังเสียวเป่ยเป็นฝ่ายเห็นเหตุการณ์และริเริ่มทุกอย่างด้วยความคิดของนางเอง
“ท่านอาจารย์ ข้าวานให้คนพาตัวนางไปแขวนที”
ถังเสียวเป่ยชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ที่นางและถังตงตงถูกแขวนไว้เมื่อครู่
“ตกลง” จินเฟิงโบกมือให้ทหารผ่านศึก “ต้าหลิว จัดการให้เรียบร้อย”
ต้าหลิวผละมาพร้อมกับทหารผ่านศึก ทิ้งเหล่าข้ารับใช้ที่กำลังส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดไว้เบื้องหลัง
ในตอนนี้เหล่าข้ารับใช้สิบกว่าคนไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจนถึงแก่ชีวิต แต่ก็ไม่มีใครสามารถลุกขึ้นยืนหยัดได้
“นำตัวนางไปแขวน”
“รับทราบ!”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์