บทที่ 255 ไฮยีน่ากับลูกเสือ
การสร้างถนนบนภูเขาไม่ใช่เรื่องง่าย และการเดินทางจากกวางเหยวียนไปถึงเมืองหลวงก็มีถนนสายหลักเพียงสายเดียวเท่านั้น
ตามคำสั่งของจินเฟิง ทหารผ่านศึกและทหารหญิงขึ้นหลังม้าทีละคนแล้วไล่ตามไปบนถนนเส้นหลัก!
“ท่านอาจารย์ หากเราตามโจวเหวินเหยวียนได้ทัน ท่านจะจัดการเขาอย่างไร?”
ชิ่งมู่หลานที่ขี่ม้าอยู่เคียงข้างจินเฟิงเอ่ยถาม
“แล้วเจ้าคิดว่า ข้าควรจัดการอย่างไรดี?”
จินเฟิงไม่ตอบ แต่ลองเอ่ยถามความคิดเห็นของมู่หลานแทน
“ข้าคิดว่าท่านจะฆ่าเขาแน่ ๆ” ชิ่งมู่หลานพูด “เพราะจากท่าทางของท่านตอนนี้ เหมือนกับว่าอยากกินคนอย่างนั้น”
“ข้าฆ่าเขาก็ถูกแล้วมิใช่หรือ?”
“แม้ว่าโจวเหวินเหยวียนจะไม่ใช่หลานชายสายตรงของโจวกั๋วกง แต่เขากล้าสังหารทหาร และมีหัวหน้าผู้คุ้มกันเก่งกาจเช่นนี้ แปลว่าสถานะของเขาในตระกูลโจวต้องไม่ธรรมดาแน่นอน หากเขาถูกฆ่า มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่”
ชิ่งมู่หลานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ข้าไม่รู้จักโจวเหวินเหยวียน และไม่รู้ว่าเขามาจากตระกูลโจว”
จินเฟิงกล่าวต่อ “ข้ารู้แค่ว่า เขาเป็นอันธพาลที่ฆ่าทหาร ตามกฎหมายของต้าคัง นี่เป็นอาชญากรรมร้ายแรง! ในฐานะราษฎรของต้าคัง ข้าจะไม่ยอมให้อันธพาลแบบนี้อาละวาดต่อไป!”
อันที่จริงจินเฟิงไม่ได้ไล่ตามโจวเหวินเหยวียนเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ
แต่นี่เป็นการตัดสินใจที่เขาทำหลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ
ถ้าไม่จำเป็น เขาก็ไม่อยากเผชิญหน้ากับกั๋วกง
แต่ดูจากการที่โจวเหวินเหยวียนขอให้หลางจงวิเคราะห์สูตรสบู่ จินเฟิงจึงรู้ว่าอีกฝ่ายคงกำลังจับตาดูสบู่หอมอยู่
บุรุษเสเพลส่วนใหญ่เป็นอันธพาลที่กลัวผู้แข็งแกร่ง พวกเขาจะไม่รู้สึกขอบคุณหากเราแสดงความมีน้ำใจ แต่จะคิดว่าเรานั้นถูกรังแกได้ง่าย
หลังจากการลักพาตัวถังเสียวเป่ยในครั้งนี้ หากจินเฟิงไม่กล้าสู้กลับ โจวเหวินเหยวียนจะพยายามอย่างไม่ย่อท้อและใช้วิธีการที่น่ารังเกียจมากยิ่งขึ้นในครั้งต่อไป
ตอนนี้จินเฟิงเป็นลูกเสือที่ถูกไฮยีน่าหมายตา อีกทั้งในปากเขายังมีเนื้อก้อนใหญ่อยู่หนึ่งชิ้น
ตอนนี้เมื่อตกเป็นเป้าแล้ว บัณฑิตหนุ่มจำเป็นต้องแสดงความดุร้ายและต่อสู้จนตัวตาย หากเขายอมแพ้ในเวลานี้ อีกไม่นานไฮยีน่าตัวนี้ก็จะพุ่งเข้ามาหา ไม่เพียงเพื่อขโมยเนื้อในปากของเขาเท่านั้น แต่มันยังจะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆ อีกด้วย
ไม่ว่าอย่างไรจินเฟิงก็ต้องไม่พลาดโอกาสครั้งนี้
ในเมื่อโจวเหวิยเหยวียนได้สังหารทหารแล้ว ศัตรูของโจวกั๋วกงต้องไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปเป็นแน่
เห็นได้จากปฏิกิริยาของชิ่งมู่หลานในตอนนี้ นางเองก็ต้องการฆ่าโจวเหวินเหยวียนเช่นกัน
เมื่อได้ยินสิ่งที่จินเฟิงพูด ชิ่งมู่หลานก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “สมกับเป็นท่านอาจารย์จริง ๆ ใช่ เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโจวเหวินเหยวียน เรารู้แค่ว่าเขาเป็นอันธพาลที่กล้าสังหารทหารที่เฝ้าเมือง!”
“นี่ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญเพื่อบ้านเมืองจริง ๆ แล้วจะมีรางวัลหรือไม่?”
จินเฟิงถามอย่างไม่แน่ใจ
“ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล เมื่อพวกเรากลับมา ข้าจะส่งคนไปแจ้งท่านพี่และขอให้เขาเขียนหนังสือถึงราชสำนักเพื่อขอรางวัลให้ท่าน!”
ชิ่งมู่หลานตบหน้าอกของนางแล้วเอ่ย
เมื่อได้ยินสิ่งที่ชิ่งมู่หลานพูด จินเฟิงก็โล่งใจเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าตระกูลชิ่งอยู่เคียงข้างเขา
หากเขายืนหยัดแบบนี้โดยได้รับการสนับสนุนจากตระกูลชิ่ง แล้วเขายังต้องกลัวอะไรอีก?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ จินเฟิงก็เฆี่ยนก้นม้าอีกครั้งเพื่อให้มันวิ่งเร็วขึ้น
…
ตระกูลโจวเองก็เป็นตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองหลวง โจวเหวินเหยวียนและผู้คุ้มกันของเขาขี่ม้าศึกตัวสูงที่นำมาจากเฉ่าเหยวียน ซึ่งมีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้เขาได้วิ่งไปไกลกว่าสิบลี้แล้ว
โจวเหวินเหยวียนมองย้อนกลับไปและเห็นว่าไม่มีใครไล่ตามมา จึงดึงสายบังเหียนเพื่อให้ม้าหยุด
“นายน้อย หยุดทำไมหรือ?”
ผู้ติดตามถามอย่างเป็นกังวล “ตอนนี้เรายังอยู่ใกล้กวางเหยวียนมากเกินไป จินเฟิงอาจไล่ตามเราเมื่อใดก็ได้”
“อาจารย์ชวี ข้าทนไม่ไหวแล้ว ขาข้าเจ็บมากเกินไป”
เขาถูกลูกธนูปักเข้าที่ขา ทุกครั้งที่ม้าศึกก้าวไปข้างหน้า ลูกธนูก็จะขยับ ทำให้โจวเหวินเหยวียนเหงื่อออกมาก และใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดเพราะความเจ็บปวด
ผู้คุ้มกันกระโดดลงจากหลังม้าและเปิดเสื้อคลุมของโจวเหวินเหยวียน ก่อนจะเห็นว่ามีเลือดย้อมอานม้าจนเป็นสีแดง อีกทั้งโลหิตยังคงหยดลงมาตามกางเกงของอีกฝ่าย
ไม่แปลกใจเลยที่ใบหน้าของโจวเหวินเหยวียนจะซีดเซียวมากขนาดนี้
“นายน้อย บาดแผลของท่านต้องได้รับการรักษา ไม่เช่นนั้น เลือดจะไหลมากเกินไป”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์