บทที่ 306 หนีไม่พ้น
“ท่านอาจารย์ไม่ต้องกังวล ตอนที่ข้าเดินทางมาที่นี่ ใต้เท้าจวิ้นโส่วได้มอบหนังสือแต่งตั้ง-ถอดถอนเอาไว้ให้ข้า นับจากนี้ไปจ้าวถิงจือจะไม่ใช่เสี้ยนเว่ยแห่งอำเภอจินชวนอีกต่อไป!”
เซียวตูเว่ยหยิบหนังสือออกมาจากใต้แขนเสื้อ
เสี้ยนลิ่งไม่มีสิทธิ์แต่งตั้งหรือถอดถอนเสี้ยนเว่ย แต่จวิ้นโส่วที่มีระดับสูงกว่าสามารถถอดเสี้ยนเว่ยออกจากตำแหน่งได้ในกรณีฉุกเฉิน เพียงแต่เขาต้องรายงานต่อกรมขุนนางในภายหลังและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
ตามลำดับขั้นตอน จวิ้นโส่วจะต้องส่งคนไปที่จินชวนเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นก่อน และยืนยันว่าจ้าวเสี้ยนเว่ยนั้นเป็นผู้จ้างวานฆ่าและทำการปล้นชิงทรัพย์จินเฟิงจริง ๆ จากนั้นจึงจะออกหนังสือแต่งตั้ง-ถอดถอน
แต่นั่นใช้เวลานานเกินไป จวิ้นโส่วที่ได้ฟังเรื่องจากทหารผ่านศึกรีบลงนามในหนังสือและมอบให้เซียวตูเว่ยทันที
ไม่ใช่ว่าจวิ้นโส่วเชื่อในตัวจินเฟิงโดยไม่มีเงื่อนไขจริง ๆ แต่ตอนนี้มีเสี้ยนเว่ยในเมืองต้าคังเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีมือเท้าสะอาด แม้ว่าทหารผ่านศึกที่รายงานจะโกหก แต่อย่างมากเขาก็แค่ต้องเดินทางมาที่จินชวนด้วยตัวเองและหาหลักฐานการกระทำความผิดของจ้าวเสี้ยเนว่ยเพื่อรวบรวมส่งให้ราชสำนักเท่านั้น
หากเป็นเช่นนี้จะถือว่าจินเฟิงได้ติดหนี้บุญคุณเขาอย่างมหาศาล
จากมุมมองของจวิ้นโส่ว ข้อตกลงนี้ถือว่าดีมาก
“เซียวตูเว่ย จริง ๆ ข้าควรจะให้เจ้าได้หยุดพักเสียก่อน แต่จ้าวถิงจือรีบเดินทางออกไปตั้งแต่บ่ายวานนี้อย่างร้อนรน ข้าเองก็ส่งเถี่ยฉุยตามเขาไปแล้ว ถ้าเป็นไปได้ข้าหวังว่าเราจะออกเดินทางตามไปโดยเร็วที่สุด”
จินเฟิงกล่าวว่า “เมื่อเรื่องนี้คลี่คลาย ข้าจะพาพวกเจ้าทุกคนไปเลี้ยงตอบแทนที่ภัตตาคารเว่ยเจียในจินชวน”
“ท่านอาจารย์พูดเหมือนเราเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ ข้าเดินทางมาที่จินชวนแห่งนี้ก็เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาจริง ๆ”
เซียวตูเว่ยเก็บหนังสือแต่งตั้ง-ถอดถอนไว้ใต้แขนเสื้ออีกครั้ง “เรื่องนี้รอไม่ได้อย่างที่ท่านว่า เราออกเดินทางกันเลยดีหรือไม่?”
“ได้ เราออกเดินทางกันเถิด!”
ในไม่ช้า ขบวนที่ประกอบไปด้วยทหารม้าทั้งหมดก็เดินทางออกจากเฮยสุ่ยโกวและวิ่งไปตามถนนหลวง
เซียวตูเว่ยไม่เพียงแต่นำทหารและผู้คุ้มกันไปเท่านั้น แต่จินเฟิงยังนำชิ่งมู่หลานและจางเหลียงไปด้วย
ในบรรดาทหารที่นำโดยจ้าวเสี้ยนเว่ย มีเพียงผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้ากองทหารท้องถิ่นที่มีม้าศึก ส่วนทหารคนอื่น ๆ ล้วนต้องเดินเท้า ซึ่งแน่นอนว่าไม่สามารถเคลื่อนทัพไปได้ไวขนาดนั้น จนในช่วงสายกองทหารม้าของจินเฟิงจึงตามจ้าวเสี้ยนเว่ยทัน
เมื่อได้ยินม้าควบมาอยู่ข้างหลัง จ้าวเสี้ยนเว่ยก็รู้สึกเป็นกังวลในใจ เมื่อเขาหันกลับมาและเห็นเซียวตูเว่ย ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือด
ในความเป็นจริง จ้าวเสี้ยนเว่ยรู้สึกไม่สบายใจ นับตั้งแต่เขารู้ว่าพวกของเถี่ยฉุยกำลังติดตามเขาอยู่
แต่เถี่ยฉุยระมัดระวังมากและไม่ได้เข้าใกล้เกินไป เขามักจะติดตามอยู่ในระยะที่ห่างออกไปมากกว่าหนึ่งลี้
จ้าวเสี้ยวเว่ยหาข้ออ้างไม่ได้ แม้ว่าเขาอยากจะไล่อีกฝ่ายไปไกล ๆ ก็ตาม
ยิ่งไปกว่านั้น พวกของเถี่ยฉุยต่างก็ขี่ม้าศึกแห่งเฉ่าเหยวียน ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาอยากจะหลบหนีก็คงหนีไม่พ้น
อย่างไรก็ตาม เขายังมีความรู้สึกโชคดีอยู่ในใจ เนื่องจากแม่น้ำเจียหลิงอยู่ห่างจากที่นี่ไม่ถึง 20 ลี้ และพวกเขาน่าจะไปถึงในเวลาไปเกินหนึ่งชั่วยาม
เมื่อถึงเวลาเขาจะให้ทหารไปปล้นเรือสินค้า จากนั้นเขาก็จะสามารถหลบหนีไปได้ตามแผน
แต่การมาถึงของจินเฟิงและเซียวตูเว่ยได้ทำลายความหวังเล็ก ๆ ในใจเขาหมดแล้ว
จริง ๆ เขาคิดว่าจินเฟิงอาจเดินทางไปที่ตัวเมืองเพื่อนำกำลังเสริมมา แต่เขาไม่คิดว่าเซียวตูเว่ยจะเดินทางมาด้วยตัวเองอย่างรวดเร็วเช่นนี้!
“ทำอย่างไร ทำอย่างไรดี?”
จ้าวเสี้ยนเว่ยกังวลมากจนเหงื่อออกโชกและพยายามคิดหามาตรการตอบโต้อย่างรวดเร็ว
เมื่อมองดูทหารม้าที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ จ้าวเสี้ยนเว่ยก็กัดฟันและตะโกนเสียงดัง “ทุกคนฟังคำสั่ง สร้างกระบวนทัพทันที หยุดกลุ่มโจรที่โหดเหี้ยมนี้ซะ!”
ระยะทางเหลืออีกไม่ถึงยี่สิบลี้ ทหารจะต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วยามในการเดินไป แต่เขาควบม้าไป ดังนั้นเขาน่าจะไปถึงที่นั่นโดยใช้เวลาไม่ถึงสองก้านธูป
แต่เบื้องต้นเพื่อการหลบหนี ทหารเหล่านี้น่าจะสามารถช่วยเขาสกัดกั้นจินเฟิงได้
“ใต้เท้า คนที่อยู่ด้านหลังไม่ใช่พวกอันธพาล พวกเขาเป็นผู้คุ้มกันจากสำนักคุ้มภัยเจิ้นเหยวี่ยน!”
หัวหน้ากองทหารท้องถิ่นขมวดคิ้วและพูดว่า “และข้าก็เห็นท่านอาจารย์จินและเซียวตูเว่ยจากเมืองกวางเหยวียนด้วย”
เขาเป็นหัวหน้ากองทหารท้องถิ่นและต้องเข้าไปที่ตัวเมืองหลายครั้งจึงจำเซียวตูเว่ยได้ในทันที


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติ เปลี่ยนชะตา ชีวิตนี้ของข้าต้องรุ่งโรจน์